น้ำมันโลกดิ่งแรง 2 วันติด เหตุกังวลผลโหวตเพดานหนี้ สหรัฐฯ จับตาน้ำมันไทยเย็นนี้

ราคาน้ำมันวันนี้ 1 มิถุนายน 2566 ราคาน้ำมันทั้งกลุ่มเบนซิน แก๊สโซฮอล์ และดีเซล ราคาไม่เปลี่ยนแปลง แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 35.15 บาท/ลิตร / ซูเปอร์พาวเวอร์ แก๊สโซฮอล์ 95 ราคา 42.64 บาท/ลิตร / แก๊สโซฮอล์ E20 ราคา 32.84 บาท/ลิตร / แก๊สโซฮอล์ E85 ราคา 33.29 บาท/ลิตร / แก๊สโซฮอล์ 91 ราคา 34.88 บาท/ลิตร / เบนซิน 95 ราคา 42.94 บาท/ลิตร / ดีเซล B7 ราคา 31.94 บาท/ลิตร / ดีเซลพรีเมี่ยม ราคา 41.06 บาท/ลิตร / ดีเซลหมุนเร็ว B20 ราคา 31.94 บาท/ลิตร / ดีเซล ราคา 31.94 บาท/ลิตร



จับตาเย็นนี้ อาจเห็นผู้ค้าปรับลดราคาขายปลีกในประเทศ หลังราคาในตลาดโลกดิ่งแรง 2 วันติดต่อกัน



ล่าสุด ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสดิ่งกว่า 1 ดอลล์ ท่ามกลางความไม่แน่นอนของการผ่านร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้สหรัฐ และผลการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส ในวันที่ 4 มิ.ย.



น้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส ลบ 1.37 ดอลลาร์ ปิดที่ 68.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ด้านน้ำมันดิบเบรนท์ ลดลง 88 เซนต์ ปิดที่ 72.66 ดอลลาร์/บาร์เรล



ทั่วโลกจับตาสภาคองเกรสสหรัฐ ซึ่งจะลงมติต่อร่างกฎหมายขยายเพดานหนี้ในวันนี้ เพื่อหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์



ล่าสุดเมื่อเวลา 07.30 น ตามเวลาไทย สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐจะลงมติผ่านร่างกฎหมายเพิ่มเพดานหนี้ ด้วยคะแนนเสียง 314 ต่อ 117 เสียง ซึ่งจะช่วยให้รัฐบาลสหรัฐสามารถหลีกเลี่ยงการผิดนัดชำระหนี้ครั้งประวัติศาสตร์



นอกจากนี้ นักลงทุนกังวลผลการประชุมของกลุ่มโอเปกพลัสในวันที่ 4 มิ.ย. ขณะที่รัสเซียประกาศขวางการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันเพิ่มเติมในการประชุมดังกล่าว

ขณะเดียวกัน ตลาดถูกกดดันจากตัวเลขเศรษฐกิจที่อ่อนแอของจีน และการแข็งค่าของดอลลาร์ ซึ่งจะลดความน่าดึงดูดของสัญญา โดยทำให้สัญญาน้ำมันมีราคาแพงขึ้นสำหรับผู้ถือครองเงินสกุลอื่น

ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ (1 มิ.ย.) ที่ระดับ 34.64 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้น” จากระดับปิดวันก่อนหน้า ที่ระดับ 34.80 บาทต่อดอลลาร์



มองกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ34.50-34.80 บาทต่อดอลลาร์



สำหรับแนวโน้มค่าเงินบาท โมเมนตัมการอ่อนค่าของเงินบาทแผ่วลงมากขึ้น ทำให้การอ่อนค่าต่อเนื่องของเงินบาทอาจต้องเห็น1) การแข็งค่าขึ้นชัดเจนของเงินดอลลาร์ ซึ่งก็อาจเกิดพร้อมกับการปรับฐานแรงของราคาทองคำ 2) การอ่อนค่าลงต่อเนื่องของเงินหยวนจีน และ 3) แรงขายหุ้นและบอนด์ไทยของนักลงทุนต่างชาติ



แรงกดดันเงินบาทในช่วงนี้จะอยู่ที่ทิศทางเงินหยวนของจีน และฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ โดยเงินหยวนของจีนมีโอกาสอ่อนค่าต่อได้บ้างตามภาพเศรษฐกิจจีนที่ฟื้นตัวได้แย่กว่าคาด ในส่วนฟันด์โฟลว์นักลงทุนต่างชาติ แม้ยังคงเห็นแรงขายหุ้นไทยอย่างต่อเนื่อง ทว่าหากความกังวลต่อการพิจารณาร่างข้อตกลงเพดานหนี้ลดลงและทำให้บรรยากาศในตลาดกลับมาเปิดรับความเสี่ยง นักลงทุนต่างชาติก็อาจเริ่มกลับมาซื้อหุ้นไทยได้บ้าง



ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองสหรัฐฯ (ประเด็นขยายเพดานหนี้) และการเมืองไทย ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน