"บิ๊กตู่" นำถกครม. ย้ำส่วยทางหลวง หากพบเจ้าหน้าที่เอี่ยวต้องถูกลงโทษ

พลเอกประยุทธ์​ จันทร์โอชา​ นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะรัฐมนตรีเต็มคณะ ที่ตึกสันติไมตรีทำเนียบรัฐบาล ระหว่างที่พลเอกประยุทธ์​ เดินจากตึกไทยคู่ฟ้ามายังตึกสันติไมตรี​ ได้หยุดคุยกับ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา​ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า พลเอกอนุพงษ์ ได้มีการรายงานอะไรต่อนายกรัฐมนตรี​ พลเอกประยุทธ์ ได้หยุดฟังคำถามก่อนที่จะเดินเข้าไปรับชมกิจกรรม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประชาสัมพันธ์ เรื่องอุทยานธรณีโคราช ได้รับการรับรองจากองค์การยูเนสโก ให้เป็นอุทยานธรณีโลก ซึ่งเป็นแห่งที่ 2 ของประเทศไทย


จากนั้นพลเอกอนุพงษ์ ได้ชี้แจงว่า ตนได้รายงานเรื่องสถานการณ์สัมปทานไฟฟ้ากับประเทศเมียนมาต่อนายกรัฐมนตรี เนื่องจากขณะนี้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคได้ดำเนินการคู่ขนาน​ ในเรื่องคู่สัญญา​ ถ้าหากหมดสัญญา​แล้วก็ต้องดำเนินการตามกฎหมายต่อไป​ ซึ่งขณะนี้ ได้มีการแจ้งเตือนทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหมดแล้ว จนกว่าทางเมียนมาร์​จะต่อสัมปทาน​ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ส่งผลต่อปริมาณความต้องการการใช้ไฟฟ้าภายในประเทศ


เมื่อถามว่าจะต้องมีกรอบระยะเวลาหรือไม่​ พลเอกอนุพงษ์ ย้อนถามกลับว่า​ คุณถามอย่างไรเล่า​ ก็คร่าวๆสัญญาเขามีการแจ้งว่าให้สามารถทำสัมปทานได้


โดยภายหลัง​เสร็จสิ้นกิจกรรม พลเอกประยุทธ์​ ได้กล่าวถึงกรณีความคืบการตรวจสอบสติกเกอร์ส่วยทางหลวง​ ว่า​ขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการดำเนินการตรวจสอบ ซึ่งต้องสอบสวนทั้งผู้ให้และผู้รับ ต้องดูว่าผู้ให้กระทำความผิดด้วยหรือเปล่า ซึ่งก็ต้องดู เพราะปัญหาก็คือเมื่อมีคนเสนอก็ต้องมีทั้งผู้ให้และผู้รับ พร้อมยืนยันว่าต้องให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่าย แต่ตำรวจที่กระทำความผิดก็ต้องถูกลงโทษ


ส่วนกรณีที่เมียนมาไม่ขอต่อสัมปทานไฟฟ้าของไทยไปยังเมือง​ชเวก๊กโก จัดส่งผลกระทบต่อไทยในพื้นที่ดังกล่าวหรือไม่นั้น​ พลเอกประยุทธ์​ ระบุว่าเป็นเรื่องภายในของเขา พร้อมยืนยันว่าไม่มีผลกระทบต่อคนไทย