แม่ค้าส้มตำบ่นอุบ ต้นทุนแพงขึ้นมาก ทั้งพริก-มะนาว-ถั่วฝักยาว-มะละกอราคาพุ่ง

จังหวัดอุทัยธานี ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่สำรวจร้านส้มตำในจังหวัดอุทัยธานี ภายหลังจากราคาผักแพงขึ้น โดยเฉพาะ พริกขี้หนูสวนพุ่งสูง รวมวัตถุดิบต่างๆ ที่ใช้ในร้านส้มตำทุกอย่างแพงลิ่ว ทำให้ต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ 


นางอำพร  เจ้าของร้านส้มตำ อยู่ตึกแถวถนนสายทัพทัน – ตลุกดู่ ในเขตเทศบาลตำบลทัพทัน อำเภอทัพทัน จังหวัดอุทัยธานี กล่าวว่า ตนเองขายส้มตำมานานกว่า 20 ปี ยังไม่เคยเจอกับต้นทุนแพงขนาดนี้มาก่อน ขณะนี้ต้นทุนของวัตถุดิบเกือบทุกอย่างที่ใช้ตำส้มตำสูงขึ้นมาก คาดว่าน่าจะเป็นเพราะความแห้งแล้งที่ผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการ


อย่างมะละกอที่เคยซื้อกิโลกรัม 5 – 10 บาท ขยับขึ้นมาเป็นกิโลกรัมละ 20 บาท ถั่วฝักยาวเคยซื้อกิโลกรัมแพงสุกไม่เกิน 40 – 50 บาท พุ่งสูงขึ้นเป็นกิโลกรัมละ 100 บาท พริกขี้หนูสวนเคยซื้อกิโลกรัมละ 100 – 120 บาท ปรับมาเป็นกิโลกรัมละ 250 บาท (เป็นพริกขี้หนูสวนในพื้นที่) และหากซื้อในตัวเมืองพริกขี้หนูสวนจะพุ่งสูงถึงกิโลกรัมละ 360 บาท และมะนาวราคาปรับขึ้นมาเป็นลูกละ 4 – 5 บาท แล้วแต่ละขนาด และยังผักอื่น ๆ ที่ต้องใช้ที่แพงขึ้นอีกหลายตัว ทำให้ได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก


ส่งผลให้ต้องแบกภาระต้นทุนที่สูงขึ้นมาก แต่เพื่อรักษาลูกค้าเอาไว้ยังขายราคาเท่าเดิมไม่ให้ลูกค้าหนีหาย โดยขายครกละ 30 บาท เท่าเดิม อาศัยขายจำนวนมากมีกำไรไม่มาก ทนแบกภาระต้นไปสักระยะ หากวัตถุดิบยังคงราคาสูงขึ้นไปอีกนานอาจจะต้องปรับราคาไปตามต้นทุนที่สูงขึ้น แต่หวังว่าจะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ เมื่อเข้าสู่ฤดูฝน ความแห้งแล้งหายไป ผลผลิตออกสู่ตลาดมากขึ้นราคาก็จะถูกลงเหมือนเดิม ก็จะทำให้การค้าขายเข้าสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม ต่อไป