หอการค้าไทยเผยค่าใช้จ่ายเปิดเทอมปีนี้สูงสุดในรอบ 14 ปี

ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยการประเมินผลกระทบของผู้ปกครองในช่วงเปิดเทอม 2566 จากการสำรวจ กลุ่มตัวอย่าง 1,230 ตัวอย่างทั่วประเทศ พบว่า กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 66.1% บอกว่ามีหนี้ โดยหนี้ผู้ปกครองภาพรวม อยู่ที่ 340,000 บาท ต่อครัวเรือน ขยายตัวจาก ปี 62 ช่วงก่อนโควิด 24.7% (เนื่องจากปี 63-65 โควิดแพร่ระบาดและเป็นการเรียนออนไลน์) ซึ่งหนี้สูงสุด 3 อันดับแรกมาจากการซื้อบ้าน 17.6% ,ค่าใช้จ่ายทั่วไป 17.3% และซื้อยานพาหนะ 16.5%



ขณะที่มูลค่าการใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมรวมปี 66 อยู่ที่ 57,885.63 ล้านบาท สูงสุดในรอบ 14 ปี และเมื่อเทียบปี 62 พบว่าเพิ่มขึ้น 5.3% คิดเป็นค่าใช้จ่ายรวมช่วงเปิดเทอมเฉลี่ยต่อคน 19,507.33 บาท เพิ่มขึ้นจากปี 62 ซึ่งเฉลี่ยอยู่ที่ 18,299.94 บาทต่อคน คิดเป็น 6.6%โดยกลุ่มตัวอย่างมากกว่าครึ่งดึงเงินออมมาเป็นค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอมของลูก



ทั้งนี้เมื่อดูโครงสร้างค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม พบว่าค่าใช้จ่ายที่มีสัดส่วนเพิ่มขึ้น ในอัตราที่มากกว่าปี 62 ได้แก่ งบค่าบำรุงโรงเรียนตามปกติ คือยังอยู่โรงเรียนเดิม, งบค่าหนังสือ, งบค่าอุปกรณ์การเรียน, งบค่าเครื่องแบบนักเรียน, งบค่ารองเท้า ถุงเท้า และงบค่าบริหารจัดการพิเศษ เช่น ค่าประกันชีวิต



อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบค่าใช้จ่าย ช่วงเปิดเทอมครั้งนี้กับปีที่ผ่านมา กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ 37.8% มองว่า รองลงมา 29.9% มองว่ามากขึ้น จากราคาสินค้าที่แพงขึ้น, การมีภาระหนี้มาก และขาดสภาพคล่อง สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัวแต่เป็นแบบ K Shape คือเป็นการฟื้นแค่บางกลุ่ม โดยกลุ่มผู้ปกครองพร้อมจะเสีย ค่าใช้จ่ายในช่วงเปิดเทอม แต่กลุ่มที่มีรายได้น้อย ก็ยังมองว่าสินค้าในช่วงเปิดเทอมแพงขึ้น