สังคม
สุดสงสาร หนูน้อยลูกครึ่งไทย-อังกฤษ พ่อหนีหาย ซ้ำเบาหวานขึ้นตา แม่หวั่นตาบอด วอนหมอช่วยรักษา
โดย thichaphat_d
7 มิ.ย. 2566
730 views
สุดสงสาร น้องแองเจิ้ล หนูน้อยลูกครึ่งไทย-อังกฤษวัย 9 ขวบ พ่อทิ้งหนีกลับบ้านไม่ติดต่อมา 3 ปี เคราะห์ซ้ำป่วยเบาหวานขึ้นตา เตรียมผ่าตัดวันที่ 8 มิ.ย.นี้ ครูเผยที่ผ่านมาเปิดเทอมไม่ได้ไปเรียนหนังสือ แม่น้ำตาคลอวอนคุณหมอเก่งเรื่องรักษาดวงตาช่วยเหลือรักษาดวงตาลูกสาว ยันไม่ขอเปิดรับบริจาค น้องแองเจิ้ลกล่าวจากใจดวงน้อยๆ ช่วยหนูที หนูอยากมองเห็นโตขึ้นจะเป็นคุณครู
เมื่อวันที่ 6 มิ.ย.66 ผู้สื่อข่าวจ.อุดรธานี รายงานว่า มีเรื่องราวสุดสงสาร เมื่อพบเรื่องราวของหนูน้อยวัย 9 ขวบน้องแองเจิ้ล อายุ 9 ขวบ ลูกครึ่งไทย-อังกฤษ เปิดเทอมแรกเดือนพ.ค.ที่ผ่านมาไม่ได้ไปเรียนหนังสือกับเพื่อน ต้องเตรียมเข้ารับการรักษาเพื่อรักษาอาการเบาหวานขึ้นตาโดยด่วน หากไม่รีบรักษาจะตาบอด
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปพบกับน้องแองเจิลที่บ้าน ต.บ้านชัย อ.บ้านดุง จ.อุดรธานี พบกับน้องแองเจิลอาศัยอยู่กับคุณแม่ชื่อนางอำพร พาร์ค อายุ 45 ปี โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นชั้นเดียว แต่ก่อสร้างไม่เสร็จ ทราบว่าน้องแองเจิลเป็นสาวน้อยลูกครึ่งไทย-อังกฤษ แต่พ่อชาวต่างชาติหนีกลับบ้านปล่อยทิ้งน้องแองเจิลอยู่กับแม่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว โดยไม่ติดต่อกลับมาอีกเลย
โดยขณะนี้น้องแองเจิลตามองไม่เห็น หรือเห็นแต่รางๆ ต้องอาศัยทักษะเดินไปเตียงนอน เดินไปห้องน้ำ หรือจับสิ่งของต้องใช้ภายในบ้าน อาศัยทักษะความเคยชินว่าจะเดินไปที่ไหนภายในบ้าน และเดินคล่องแคล่วเหมือนคนตาดี ขณะเดียวกันผู้สื่อข่าวมอบเงินให้ 100 บาทเพื่อให้น้องแองเจิลเก็บเอาไว้ไปรพ.อุดรธานี เพื่อให้คุณหมอเตรียมผ่าตัดตาในวันที่ 8 มิ.ย.นี้ แต่น้องแองเจิลบอกว่า หนูจะเอาไปหยอดกระปุกออมสิน
แม่ของน้องแองเจิล เปิดเผยว่า น้องแองเจิลเป็นลูกสาวคนเล็ก อายุ 9 ขวบ มีพ่อเป็นชาวอังกฤษ เมื่อ 3 ปีที่แล้วมีปัญหากัน สามีก็กลับบ้านที่ประเทศอังกฤษแล้วไม่ติดต่อมาหาอีกเลย ส่วนบ้านที่สร้างเอาไว้ก็สร้างไม่เสร็จ ต้องอยู่กับลูกตามลำพัง เมื่อเดือนเม.ย.66 ที่ผ่านมา น้องแองเจิลมีอาการตาเริ่มมองไม่เห็น ตอนนั้นไปเล่นกับเพื่อน พอกลับมาบ้าน น้องก็บอกว่า มามี๊หนูมองไม่ค่อยเห็น จากนั้นน้องก็เดินชนประตูที่บ้านยาย แต่ไม่กล้าบอกแม่ เพราะกลัวแม่ด่า ตนตกใจรีบพาไปหาคุณหมอที่รพ.สมเด็จพระยุพราชบ้านดุง
คุณหมอก็บอกว่า อาการน้องน่าเป็นห่วง เพราะมีอาการเบาหวานขึ้นตา และยังมีโรคไทรอยด์และต้อกระจกอีก ต้องรีบรักษาไม่เช่นนั้นตาจะบอด คุณหมอจึงทำเรื่องส่งตัวไปรพ.ศูนย์อุดรธานีทันที โดยใช้สิทธิการรักษาของรพ.บ้านดุง โดยน้องแองเจิลต้องเดินทางไปที่ รพ.เพื่อเตรียมผ่าตัดในวันที่ 8 มิ.ย.ด้วย
“หัวอกคุณแม่สงสารลูกมาก เขาอายุยังเล็ก พ่อมาทิ้งไปเคราะห์ซ้ำยังต้องตาจะบอดอีก ถ้าให้เลือกได้ขอให้แม่ตาบอดแทนก็ได้เพราะเขายังเด็กอนาคตยังไกล อยากให้มองเห็น พูดไปก็น้ำตาคลอ สงสารลูกมากต้องฉีดเลือดวันละ 4 ครั้งเห็นน้องแล้วทรมาน ยอมรับแต่ก่อนมีสามีคนนี้ก็พออยู่ได้ แต่หลังจากเขาทิ้งไปต้องอาศัยอยู่กับลูก รถที่เคยมีไว้ก็ขายหมด เพื่อเอาเงินมาจุนเจือครอบครัวและเป็นค่าใช้จ่ายที่พาน้องไปหาหมอ บางครั้งต้องนั่งรถบัสโดยสารประจำทาง แต่ที่ห่วงที่สุดตอนนี้คือห่วงลูกสาวคนนี้ไม่อยากให้เขาตาบอด ไม่ขอเปิดบริจาค แต่อยากจะให้คุณหมอที่เก่งๆ เรื่องดวงตาหรือใครก็ได้ช่วยน้องแองเจิลหายจากอาการตามองไม่เห็นด้วย หัวอกคนเป็นแม่พูดไปน้ำตาคลอไป”
ขณะที่น้องแองเจิลกล่าวอย่างไร้เดียงสาว่า ตอนนี้หนูไม่เจ็บตา หนูอยากมองเห็น โตขึ้นหนูอยากสมัครเป็นคุณครูค่ะ หนูรักคุณแม่ ไม่รักคุณพ่อเพราะคุณพ่อใจร้าย โตขึ้นหนูอยากเป็นคุณครูค่ะ
ทางด้านคุณครูอรพรรณ เจริญสุข ครูประจำชั้น ป.4 เปิดเผยว่า เป็นครูประจำชั้นน้องแองเจิลตอนเรียนอยู่ ป.3 ปีนี้น้องจะขึ้น ป.4 แต่เปิดเทอมเมื่อ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา น้องไม่ได้มาโรงเรียนได้เรียนหนังสือกับเพื่อนๆ เพราะน้องมองไม่เห็นต้องไปรักษาดวงตาที่รพ. รู้สึกสงสารน้องแองเจิลมาก เพราะน้องเขาน่ารักมาก เป็นเด็กดี เชื่อฟังคุณครู พูดจาไพเราะ อยากให้น้องหายจากดวงตาไม่เห็น กลับมาเรียนหนังสือเพราะเพื่อนๆ ถามหาทุกวัน
สำหรับเรื่องราวของน้องแองเจิล ผู้ที่ต้องการช่วยเหลือสามารถสอบถามรายละเอียดได้ที่ ครูอรพรรณ 085-9243335 , คุณแม่อำพรแม่ของน้องแองเจิล 099-0602629 และคุณวีระพล แอดมินเพจบ้านดุงอัพเดต 087-4239393