สังคม
ปรีชา ขนผู้สมัคร ส.ส. บุกที่ทำการ รทสช. โวยหัวหน้าพรรค-เลขาฯ ไม่รักษาสัญญา
โดย nutda_t
9 พ.ค. 2566
3.3K views
นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข ผู้สมัคร ส.ส. จังหวัดเลย นำทีม ผู้สมัคร ส.ส.อีสานและเหนือ เกือบ 10 คน เดินทางมาที่ทำการพรรครวมไทยสร้างชาติ ซอยอารีย์ เพื่อร้องเรียนพรรคที่ไม่ดูแล โดยเฉพาะ นายเอกนัฏ พร้อมพันธ์ เลขาธิการพรรค ที่ไม่ทำตามที่สัญญากันไว้
นายปรีชา ระบุว่า อยากให้พรรคให้ความเป็นธรรมกับผู้สมัครในหลายจังหวัด เช่น เลย กาฬสินธุ์ ชัยภูมิ ที่มอบให้มาเป็นตัวแทนภาคเหนือและภาคอีสาน ภาคกลางบางส่วน ให้ชี้แจงประชาชนได้รับทราบว่า ผู้สมัครเหล่านี้มีความตั้งใจและปรารถนาดี จะไปรับใช้ประชาชน แต่การติดต่อประสานงานกับพรรคไม่ได้รับความเป็นธรรมกับพวกตนเลย พรรคบอกว่าจะดูแลตามกฎหมายเลือกตั้ง แต่ผู้สมัครบางคนน่าสงสาร ต่อสู้มาแม้แต่เงินค่าน้ำมัน ค่าป้ายโฆษณาก็ไม่มี สุดท้ายถูกพรรคลอยแพ ไม่ได้รับการดูแลเหลียวแลค่าใช้จ่ายเหล่านี้ และหลายคนไม่กล้ามาเพราะใจไม่ถึง ตนจึงเป็นตัวแทนมาที่พรรค และยืนยันว่ายังคงเดินหน้าทางการเมืองต่อ ยังสู้ เพียงแต่สิ่งที่รับปากกับประชาชนไว้ไม่สามารถทำได้ จึงขอโทษประชาชนด้วย
นายปรีชา กล่าวว่า ที่ผ่านมา พรรคดูแลนิดหน่อย แต่ยังไม่ถึงตามที่กฎหมายเลือกตั้งกำหนดไว้
เมื่อถามว่า ที่ผ่านมาได้มีการประสานไว้ก่อนหรือไม่ ทำไมช่องทางการสื่อสารถึงถูกตัด นายปรีชา กล่าวว่า หัวหน้าพรรคยังไม่เคยคุยกับเราเลย เลขาธิการพรรคส่งไลน์ไปก็ไม่อ่าน มันหมายความว่าอย่างไร เวลาที่ตนบอกว่าจะมาแถลงข่าว ก็บอกว่าไม่ต้องมา ยืนยันมาด้วยความอึดอัดใจแต่ไม่ได้ต้องการทำลายใคร
เมื่อถามว่า การออกมาในช่วงโค้งสุดท้ายจะส่งผลเสียต่อพรรคหรือไม่นั้น นายปรีชา กล่าวว่า ทุกอย่างขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชน ที่จะรู้ดีว่าพวกตนลงพื้นที่อย่างไร ส่วนตัวเป็นนักการเมือง เป็นอดีตรัฐมนตรี 2 กระทรวง ในชีวิตการเมืองไม่เคยเจอการเมืองแบบนี้ และถ้าสัญญาณที่ส่งไปวันนี้ผู้ใหญ่ของพรรคยังคงนิ่งเฉย ก็ไม่สนใจแล้ว เพราะสนใจแต่พี่น้องประชาชน
"อยากส่งกระแสจิตให้ผู้ใหญ่ของพรรคทราบ อาจหูบอด หรือไม่ได้ยิน ยืนยันพวกเราไม่ได้มาทำลาย แต่มาด้วยใจ หลายคนไม่กล้ามา แต่พวกผมเดนตายไม่กลัวแล้ว ทุกอย่างโกหกคนอื่นได้ แต่โกหกตัวเองไม่ได้" นายปรีชา กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ นายปรีชา กำลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน นายหิมาลัย ผิวพรรณ หรือ เสธ.หิ เดินผ่าเข้ากลางวงแล้วบอกว่า ขออนุญาตในฐานะตัวแทนผู้ประสานงานพรรครวมไทยสร้างชาติ ขอสอบถามถึงข้อเรียกร้องที่จะมายื่น แต่ นายปรีชา บอกว่าไม่มี
จากนั้น เสธ.หิ กล่าวชี้แจงว่า พรรครวมไทยสร้างชาติเป็นพรรคการเมือง ซึ่งเป็นที่รวบรวมคนที่มีอุดมการณ์ มีแนวคิดทางการเมืองเดียวกัน เพื่อให้นำนโยบายไปบอกประชาชน และในการทำพรรคด้วยความโปร่งใสยุติธรรม ผู้บริหารของพรรคแต่ละคนมีชื่อเสียงของเรื่องความซื่อสัตย์ สุจริต เป็นที่ประจักษ์ พรรคไม่สามารถหาเงินนอกระบบ หรือจากกลุ่มทุนใดๆ ได้ เพื่อให้พรรคมีความเป็นอิสระในการทำงานรับใช้ประชาชนอย่างแท้จริง จึงอาจทำให้ไม่สะดวก หรือไม่เป็นไปในแนวทางที่ท่านต้องการ และจะนำข้อเรียกร้องในวันนี้ เรียนผู้หลักผู้ใหญ่ในพรรคทราบต่อไป
เสธ.หิ ย้ำว่า ในการทำการเมืองนั้น พรรคการเมืองใดก็ตามมีนโยบายและอุดมการณ์ที่ชัดเจน และถ้าจะเป็นผู้แทนก็ควรจะพร้อมในทุกด้านถึงจะมาสมัครเป็นผู้แทน เนื่องจากหากจะไปรับใช้ประชาชนแล้วไม่มีความพร้อม จะยิ่งเป็นภาระให้ประชาชน ส่วนพรรคการเมืองก็ไม่ใช่สถาบันการเงิน ดังนั้นการดูแลทางด้านการเงินอาจไม่ครบถ้วน การมาร่วมงานกับพรรคควรจะศึกษาอุดมการณ์ และนโยบายว่าเข้ากับความคิดของท่านหรือไม่ ถ้าเข้าก็มาร่วมได้ ส่วนด้านอื่นนั้นเราต้องการทำพรรคอย่างบริสุทธิ์ ยุติธรรมและโปร่งใส อยู่ภายใต้กรอบของรัฐธรรมนูญและกรรมการการเลือกตั้ง เราจึงไม่มีงบในการใช้จ่ายอะไรนอกเหนือจากกติกา เพราะพรรคมีอุดมการณ์และอุดมคติ ปกป้องสถาบันและรับใช้ชาติและประชาชน ที่ไม่ต้องใช้งบประมาณมากมาย จึงขอเน้นย้ำผู้ที่ต้องการเล่นการเมือง ทุกท่านต้องพร้อมจริงๆ ถึงจะมาเล่นการเมือง เพราะถ้าเล่นการเมือง คือการเสียสละเพื่อให้ประชาชน การเล่นการเมืองคือการเสนอตัวมารับใช้ประชาชน ไม่เป็นภาระให้ประชาชน
เมื่อถามว่าการออกมาในช่วงนี้จะส่งผลต่อพรรคหรือไม่ เสธ.หิ บอกว่า ทุกคนมีสิทธิ์ในการนำเสนอต่างๆ
ด้าน นายสมชอบ นิติพจน์ ผู้สมัคร ส.ส.นครพนม เขต 4 ยืนยันไม่ได้มาเรียกร้องอะไรจากพรรค เพียงแต่จะมาบอกว่าหลายยุทธศาสตร์ที่วางเอาไว้ไม่เป็นไปตามข้อตกลง เช่น การเชิญพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไปปราศรัยที่ภาคอีสาน จ.นครพนม ก็ไม่ได้รับการตอบรับจากพรรค จนถึงทุกวันนี้ เมื่อกระบวนการหาเสียงไม่ครบ จึงเกิดความไม่มั่นใจว่าจะได้รับเสียงสนับสนุนจากประชาชน จึงอยากออกมาขอโทษว่า ไม่สามารถทำได้ครบตามกระบวนการหาเสียง หากประชาชนยังรัก ก็ขอให้เลือกพรรคและผู้สมัครของพรรคเพื่อนำนโยบายที่ดีไปปฏิบัติ ส่วนตนขอยุติการหาเสียงในเขตไปก่อน
ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าที่พรรค ได้กระจายกำลังยืนบริเวณหน้าที่ทำการพรรค เพื่อดูแลความเรียบร้อย ซึ่งหลังจากให้สัมภาษณ์สื่อต่างๆ ก็แยกย้ายกลับ
แท็กที่เกี่ยวข้อง