อาชญากรรม

คุมตัวโจรชิงทองห้างบางแค 71 เส้นทำแผน สารภาพอยากตั้งหลักชีวิตใหม่ ติดหนี้ 1 แสนบาท

โดย paranee_s

25 พ.ค. 2566

1.5K views

เวลา 12.45 น. พนักงานสอบสวนควบคุมตัว นายนิธินันท์ อายุ 35 ปี ผู้ต้องหาที่ก่อเหตุชิงทองร้านทองในห้างย่านบางแค ออกจาก สน.หลักสอง เพื่อไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่จุดเกิดเหตุ โดยผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้ต้องหาว่าทำไมจึงก่อเหตุ และอยากพูดอะไรหรือไม่ แต่ผู้ต้องหาไม่ตอบคำถามใด ๆ


ต่อมา พลตำรวจตรีนพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล พร้อมด้วย พลตำรวจตรีพงศ์อานันต์ คล้ายคลึง ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เดินทางมาแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหาที่จุดเกิดเหตุ


พลตำรวจตรีนพศิลป์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 ได้ร่วมกันกับผู้บังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ร่วมกันติดตามตัวคนร้าย ซึ่งจากการสืบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานพบว่า คนร้ายได้สวมหมวกกันน็อกเต็มใบสีดำ, เสื้อเชิ้ตสีแดง, กางเกงยีนส์สีดำ, รองเท้าผ้าใบสีดำ, ถุงมือสีดำ พร้อมอาวุธปืน บุกเข้ามาจี้พนักงานร้านทอง และบอกว่า หากกดออดจะยิงปืน ก่อนปีนขึ้นตู้กระจก แล้วไปเปิดถาดคว้าสร้อยคอทองคำจำนวนหนึ่ง แล้ววิ่งไปขึ้นรถยนต์สีขาวที่จอดไว้ในลานจอดรถขับหลบหนีออกไป


โดยจากการตรวจสอบทะเบียนรถคันดังกล่าวพบว่ามีการขายทอดตลาดมาแล้ว 4 ทอด ซึ่งรูปพรรณสัณฐานของผู้ครอบครองรถคนปัจจุบัน ตรงกับคนร้าย ประกอบกับการติดตามไล่กล้องวงจรปิดเส้นทางที่คนร้ายขับรถหลบหนี พบว่ามีการนำรถไปจอดไว้ที่ตึก 21 หมู่บ้านในพื้นที่บางบัวทอง จังหวัดนนทบุรี เจ้าหน้าที่จึงเข้าไปตรวจค้น ก็พบตัวคนร้าย ซึ่งได้ให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลที่มาก่อเหตุชิงทรัพย์จริง


เมื่อตรวจค้นภายในห้องพัก พบสร้อยคอทองคำประมาณ 60 เส้น และมีเศษที่ขาดอีก 3 ส่วน พร้อมเครื่องแต่งกายที่คนร้ายสวมใส่ขณะก่อเหตุ ส่วนอาวุธปืนที่ใช้เป็นปืนปลอม คนร้ายบอกว่าเป็นปืนเด็กเล่นที่เจอในถังขยะหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดของกลางทั้งหมดและควบคุมตัวคนร้ายมาสืบสวนต่อที่ สน.หลักสอง


จากการสอบสวน คนร้ายให้การยอมรับสารภาพว่าก่อเหตุเพราะมีหนี้สินกับธนาคารต่าง ๆ รวมเกือบ 1 แสนบาท ซึ่งต้องการตั้งหลักชีวิตใหม่ จึงตัดสินใจมาปล้นร้านทอง และตัดสินใจวางแผนก่อเหตุในวันเดียว โดยก่อนจะมาก่อเหตุที่ห้างย่านบางแค ได้ตั้งใจจะไปก่อเหตุที่ร้านทองในห้างย่านเพชรเกษม แต่ร้านทองดังกล่าว มีประตูกระจกนิรภัย


เมื่อพนักงานเห็นคนร้ายสวมหมวกกันน็อกและไม่ยอมถอด จึงไม่เปิดประตูให้ คนร้ายจึงวนไปถึงย่านอ้อมน้อย จังหวัดสมุทรสาคร แต่ก็ไม่เจอร้านที่เหมาะจะก่อเหตุ จึงย้อนกลับมาที่ห้างโลตัสบางแค


สำหรับสร้อยคอทองคำของกลาง จากการสอบถามร้านทองผู้เสียหายบอกว่า คนร้ายได้ขโมยไปประมาณเกือบ 70 เส้น มูลค่าประมาณ 2 ล้านบาท แต่เบื้องต้นตำรวจตรวจยึดมาได้ 60 เส้นกับเศษอีก 3 ส่วน จึงต้องไปตรวจสอบเพิ่มเติมให้ละเอียด แต่จากการสอบถามคนร้าย ยืนยันว่าหลังก่อเหตุยังไม่ได้นำทองไปขายที่ไหน หลบหนีกลับห้องพักทันที และกำลังวางแผนว่าจะทำอย่างไรกับทองที่ขโมยมา


โดยพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา ชิงทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะและรับของโจร และในวันพรุ่งนี้จะนำตัวไปขออำนาจศาลฝากขังต่อไป ทั้งนี้ จากการตรวจสอบประวัติ ไม่พบว่ามีประวัติอาชญากรรมมาก่อน โดยคนร้ายเคยทำงานเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย แต่ตอนนี้ตกงาน


โดยในช่วงของการทำแผนประกอบคำรับสารภาพ พนักงานร้านทอง ได้ถามผู้ต้องหาว่า หลังเกิดเหตุได้นำทองที่ชิงไปขายต่อหรือนำไปขายฝากกับบุคคลใดหรือไม่ เพราะของกลางที่เจอ ยังไม่ครบกับจำนวนทองที่หายไป ผู้ต้องหาก็ยืนยันเสียงแข็งว่า ไม่ได้นำทองไปจำหน่ายที่ไหน โดยหลังเกิดเหตุก็ตรงกลับเข้าที่พักเพียงอย่างเดียว แล้วยังบอกกับพนักงานอีกว่า เดี๋ยวถ้าพรุ่งนี้ได้ประกันตัวออกมา จะมาเคลียร์ค่าเสียหายให้


ส่วนพนักงานร้านทอง เปิดเผยกับทีมข่าวว่า รู้สึกงงกับการที่ผู้ต้องหาบอกว่าจะประกันตัวแล้วมาเคลียร์ค่าเสียหายให้ โดยรู้สึกว่าผู้ต้องหาไม่ได้มีความสำนึกหรือรู้สึกผิดเลย ทั้งนี้ ก็ดีใจที่ตำรวจสามารถตามจับตัวผู้ก่อเหตุได้ แต่เรื่องของสภาพจิตใจก็ยังไม่ดี ยังขวัญผวากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ด้าน นายวิเชียร อายุ 67 ปีที่ปฏิบัติหน้าที่ในวันที่เกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะปฏิบัติหน้าที่อยู่เห็นคนร้ายใช้อาวุธปืนปลอมทุบกระจกจึงรีบเข้าไประงับเหตุ โดยการกระชากล็อกขาของคนร้ายไว้เพื่อไม่ให้คนร้ายหลบหนีแต่คนร้ายยังพยายามใช้อาวุธปืนที่ข่มขู่ก่อนที่จะสู้แรงไม่ไหวทำให้คนร้ายหลบหนีไป


ทั้งนี้ ยอมรับว่าในขณะเกิดเหตุตนเองต้องการเข้าไประงับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเท่านั้นโดยไม่ได้สนใจว่าตนเองจะเป็นอันตราย ต้องการจากตลาดนัดเขตการดังกล่าวและเป็นห่วงพนักงานรวมถึงผู้ใช้บริการในห้าง หลังเกิดเหตุก็พยายามตั้งสติ ใช้วิทยุสื่อสาร ว.เรียกเพื่อนลงมาช่วย แต่คนร้ายหลบหนีไปได้ จึงแจ้งตำรวจมาดำเนินการ ทั้งนี้ตั้งแต่ทำงานรปภ.มาก็ไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ภูมิใจที่ได้ช่วยเหลือคนอื่น

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ