"กัน จอมพลัง" พาเยาวชนวัย 15 ปี ร้อง "บิ๊กโจ๊ก" หลังถูกปู่เลี้ยงข่มขืนนานหลายเดือน

ช่วงสายวันนี้(2 มิ.ย.)  นาย กัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ กันจอมพลัง พาผู้เสียหาย อาสาวอายุ 26 ปี พร้อมหลานสาว ชื่อเอ(นามสมมติ) อายุ 15 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือต่อคณะทำงานพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หลังเยาวชนอายุ 15 ปี รายนี้ถูก ปู่เลี้ยง ข่มขืนมานานหลายเดือน ก่อนที่ทางครอบครัวจะทราบเรื่องจากการพบหลักฐานบนโทรศัพท์มือถือของเยาวชนรายนี้ ซึ่งเป็นคลิปขณะที่เยาวชนแอบถ่ายไว้ตอนที่ถูกปู่ข่มขื่น นายกันจอมพลัง ระบุว่า ตนเองนำผู้เสียหายเข้ามาเพื่อร้องทุกข์กับพลตำรวจเอก สุรเชษฐ์

เนื่องจากคิดว่าการขอความยุติธรรมในคดีอาญาของประเทศไทยไม่สมควรต้องมีค่าใช้จ่ายเพราะทุกคนควรได้รับความเป็นธรรมในการช่วยเหลือทางคดีจากทางเจ้าที่ตำรวจเพราะถือว่าเป็นผู้เสียหายแต่ในคดีนี้

ผู้เสียหายกลับถูกทางตำรวจพูดขอเงินรางวัลนำจับกว่า 10,000 บาทโดยให้เหตุผลว่าผู้ก่อเหตุหลบหนีไปอยู่ต่างพื้นที่ต้องมีเงินไปจ้างตำรวจต่างถิ่นซึ่งตนเองไม่เข้าใจว่าการเป็นตำรวจไม่มีเงินเดือนหรืออย่างไร ทำไมถึงยังต้องมีการมาขอเงินจากทางผู้เสียหายหากผู้เสียหายไม่มีเงินก็จะไม่ได้รับความเป็นธรรมในการติดตามตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีหรือ ซึ่งคดีดังกล่าวมีการแจ้งความร้องทุกข์ตั้งแต่ช่วงเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมาจนถึงตอนนี้เป็นระยะเวลา เกือบจะหนึ่งปีตำรวจสถานีตำรวจภูธรเมืองนครปฐมยังไม่สามารถดำเนินการจับกุมตัวได้

ล่าสุดทราบจากทางผู้เสียหายว่ามีการส่งข้อมูลให้กับทางย่าของเยาวชนรายนี้ว่าตำรวจมีการติดตามข้อมูลจนทราบว่าปู่ผู้ก่อเหตุรายนี้มีความเคลื่อนไหวล่าสุดอยู่ในจังหวัดยโสธร ซึ่งหลักฐานดังกล่าวเป็นภาพจากกล้องการทางพิเศษที่บันทึกภาพรถยนต์ของปู่รายนี้ไม่ได้แต่เค้ายังไม่มีการดำเนินการใด ตนเองยืนยันว่าจะช่วยเหลือให้ผู้เสียหายรายนี้รับความยุติธรรมหากจำเป็นจะต้องจ่ายเงินจำนวน 10,000 บาทเพื่อให้คดีสามารถเดินหน้าได้ก็พร้อมจะเป็นคนกลางในการจ่ายเงินให้กับทางตำรวจ แต่ในวันนี้จะเดินทางเข้าพูดคุยกับพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ เพื่อขอให้มีความช่วยเหลือในคดีนี้รวมถึงตรวจสอบเจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ที่ทำหน้าที่ร้องขอเงินจำนวนดังกล่าวด้วยว่าผิดระเบียบหรือไม่ ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์จะไม่ปล่อยเรื่องนี้ให้ผ่านไป อย่างแน่นอน

ขณะที่ด้านอาสาว ได้ระบุบอกเล่าถึงเหตุการณ์ดังกล่าวว่า ตนเองได้มีการสอบถามกับทางหลานสาวหลังจากทราบเรื่องจนทำให้ทราบว่าหลานสาวถูกปู่เลี้ยงรายนี้ซึ่งพึ่งมาอยู่กินกับทางย่าได้ห้าปี ซึ่งบ้านที่ตนเองอยู่อยู่ด้วยกันทั้งหมดห้าคนคือตนเองและสามี ย่าและปู่เลี้ยงรายนี้ และตัวหลานสาวที่เป็นเยาวชนอายุ 15 ปี โดยหลานสาวได้เล่าให้ฟังว่าได้เริ่มถูกปู่เลี้ยงรายนี้ข่มขืนตั้งแต่ช่วงต้นปี 2565 ที่ผ่านมาโดยการเริ่มจากการเข้ามาตีสนิทชักชวนกินข้าวเย็นจนมีการพากันไปกินข้าวเย็นในห้องพักของปู่ ซึ่งทุกครั้งที่มีการจะทำจะเป็นช่วงเวลาที่ย่ามาอยู่บ้านเนื่องจากต้องไปทำงาน แต่ที่ผ่านมาหลานสาวไม่เคยเล่าอะไรให้ทางครอบครัวฟังรวมถึงไม่มีสิ่งผิดปกติเรื่องของความซึมเศร้าใดทั้งสิ้นทางครอบครัวจึงไม่รู้

จนต่อมา มาทราบจากการที่ตนเองเข้าไปเปิดโทรศัพท์ ของหลานสาวจึงพบคลิปที่มีการแอบบันทึกไว้จึงมีการสอบถามจึงได้ข้อมูลว่าถูกปู่เลี้ยงข่มขืนมานานเกือบปี แต่ที่ต้องบันทึกคลิปไว้เพราะ หลานสาวได้มีการไปเล่าให้เพื่อนฟังว่ามีอะไรกับปู่เลี้ยงแต่เพื่อนไม่เชื่อจึงมีการบันทึกคลิปไว้และส่งให้เพื่อนดู โทรศัพท์เรื่องตนเองจึงได้พูดคุยกับทางคนในครอบครัวและตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ. เมืองนครปฐม เป็นจังหวัดเดียวกันกับที่ปู่เลี้ยงรายนี้ หลบหนีออกจากบ้านไป โดยไม่มีการติดต่อกับย่าอีกเลย

มีรายงานว่าสำหรับปูเลี้ยงรายนี้คือ นายสมจิตร อายุ 52 ปี ปัจจุบันมีข้อมูลล่าสุดหลบหนีอยู่ในพื้นที่ภาคอีสาน ซึ่งในส่วนของการดำเนินคดีมีการออกหมายจับแล้วแต่ยังไม่มีการจับกุมตัว