สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 23 พ.ค.66 แถลง MOU ตั้งรัฐบาลก้าวไกล-เพื่อไทยปัดข่าวรวม พปชร.-ทนายพัชเอี่ยวช่วยแอม

โดย thichaphat_d

23 พ.ค. 2566

63 views

-ฝนตกหนัก ซัดหลังคาโดมในโรงเรียนวัดเนินปอ จ.พิจิตร ถล่ม ทำให้นักเรียนที่ไปซ้อมฟุตบอล และชาวบ้านเข้าไปหลบฝนก่อนเกิดเหตุ พบผู้เสียชีวิตเบื้องต้น 6 ราย บาดเจ็บนับ 10

-ศรีสุวรรณ บุกร้อง กกต. ครั้งที่ 6 ในรอบเดือน สอบ 3 แกนนำก้าวหน้า กินข้าวร่วมจัดตั้งรัฐบาล เข้าข่ายครอบงำพรรค ลั่นจากนี้จะไม่ส่งหมายข่าวแจ้งสื่อ เหตุไม่อยากเผชิญหน้าคนเห็นต่าง พร้อมเปิดหน้ากากโชว์แผลที่ถูกชกว่าหายดี กินน้ำพริกได้แล้ว

ด้าน ลุงศักดิ์ ควง ทนายอั๋น มาดักเจอ ศรีสุวรรณ เก้อ เพราะอีกฝ่ายเลี่ยงพบหน้า ยื่นเรื่องวอน กกต.พิจารณาเป็นธรรม ยึดหลักเสียงข้างมาก ให้คนรุ่นใหม่บริหารประเทศ ทนายอั๋นจี้ถาม พี่ศรี รับงานใครมาร้อง จนเป็นต้นตอของปัญหา จากนี้ไปพร้อมตามไปคัดค้านศรีสวุรรณ ทุกที่ ที่ไปยื่นเรื่อง

-ทนายพัช เบี้ยวนัด ไม่เข้ารับทราบข้อหาตำรวจกองปราบ อยู่เบื้องหลังการจัดฉากย้ายหลักฐานเพื่ออำพรางคดีก้อย เหยื่อ แอม ไซยาไนด์ ตำรวจเตรียมออกหมายเรียกอย่างเป็นทางการ

-แซน วิศาพัช ขึ้นศาลฟ้องแม่แตงโม หมิ่นประมาท ปมแจกเอกสารอ้างให้สื่อหน้าศาล กล่าวหาข่มขู่พยาน เรียกค่าเสียหาย 50 ล้านบาท รับหนักใจ อยากเตือนให้แม่คิดดีๆ ก่อนพูด เพราะทำให้คนอื่นเดือดร้อน ย้ำจำเป็นต้องฟ้อง เพราะต้องรักษาสิทธิ์ ด้านแม่แตงโมและทีมทนาย ขอเลื่อนนัดไต่สวน เนื่องจากติดว่าความและป่วยโควิค



เรื่องเล่าการเมือง

-ไฮไลท์การเมืองเมื่อวาน คือการแถลง MOU จัดตั้งรัฐบาลของ 8 พรรคการเมืองนำโดยพรรคก้าวไกล ซึ่งมีภารกิจร่วมของรัฐบาล 23 ข้อ และแนวปฏิบัติในการบริหารประเทศอีก 5 ข้อ

เมื่อวาน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล พร้อมหัวหน้าพรรคที่ร่วมจัดตั้งรัฐบาลอีก 7 พรรค ได้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจหรือ MOU ในการจัดตั้งรัฐบาล โดยเลือกแถลงเมื่อวาน เพราะเป็นวันครบรอบ 9 ปี ของการยึดอำนาจโดย คสช.เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 และเลือกเวลาช่วงเย็น ซึ่งเป็นช่วงเวลาไล่เลี่ยกับการประกาศยึดอำนาจ

เนื้อหาภารกิจที่พรรคร่วมรัฐบาลจะผลักดันร่วมกัน ที่ระบุไว้ใน MOU ทั้งหมด 23 ข้อ ซึ่งส่วนใหญ่คือ 22 ข้อ ก็เป็นไปตามร่าง MOU ที่ทางช่อง 3 ของเราเผยแพร่ก่อนหน้านี้ มีเปลี่ยนแปลงเพียงข้อเดียว คือ เพิ่มเรื่องยกระดับระบบสาธารณสุข เข้ามาแทนเรื่องการอำนวยความยุติธรรมในคดีที่เกี่ยวข้องกับการแสดงออกทางการเมือง หรือการนิรโทษกรรมคดีทางการเมือง

และเพิ่มถ้อยคำในข้อ 4 เรื่องเปลี่ยนการเกณฑ์ทหารแบบบังคับ เป็นระบบสมัครใจ โดยเพิ่มข้อความว่า "ทั้งนี้ยังคงไว้ซึ่งการเกณฑ์ทหารในยามศึกสงคราม"

ข้อ 10 เรื่องยกเลิกการผูกขาดและส่งเสริมการแข่งขันทางการค้าที่เป็นธรรมในทุกอุตสาหกรรม เช่น เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพิ่มข้อความว่า "โดยพรรคประชาชาติขอสงวนสิทธิ์ในการไม่เห็นด้วยเฉพาะเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ด้วยเหตุผลด้านศาสนา"

โดยในคำอธิบายเกี่ยวกับ MOU ได้เพิ่มข้อความในส่วนภารกิจของรัฐบาลที่ทุกพรรคจะผลักดันร่วมกัน ว่า " ต้องไม่กระทบกับรูปแบบของรัฐและการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และการดำรงอยู่ในสถานะ อันเป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดมิได้ขององค์พระมหากษัตริย์"

นอกจากภารกิจ 23 ข้อ ยังมีแนวทางปฏิบัติในการบริหารประเทศ อีก 5 ข้อ ซึ่งก็เป็นไปตามร่าง MOU ที่เผยแพร่ก่อนหน้านี้ เช่น ทุกพรรคจะทำงานโดยซื่อสัตย์สุจริต หากมีบุคคลของพรรคใดมีพฤติกรรมทุจริต คอร์รัปชัน ทุกพรรคจะยุติการดำรงตำแหน่งของบุคคลนั้นๆ ทันที รวมถึงทุกพรรคสามารถผลักดันนโยบายอื่นเพิ่มเติมโดยอาศัยกลไกลฝ่ายบริหาร และฝ่ายนิติบัญญัติ แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับนโยบายใน MOU นี้



-จากนั้น นายพิธา ได้เปิดโอกาสให้สื่อมวลชนได้ซักถาม ประเด็นที่ถูกถามมากที่สุด คือเรื่อง ม.112 ที่ไม่ได้ระบุไว้ใน MOU ซึ่งนายพิธา ยืนยันว่าพรรคก้าวไกล จะเดินหน้าแก้ไขมาตรา 112 ซึ่งพรรคก้าวไกลเคยยื่นไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2564 แต่ยังไม่มีการบรรจุในวาระ เชื่อว่าครั้งนี้จะสำเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดี และมั่นใจว่าการแสดงจุดยืนแก้ไขมาตรา 112 จะไม่กระทบกับเสียงให้เป็นนายกฯ เพราะเรามีทีมเจรจา มีโอกาสได้ตอบข้อกังวลใจหลายเรื่อง อีกทั้งใน MOU ก็ระบุชัดว่า จะดำรงอยู่ในฐานะที่เป็นที่สักการะผู้ใดจะละเมิดไม่ได้ของพระมหากษัตริย์ น่าจะทำให้ ส.ว.และประชาชนจำนวนมากสบายใจได้

นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวยังได้ถามพรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ถึงจุดยืนต่อการแก้ไขมาตรา 112 ด้วย ซึ่ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ระบุว่า ต้องดูเนื้อหาร่างแก้ไข มาตรา 112 ที่จะมีการเสนอมาก่อน ขณะที่คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย ยืนว่า จุดยืนของพรรคคือไม่แก้ไขและไม่ยกเลิก มาตรา 112 ส่วน พล.อ.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย ระบุว่า พรรคไม่มีนโยบายในเรื่องนี้



-อีกประเด็นที่ผู้สื่อข่าวซักถามในวงแถลงข่าวหลายรอบ คือเรื่องจุดยืนของพรรคเพื่อไทยในการจับมือกับพรรคก้าวไกล ท่ามกลางกระแสข่าวว่าอาจจะมีการยุบพรรคพลังประชารัฐมารวมกับพรรคเพื่อไทยเพื่อเป็นแกนนำจักตั้งรัฐบาล

ซึ่งนายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทยก็ย้ำว่าจุดยืนของพรรคเพื่อไทย คือ สนับสนุนให้พรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาลให้สำเร็จ ให้นายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้

ขณะที่ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติ ได้ขอทุกฝ่ายให้โอกาสรัฐบาลก้าวไกลทำงาน โดยบอกว่า ในเมื่อท่านยังให้โอกาสกับคนที่ยึดอำนาจตั้ง 9 ปี วันนี้จึงโอกาสให้กับพวกเราที่มาจากอำนาจของประชาชน ไม่มีการเจรจาใด ที่จะพอใจ 100 % แต่ต้องถอยคนละก้าว เพื่อก้าวไปข้างหน้า เพื่อประชาชน ที่มีความหวังอยากเห็นประเทศเปลี่ยนแปลง



-ความเคลื่อนไหวอีกด้าน เมื่อวานนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ปลุกใจสมาชิกพรรครวมไทยสร้างชาติให้เดินหน้าทำงานต่อ ยืนยันไม่ยุ่งเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล แต่ขอทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบ

นี่เป็นบรรยากาศ ช่วงบ่ายเมื่อวานนี้ ที่ พล.อ ประยุทธ์ จันทร์โอชา ในฐานะประธานคณะกรรมการกำหนดแนวทางและยุทธศาสตร์พรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางเข้าร่วมประชุมกรรมการบริหารพรรค และ พบปะกับว่าที่ 36 ส.ส.ของพรรค

ทันที ที่มาถึง ก็มีแฟนคลับ มาให้กำลังใจ และระบุว่า “ขอให้ พล.อ.ประยุทธ์ อดทนอย่าท้อ” ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า “อย่าไปอ่านโซเชียลมาก อาจจะทำให้ไม่สบายใจ”

ซึ่งบรรยากาศของแฟนคลับที่มารอให้กำลังใจ ยังมีคุณจารุณี สุขสวัสดิ์ อดีตนางเอกชื่อดังด้วย บอกว่า มีอุดมการณ์เดียวกัน คือ รักสถาบัน และยืนยันไม่คิดเล่นการเมือง

ช่วงก่อนประชุม ผู้สื่อข่าว ได้สอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ กรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้ ส.ว.โหวตให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ว่า “ไม่ใช่เรื่องของผม เป็นเรื่องของกระบวนการกฎหมายที่จะว่ากันไป”

ขณะที่หลังประชุมพรรค พล.อ ประยุทธ์ ให้สัมภาษณ์ ว่า ได้ให้กำลังใจว่าที่ ส.ส. โดยขอให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และ เดินกิจกรรมของพรรคต่อไป พร้อมย้ำว่า ไม่ยุ่งเกี่ยวเรื่องการจัดตั้งรัฐบาล แต่บอกว่ายังมีหลายขั้นตอน และขอทำให้บ้านเมืองสงบ รักษาสถาบันไว้ให้ได้

ช่วงหนึ่ง ยังพูดถึงตลาดหุ้นตก ว่า เป็นเรื่องของประชาชนที่เลือกกันมา และ ตัดพ้อ 9 ปีรัฐประหารว่า “คนลืมกันหมดแล้ว”

พูดถึงเมื่อวานนี้ เพจพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้โพสต์คลิปวีดีโอของ พล.อ.ประยุทธ์ ขอบคุณผู้สมัครส.ส.ทั่วประเทศ ที่ทุ่มเทหาเสียงอย่างเต็มที่ และขอให้มีกำลังใจอย่าท้อถอย ต้องเดินหน้าเข้าหาประชาชนให้มากหลังเลือกตั้ง พร้อมเร่งสรุปบทเรียนและเตรียมความพร้อมเพื่อความสำเร็จในคราวถัดไป “ชัยชนะจะรออยู่ข้างหน้า”



-ขณะที่วันนี้ ต้องจับตากลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดเคลื่อนไหวหน้ารัฐสภา เรียกร้อง ส.ว.ต้องไม่สวนมติประชาชน ซึ่งยืนยันจะดำเนินการภายใต้กฎหมาย เน้นเสวนาสื่อสาร ไม่ทำให้เกิดสถานการณ์ตึงเครียด

เมื่อวานนี้ เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม โพสต์ชี้แจงการจัดกิจกรรมหน้ารัฐสภา “ส.ว.ต้องไม่สวนมติประชาชน” ในวันนี้ ตั้งแต่เวลา 5 โมงเย็นถึง 2 ทุ่ม โดยยืนยัน จะดำเนินการภายใต้กรอบกฎหมาย มุ่งเน้นเสวนาสื่อสารเป็นหลัก ไม่กดดัน ละเมิดการดำเนินงานของสมาชิกวุฒิสภา หรือ ผลักดันให้เกิดสถานการณ์ตึงเครียด

ทั้งนี้ ระบุว่าได้มีการขอใช้พื้นที่ บริเวณหน้าอาคารรัฐสภา เพื่อจัดงานเสวนาสื่อสารถึงสมาชิกวุฒิสภาบางท่าน ที่ยังคงไม่ตัดสินใจ ให้เคารพในเจตจำนงของประชาชน ที่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย


รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/lY6SWHKQ04w


คุณอาจสนใจ

Related News