สรุปข่าว

เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 22 พ.ค.66 จับตาแถลง MOU - ก้าวไกลขอบคุณชาวชลบุรี - ครูหนุ่มตบตีเด็กเกินกว่าเหตุ

โดย thichaphat_d

22 พ.ค. 2566

93 views

-ตำรวจคุมตัวพ่อเฒ่าก่อเหตุระทึก ใช้ปืนยิงคนในบ้าน เจ็บ 2 ราย ในบ้านพักย่านยานนาวา ตำรวจใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง จนยอมมอบตัว ก่อนเปิดปมชักปืนยิง ตบชี้เกิดความเครียด ที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมในการจัดการมรดก-โดนแย่งสมบัติ ด้านเจ้าหน้าที่ชี้อยู่ระหว่างสอบปากคำ ก่อนพบประวัติเคยต้องโทษคดีพยายามฆ่า

-ครูสาวเชียงใหม่ทนไม่ไหว แฉคลิปครูหนุ่มพฤติกรรมทรามทำโทษเด็กเกินกว่าเหตุทั้ง เตะ-ถีบ-ตบ ต่อหน้านักเรียนคนอื่น ชี้ฟังไม่ขึ้นอ้างเป็นการสั่งสอน จี้กระทรวงศึกษา รีบดูแลอย่านิ่งเป็นทองไม่รู้ร้อน ก่อนแฉซ้ำ เอาเงินบริจาคเด็กไปเที่ยวคาราโอเกะ เปิดห้องพร้อมเด็กเอ็น ขณะไปต่างพื้นที่ ด้านผู้ว่าเชียงใหม่ สั่งสอบพฤติกรรมครูแล้ว ชื่นชมผู้ออกมาเปิดเผยไม่นิ่งเฉยต่อความรุนแรง ยกย่องปฏิบัติตนสมเป็นข้าราชการครู

-ระทึกกล้องหน้ารถจับภาพสุดระทึกกลางเมืองสุพรรณบุรี หลังพ่วง 18ล้อ หักหลบข้ามเลนส์ ชนบิ๊กไบค์คนขับกระเด็น รถคว่ำไฟลุกหวิดย่างสด เคราะห์ดีรอดตายหวุดหวิด ด้านคนขับรถพ่วง รับขับมาด้วยความเร็ว ก่อนเจอรถจอดเสียอยู่เลนซ้าย เบรคไม่อยู่ จึงเบี่ยงขวา จังหวะเดียวกับรถบิ๊กไบค์มาพอดี จึงชนเข้าที่ล้อหน้าด้านขวา เบื้องต้นพนักงานสอบสวนยังไม่ได้แจ้งข้อรอสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงก่อนจะดำเนินคดีต่อไป

-ตร.อ่างทอง บุกรวบไอ้เอี้ยงอ่างทอง มือปาหินใส่รถโดนคนขับเจ็บสาหัสคาที่นอน ยึดได้ทั้งรถ - เสื้อผ้าที่ใส่ก่อเหตุ ตามภาพกล้องหน้ารถเป๊ะ อ้างทำแค่ครั้งเดียว ก่อนยอมรับหน้าระรื่นเสพกัญชาจนหลอน คิดว่าจะมาทำร้ายเลยขว้างหินใส่ ด้านตำรวจค้นประวัติพบคดีเพียบ พึ่งพ้นโทษคดียาเสพติดมาไม่นาน

-สาวระยองร่ำไห้ ร้องตั้งครรภ์ 9 เดือน แต่ครรภ์เป็นพิษ โรงพยาบาลดึงเวลา 19 ชั่วโมง ไม่รีบส่งไปผ่าคลอด สุดท้ายเด็กเสียชีวิตในครรภ์ แม่เด็กยืนยันไม่เผาศพลูกจนกว่าจะได้รับความเป็นธรรม ด้านปวีณาประสาน อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง



เรื่องเล่าการเมือง

-ไฮไลท์การเมืองวันนี้ อยู่ที่การลงนาม MOU ของพรรคที่จะร่วมจัดตั้งรัฐบาลนำโดยพรรคก้าวไกล ที่นัดกันไว้เวลา 16.30 น. ซึ่งเป็นเวลาของการยึดอำนาจโดย คสช.เมื่อ 9 ปีที่แล้ว ขณะที่ พรรคก้าวไกล ยอมถอย กำหนดเฉพาะนโยบายที่ทุกพรรคเห็นร่วมไว้ใน MOU

ช่วงเย็นเมื่อวาน เพจเฟซบุ๊กของพรรคก้าวไกลได้โพสต์ให้ความชัดเจนเกี่ยวกับวาระที่รัฐบาลผสมนำโดยพรรคก้าวไกลจะร่วมผลักดันร่วมกัน ว่ามี 2 ส่วน คือ

1. วาระ "ร่วม" ของทุกพรรคร่วมรัฐบาล ซึ่งจะระบุไว้ใน MOU คือวาระและนโยบายที่ทุกพรรคเห็นตรงกัน พร้อมผลักดันร่วมกันผ่านกลไกบริหารและนิติบัญญัติ และพร้อมรับผิดชอบร่วมกัน

2. วาระ "เฉพาะ" ของแต่ละพรรคการเมือง จะไม่ระบุไว้ใน MOU คือวาระและนโยบายที่แต่ละพรรคขับเคลื่อนเอง เพิ่มเติมจากใน MOU แต่ต้องไม่ขัดแย้งกับนโยบายใน MOU ผ่าน 2 กลไกหลัก กลไกบริหารของกระทรวงที่พรรคมีตัวแทนเป็นรัฐมนตรี และกลไกนิติบัญญัติ เช่นในส่วนของพรรคก้าวไกลจะเสนอกฎหมาย 45 ฉบับสู่สภาทันทีที่สภาเปิด ไม่ว่าจะปรากฎอยู่ใน MOU หรือไม่

ทั้งนี้ พรรคก้าวไกล ระบุด้วยว่า จะพยายามเต็มที่ในการผลักดัน 300 นโยบายก้าวไกลที่ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ให้สำเร็จ โดยการพยายามบรรจุนโยบายเข้าไปใน วาระ "ร่วม" หรือ MOU ให้ได้เยอะที่สุด ในขณะที่นโยบายอะไรที่ไม่ถูกบรรจุใน MOU เราจะผลักดันต่อผ่านกระทรวงที่พรรคก้าวไกลบริหาร และ ผ่านกลไกสภาฯโดย ส.ส. 152 คน ของพรรค

ซึ่งก็มีการตั้งข้อสังเกตว่า การที่พรรคก้าวไกลตกลงจะระบุเฉพาะวาระและนโยบายที่พรรคร่วมรัฐบาลเห็นตรงกันไว้ใน MOU ถือเป็นการยอมถอยของพรรค หลังจากก่อนหน้านี้มีเสียงติงและแสดงความไม่เห็นด้วยจากพรรคที่จะร่วมตั้งรัฐบาล / ต่อบางนโยบายของพรรคก้าวไกลที่จะกำหนดไว้ใน MOU

ขณะที่ นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ในฐานะหัวหน้าคณะประสานงานเจรจาร่วมรัฐบาล ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ถึงความคืบหน้าในการจัดทำ MOU ว่า ผลการพูดคุยเพื่อจัดทำ MOU ร่วมกันในวันนี้ (คือเมื่อวาน /21 พ.ค.) บรรลุผลไปได้ด้วยดี พรรคก้าวไกลต้องขอขอบคุณหัวหน้าพรรคและแกนนำของทุกพรรคที่เราจะจัดตั้งรัฐบาลประชาธิปไตยโดยยึดเอาผลประโยชน์ของประชาชนเป็นตัวตั้ง และบอกว่าวันนี้จะมีการแถลง MOU ในเวลาเดียวกันกับการประกาศรัฐประหารเมื่อ 9 ปีก่อน

ทั้งนี้มีรายงานว่า เมื่อวานแกนนำพรรคก้าวไกล ได้เปิดเซฟเฮ้าส์ พิจารณาร่าง MOU ของแต่ละพรรคการเมือง ที่ทยอยส่งกลับมาตั้งแต่เมื่อวานนี้ เพื่อสรุปเนื้อหา ที่แต่ละพรรคขอปรับแก้ และเสนอแนะ เพื่อปรับแก้ ก่อนสรุปเป็นร่าง MOU ให้พรรคการเมืองที่จะร่วมรัฐบาลลงนามในวันนี้ เวลา 16.30 น. ที่โรงแรมคอนราด โดยจะมีการนัดแกนนำทุกพรรคมาประชุมพูดคุยกันก่อนในเวลา 15.30 น.



-เมื่อวานนายพิธา นำว่าที่ ส.ส.ของพรรคขอบคุณประชาชนที่ จ.ชลบุรี และระยอง กองเชียร์แน่น ทำให้การจราจรติดขัดหนัก จนต้องมีการปรับลดจุดที่ไปพบประชาชน และคุณพิธาต้องไลฟ์ขอโทษ

นี่เป็นบรรยากาศที่ตลาดใหม่หนองก้างปลา ตำบลบ่อวิน อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี ที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 พร้อมว่าที่ ส.ส.ของพรรคก้าวไกล จ.ชลบุรี ได้ขึ้นรถแห่ขอบคุณประชาชนหลังจากพรรคก้าวไกลกวาดที่นั่ง ส.ส.จ.ชลบุรีมาได้ถึง 7 ที่นั่ง จากทั้งหมด 10 ที่นั่ง

ระหว่างการเคลื่อนขบวนของนายพิธา มีประชาชนจำนวนมากวิ่งเข้าไปหารถนายพิธา พร้อมส่งเสียงกรี๊ด ถือลูกโป่งสีส้มไปเต็มถนนซึ่งเพิ่งมีการนำมาจำหน่ายในกิจกรรมแห่ขอบคุณที่ชลบุรีเป็นครั้งแรก ทำให้การจราจรติดขัด

ซึ่งนายพิธา ได้ปราศรัยขออภัยที่ทำให้การจราจรติดขัด ซึ่งนายพิธา ขึ้นรถแห่ได้เพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น เนื่องจากจราจรติดขัดมาก และเลยเวลาตามกำหนดการมาเป็นชั่วโมง นายพิธาจึงได้เปลี่ยนขึ้นรถตู้ส่วนตัว เพื่อเดินทางไปยังอีก 3 จุดตามที่นัดหมายไว้

แต่สุดท้ายนายพิธา ไปได้เฉพาะที่จุดที่ 4 คือ ห้างโลตัส ต.บ่อวิน แต่ก็ไม่สามารถลงมาจากรถได้ เนื่องจากมีประชาชนมาจำนวนมาก และล้อมรอบรถ

ต่อมานายพิธา จึงตัดสินใจเดินทางไปที่ จ.ระยอง และไลฟ์ผ่านไอจีขอโทษประชาชนที่ทำให้รถติด และไม่สามารถลงพบกับประชาชนตามที่ได้นัดหมายไว้

จากนั้นนายพิธา ได้เดินทางไปขอบคุณประชาชนที่ จ.ระยอง ซึ่งเป็นอีกจังหวัดที่ผู้สมัคร ส.ส.ของพรรคก้าวไกลได้รับเลือกตั้งมายกจังหวัด คือ 5 คน ซึ่งก็มีการปรับแผนการลงพื้นที่เพียงจุดเดียวคือที่ห้างแพชชั่นฯ จากเดิมจะไปพบประชาชน 2 จุด เนื่องจากมีกองเชียร์มาจำนวนมาก ทำให้การจราจรติดขัด

ขณะที่นายพิธา ก็ปราศรัยกับประชาชนสั้น ๆ เพียง 8 นาที โดยกล่าวขอบคุณประชาชน และบอกว่าแม้การเลือกตั้งจะจบไป แต่การเดินทางของพวกเราพึ่งเริ่มต้น



-ส่วนเสียง ส.ส.ที่จะโหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ เมื่อวานมีพรรคขนาดจิ๋วอีก 1 พรรค ที่มี 1 เสียง และพร้อมโหวตให้ คือ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน

นายปรีดา บุญเพลิง หัวหน้าพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ยืนยันกับทีมข่าวการเมืองของเราว่า พร้อมโหวตให้กับนายพิธา เป็นนายกรัฐมนตรี ตามหลักการสนับสนุนพรรคที่มีคะแนนสูงสุดเป็นผู้จัดตั้งรัฐบาล โดยไม่มีเงื่อนไขเข้าร่วมรัฐบาล

อย่างไรก็ตาม หากรัฐบาลก้าวไกลมีนโยบายเรื่องยกเลิกหรือแก้ไขมาตรา112 ตนก็ไม่ขอร่วมรัฐบาลด้วย แต่ก็ย้ำว่า ไม่ว่าอย่างไรตนพร้อมโหวตให้นายพิธาเป็นนายกฯ

ขณะที่ในส่วนของเสียง จาก ส.ว. เมื่อวาน "มติชน" รายงานว่ามี ส.ว.อีกท่าน คือ นางประยูร เหล่าสายเชื้อ ที่ระบุว่า "เคารพเสียงประชาชน สนับสนุนประชาธิปไตย พร้อมลงคะแนนให้พรรคการเมืองที่ได้รับคะแนนเสียงมากอันดับที่ 1 จากประชาชน เป็นนายกรัฐมนตรี "เพื่อประโยชน์สูงสุดของประเทศ"

รวมกับ ส.ว.ที่ยืนยันว่าจะโหวตให้นายพิธา ก่อนหน้านี้อีก 18 คน ก็เท่ากับตอนนี้มี ส.ว.ที่จะโหวตให้นายพิธาแล้ว 19 คน

และถ้ารวมเสียงทั้ง ส.ส. และ ส.ว.ที่จะโหวตให้นายพิธา ล่าสุดก็จะมี 333 เสียงแล้ว คือ ส.ส. 314 เสียง เป็น 313 เสียง จาก 8 พรรคร่วมรัฐบาล บวกอีก 1 เสียง จากพรรคครูไทยเพื่อประชาชน ส.ว. 19 คน ขาดอีก 43 เสียง จึงจะถึง 376 เสียง



-มีความเคลื่อนไหวของของกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดชุมนุมกดดัน ส.ว. ที่หน้าอาคารรัฐสภา ในวันพรุ่งนี้ (อังคาร 23 พ.ค.) ซึ่งวุฒิสภาจะมีการประชุมกัน

เพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์ภาพที่เขียนว่า "ส.ว.ต้องไม่สวนมติประชาชน" พร้อมข้อความว่า "การเลือกตั้งเป็นเครื่องมือสำคัญที่สามารถสะท้อนความต้องการและเจตจำนงค์ของประชาชน เมื่อเสียงของประชาชนต้องการที่จะเห็นความเปลี่ยนแปลง ตามหลักการของประชาธิปไตยก็ควรต้องเป็นไปตามนั้น แต่ด้วยกลไกของรัฐธรรมนูญฉบับปี พ.ศ. 2560 ได้ให้อำนาจแก่สมาชิกวุฒิสภาจำนวน 250 คน ในการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ซึ่งแหล่งที่มาในอำนาจของสมาชิกวุฒิสภามิไม่มีส่วนใดที่เกี่ยวโยงกับประชาชน

แม้การเลือกตั้งในครั้งนี้จะสะท้อนเจตจำนงค์ของประชาชนมากแค่ไหนก็ตาม แต่ดูเสมือนว่าสมาชิกวุฒิสภาบางคนจะแสดงถึงความไม่เห็นด้วยในหลักการประชาธิปไตย พร้อมที่จะคัดค้านตัวแทนที่มาจากการเลือกของประชาชน และพร้อมที่จะยับยั้งความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นในทุกวิถีทาง"

จึงนัดชุมนุมเพื่อยืนยันในหลักการว่าสมาชิกวุฒิสภาต้องไม่โหวตสวนมติของประชาชน และชัยชนะของประชาชนในครั้งนี้ต้องไม่ถูกทำลายโดยเสียงของสมาชิกวุฒิสภา วันอังคารที่ 23 พฤษภาคม เวลา 17.00 น. ที่หน้ารัฐสภา

สำหรับวันที่ 23 พฤษภาคมนี้ วุฒิสภามีวาระประชุมสมัยวิสามัญเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบ ผู้ที่ได้รับการเสนอชื่อดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ ทั้ง กกต. ป.ป.ช. และ สตง. โดยนัดประชุมตั้งแต่เวลา 9 นาฬิกา และมีรายงานว่าหลังเสร็จวาระการประชุม / ส.ว.อาจจะหารือกันเกี่ยวกับเรื่องการเลือกนายกฯที่ ส.ว.จะร่วมโหวตด้วย



รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/7atnFNp6PIs

คุณอาจสนใจ

Related News