เลือกตั้งและการเมือง

‘อ.เดชา’ ทวนความจำ ‘พิธา’ เคยเดินรณรงค์-ปราศรัย เป็นหนี้บุญคุณ ‘กัญชา’ ช่วยหายป่วยจากโรคลมชัก

โดย petchpawee_k

27 พ.ค. 2566

591 views

"อ.เดชา" ทวนความจำ "พิธา" เคยร่วมเดินรณรงค์ ปราศรัยว่า เป็นหนี้บุญคุณ "กัญชา" ที่ทำให้หายจากโรคลมชัก ลั่นถ้าปีนี้ “พิธา”ได้เป็นนายกฯ แล้วเอากัญชาเข้าบัญชียาเสพติด จะเดินรณรงค์ปลดล็อก เพื่อเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติดอีกครั้ง เชื่อครั้งนี้ “พิธา”คงไม่มาร่วมเดิน


วานนี้ (วันที่ 26 พ.ค.) นายเดชา ศิริภัทร ผู้ก่อตั้งมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี ปราชญ์ชาวนา หมอพื้นบ้าน เจ้าของสูตรน้ำมันกัญชา ได้โพสต์ข้อความระบุว่า “วันนี้นักข่าวจากมติชน เดินทางมาสัมภาษณ์ผม ในฐานะหมอพื้นบ้านที่ใช้กัญชา เขาถามว่าถ้ารัฐบาลชุดใหม่เอากัญชาเข้าบัญชียาเสพติดอีก จะทำอย่างไร ผมเล่าให้เขาฟังว่าเมื่อปี 2562 กัญชายัง อยู่ในบัญชียาเสพติด ผมเดินรณรงค์ 20 วัน


เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติด มีผู้มาร่วมเดินด้วยมากมาย จำได้ว่าคุณ พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ก็มาร่วมเดินรณรงค์กับผม และได้ปราศรัยกับผู้ร่วมเดิน ว่าเป็นหนี้บุญคุณกัญชาที่ทำให้หายจากโรคลมชัก จึงเห็นด้วยในการเดินรณรงค์รั้งนี้”


แต่ถ้าปีนี้คุณ พิธา ได้เป็นนายกรัฐมนตรี แล้วเอากัญชากลับเข้าบัญชียาเสพติดอีก ผมก็จะเดินรณรงค์ เพื่อเอากัญชาออกจากบัญชียาเสพติดอีกครั้ง และผมเชื่อว่า ครั้งนี้คุณ พิธา คงไม่มาร่วมเดินกับผมอีกอย่างแน่นอน แต่ประชาชนคนไทยที่จะมาเดินกับผม คงมีมากกว่าปี 2562 หลายเท่า ผมเชื่ออย่างนั้น”


ต่อมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปพบกับอาจารย์ เดชา ศิริภัทร ผู้ก่อตั้งมูลนิธิข้าวขวัญ จ.สุพรรณบุรี  เป็นหนึ่งในคนที่ต่อสู้เพื่อให้กัญชาทางการแพทย์ถูกกฎหมายมานานนับสิบปี เปิดเผยว่า ผมไม่ใช่นักการเมืองและไม่ได้เกี่ยวกับใคร ผมเป็นหมอพื้นบ้านที่ใช้กัญชารักษาโรคและเป็นกลุ่มที่รณรงค์เอากัญชาออกจากยาเสพติด ซึ่งกัญชาเป็นยาเสพติดตั้งแต่ปี พ.ศ.2522 เมื่อก่อนไม่ได้เป็นจนมาถึงปี 2565 ถึงได้เอาออกจากยาเสพติดและให้ประชาชนคนไทยปลูกกัญชาได้ แต่ต้องไปแจ้งว่าเราปลูกกัญชาแล้ว และตนเชื่อว่าจนถึงขณะนี้มีคนที่เข้าไปแจ้งในแอปปลูกกัญชาเกิน 40 ล้านคนเกินครึ่งประเทศ นี่เฉพาะที่แจ้ง แต่ที่ไม่แจ้งอีกจำนวนมาก


ฉะนั้นคนค่อนประเทศเห็นว่ากัญชาไม่ใช่ยาเสพติดก็ปลูกกัน หลังจากที่กัญชาออกจากยาเสพติดเกือบปีมาแล้วไม่เห็นว่ามีข่าวอะไรที่เป็นโทษจากกัญชา ไม่มีคนตายจากกัญชา ที่ตายเพราะเรื่องอื่นไม่ใช่กัญชา เมื่อเอาไปเปรียบกับเหล้า หรือสุราก้าวหน้าที่ลงนาม MOU ให้ส่งเสริมการเข้าถึงสุราได้มากขึ้น



ถามว่า 1 ปีที่ผ่านมามีคนตายจากสุรากี่คน ทางตรงคือโรคตับแข็ง โรคหัวใจ อะไรต่างๆ และทางอ้อมก็คือเมาแล้วขับ ช่วงเทศกาล สงกรานต์ ปีใหม่ มีคนตายเท่าไหร่ และทะเลาะวิวาท เกิดฆาตกรรมอีกเยอะแยะ นั่นคือเหล้าเทียบกัน 2 อย่างนี้ กัญชาไม่มีปัญหาอะไรเลยแต่เหล้าปัญหาเยอะแยะ แต่คุณก็จะเอากัญชาไปเข้ายาเสพติดส่วนเหล้ากลับปล่อยให้ขายกัน ร้านสะดวกซื้อก็ขายได้ ซึ่งอันนี้ก็แปลก ของที่เป็นโทษไม่ควบคุมกลับส่งเสริม


ส่วนของที่ไม่เป็นโทษกลับควบคุม โดยเฉพาะยาตำหรับผม ยาหมอเดชา ที่ขึ้นตำหรับแล้วให้กระทรวงสาธารณสุข ไปวิจัยแล้ว ตั้งแต่ปี 2562-2564 วิจัยไปแล้ว 180,000 กว่าคน วิจัย 8 โรคงานวิจัยบอกว่ารักษาได้ทุกโรคได้ผลเกิน 80 % ทุกโรค จนกระทั่ง ทาง 30 บาทรักษาทุกโรคได้เอาน้ำมันกัญชาของตนไปเข้าในตำหรับ ในรายการ 30 บาทรักษาทุกโรค 3 โรคด้วยกันคือ 1 โรคมะเร็ง 2 โรคพากินสัน 3 โรคไมเกรน ปวดหัวข้างเดียวประโยชน์ขนาดนี้แล้วโทษไม่มีแล้วคุณ ทำไมเอาไปเข้ายาเสพติด



ส่วนสุรามีแต่โทษประโยชน์ไม่มีคุณกลับปล่อยให้ขายในร้านสะดวกซื้อ ผมเป็นหมออยากถามว่าคุณจะส่งเสริมให้คนเป็นโรคมีอันตรายมีอาชญากรรมขึ้นทั้งประเทศหรือ แต่ยาดีๆแบบนี้ที่รักษาโรคได้มากมายมหาศาลมีแต่ประโยชน์คุณเอาไปจำกัดทำไม เรื่องอื่นเยอะแยะไม่ทำผมเคยคัดค้านกัญชาตั้งแต่ยังไม่ถูกกฎหมายและเป็นส่วนหนึ่งในการเอากัญชาออกจากยาเสพติด ผมเดินตั้ง 20 วันตอนปี 2562 ตอนที่ผมเดินคุณพิธา ก็ยังมาเดินกับผมด้วยเขายังพูดในที่สาธารณะเลยว่ากัญชาดีรักษาโรคได้เยอะแยะ ไม่มีอันตรายหรอกควรส่งเสริมสันทนาการด้วยซ้ำไม่มีโทษหรอก คุณพูด ชัดๆตอนคุณเป็นผู้สมัคร สส.อนาคตใหม่ ตอนปี 2562


 ตอนนี้คุณจะเป็นนายกรัฐมนตรี คุณมาพูดกลับคำ ว่ากัญชามีโทษต้องเอาเข้ายาเสพติด คุณคนเดียวกัน พูดแบบนี้ได้อย่างไร เราไม่ยอมหรอกเราไม่ได้เกี่ยวกับการเมืองเราเกี่ยวกับเรื่องสุขภาพของประชาชน ผมเป็นหมอและมีส่วนเอาออกจากยาเสพติด และก็พิสูจน์แล้วว่าไม่ใช่ยาเสพติดมีแต่ประโยชน์โทษไม่มี คุณต้องเอาเหล้านั่นแหละไปควบคุมให้ดี ถ้าคุณกลัวก็ออกหมายมาควบคุมเหมือนบุหรี่สิ อาจารย์เดชา กล่าว



ทั้งนี้ในโพสต์ของอ.เดชา มีชาวเน็ตได้โพสต์ภาพคุณพิธา อยู่ด้านหลัง อ.เดชา ซึ่งเป็นกิจกรรมเดินรณรงค์ เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน ปี 2562


และยังมีคลิปที่คุณพิธา ให้สัมภาษณ์กับทางมติชน เรื่องการใช้กัญชารักษาโลกลมชัก โดยให้สัมภาษณ์ในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2562 โดยในคลิปกล่าวว่า เนื่องจากว่าตนเป็นโรคลมชัก ในช่วงที่ตนเรียนอยู่ที่อเมริกา จึงต้องใช้ CBD ใน กัญชาในการรักษาหากไม่ใช้กัญชาก็ต้องใช้ยาตัวอื่นในการรักษา และยังพูดถึงในกรณีประเทศจาไมก้า ที่มีพื้นที่ที่สามารถใช้กัญชาเพื่อสันทนาการได้ และนำรายได้จากกัญชามาสร้างโรงเรียนและสนับสนุนการศึกษาในพื้นที่


ชมผ่าน YouTube ได้ที่นี่ : https://youtu.be/Y7bVDm6SHWs

คุณอาจสนใจ

Related News