สังคม

เหยื่อรวมตัวร้องถูกโกงทัวร์แฮปปี้ทริป 30 ล้าน ด้าน “บิ๊กโจ๊ก” ตำหนิตร.ท่องเที่ยวทำงานช้า

โดย paranee_s

15 พ.ค. 2566

325 views

กลุ่มผู้เสียหายกว่า 10 คน นำหลักฐานการซื้อทัวร์ไปต่างประเทศ มอบให้พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพื่อให้เร่งรัดดำเนินคดี หลังจากมีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อจากผู้ต้องหากลุ่มนี้กว่า 800 คน มูลค่าความเสียหายไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท


นายพัลลภ หนึ่งในผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ได้พบเจอการโฆษณาชวนเชื่อให้ซื้อทัวร์ไปต่างประเทศในยูทูปเมื่อปลายปี 2565 จึงตกลงซื้อทัวร์ไปประเทศอังกฤษ เพื่อไปชมการแข่งขันฟุตบอล กำหนดเดินทางระหว่างวันที่ 6-13 เมษายน 2566 โดยที่จะไปกับครอบครัวรวม 4 คน เป็นเงิน 450,000 บาท จึงโอนไปให้กับบัญชีปลายทางที่เป็นชายคนหนึ่ง


และทางบริษัท ได้ขอสำเนาหนังสือเดินทาง และเอกสารส่วนตัวเพื่อไปทำเรื่องขอวีซ่า แต่พอถึงต้นเดือนเมษายน ยังไม่ส่งวีซ่ามาให้จึงรู้ว่าถูกหลอก และสุดท้ายไม่ได้เดินทาง เมื่อไปติดตามทวงถามก็ถูกบ่ายเบี่ยง พร้อมกับเปลี่ยนชื่อบริษัท เพื่อไปหลอกคนอื่นต่อ และยังไม่โอนเงินคืนให้ จากการตรวจสอบก็พบมีผู้เสียหายจำนวนมาก ที่โอนเงินไปแล้ว และยังไม่ได้เงินคืน


นายสัมพันธ์ หนึ่งในบริษัทตัวแทนจำหน่าย ที่ตกเป็นผู้เสียหายเช่นกัน บอกว่า ได้รวมตัวไปร้องเรียนกับกรมการท่องเที่ยว และได้พบกับอธิบดีกรมฯ มาแล้ว รวมทั้งไปร้องเรียนกับกองบังคับการปราบปรามมาแล้ว แต่คดียังไม่คืบหน้า พร้อมกับเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกวดขันตรวจสอบกลุ่มที่อ้างตัวจำหน่ายทัวร์ให้กับบุคคลอื่น เพราะที่ผ่านมามีบริษัทตัวแทนจำหน่ายทัวร์หลงเชื่อ และต้องรับภาระจากลูกค้าแทนจำนวนมาก


ขณะที่พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวได้รู้ตัวผู้ต้องหาแล้ว ก็จะเร่งรัดให้ตำรวจท้องที่รับดำเนินการต่อ ซึ่งปัญหาเกี่ยวกับคดีเหล่านี้คือการติดตามเงินคืนเป็นไปได้ยาก เพราะมีการทำเป็นขบวนการตั้งแต่คนหลอกผู้เสียหาย ไปจนถึงการรับโอนเงินและแปลงเป็นทรัพย์สินอื่นๆ


ซึ่งหลังจากสถานการณ์โควิดเริ่มลดลง ทำให้มีนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางมากขึ้น ทำให้มีปัญหาที่เกิดขึ้นกับนักท่องเที่ยวมากขึ้นตามไปด้วย แต่หลายคดีกลับไม่มีความคืบหน้า และมีการกระทำผิดซ้ำอยู่เรื่อยๆ พร้อมกับตั้งคำถามว่า “กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวทำอะไรอยู่?” เพราะยอมรับว่าก่อนหน้านี้เคยอยู่ในตำแหน่งผู้บังคับการตำรวจท่องเที่ยว จนร่วมผลักดันให้ปรับขึ้นเป็นกองบัญชาการ เพื่อรองรับปัญหาการท่องเที่ยวที่จะตามมา และแบ่งเบาภาระคดีในสถานีตำรวจต่างๆ แต่ก็ยังมีผู้เสียหายที่เกิดขึ้นอยู่จำนวนมาก และความเสียหายหลายสิบล้านบาท


พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ ยังตำหนิการทำงานของตำรวจท่องเที่ยวที่ทำงานล่าช้า เพราะมีข้อมูลของบริษัททัวร์ทุกแห่ง และเป็นมือขวาของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต้องดูแลนักท่องเที่ยวให้มากขึ้นกว่านี้

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ