รวบแก๊งมาม่าซัง เปิดร้านนวดบังหน้า ฉากหลังเป็นโรงชำแหละรถเถื่อน

จากการจับกุมเซเลบเก๊ ที่ตระเวนก่อเหตุนัดเดต ผ่านแอปฯหาคู่ แล้วขโมยรถเหล่าหญิงสาวที่เป็นคู่หลับนอน นำมาสู่การขยายผลเจอ “แก๊งมาม่าซัง” นักชำแหละรถรายใหญ่ ซึ่งมีมาม่าซัง “สายมู” เป็นหัวหน้าเครือข่าย ใช้ร้านนวดเป็นฉากหน้า โดยฉากหลังเป็นโรงชำแหละรถแบบครบวงจร ซึ่งมีรถเข้ามาไม่น้อยกว่า 5 คันต่อสัปดาห์


ซึ่งล่าสุด พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง สั่งการให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. นำกำลังจับกุมผู้ต้องหาในเครือข่ายกว่า 4 ราย และบุกทลายโรงชำแหละนี้ ตรวจยึดรถที่รอ “ขึ้นเขียง” อยู่อีกจำนวน 10 คัน ไว้ได้ทันท่วงที แต่ก็เป็นที่น่าสลด ผู้เสียหายรายหนึ่ง ติดตามเจ้าหน้าที่มาหวังได้รถคืน สุดท้ายเหลือเพียง “ซาก” แต่อย่างไรก็มีโมเมนต์ดี สวมกอด ขอบคุณเจ้าหน้าที่เพราะเห็นถึงความพยายาม เรียกได้ว่าชุดสืบสวนชุดนี้ “ขุดไม่เลิก” โดยหลังการจับกุม ผู้การจ๋อ ลั่นกลองส่งสาส์นท้ารบถึงแก๊งซื้อขายรถเถื่อนว่า “ถ้าไม่เลิกทำได้เจอกันแน่”

​
พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ได้สั่งการให้ พล.ต.ท.รอย อิงคไพโรจน์ รอง ผบ.ตร. ในฐานะ ผอ.ศปอส.ตร. (PCT) , พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. ร่วมกันกับเจ้าหน้าที่ ศปอส.ตร. (PCT) ชุดที่ 5 , ชุดสืบสวนนครบาล (บก.สส.บช.น.) , นำกำลังสืบสวนติดตามจับกุมตัวหัวหน้าเครือข่าย คือ

​1.นางสมนึก อายุ 65 ปี (มาม่าซัง)

2.น.ส.กนกวรรณ อายุ 41 ปี (ลูกสาว)

​3.น.ส.นฤมล อายุ 19 ปี (หลานสาวซึ่งเป็น steammer game online สายเซ็กซี่)

​4.นายรุ้ง อายุ 47 ปี (ลูกเขย)



​โดยจับกุมตัวได้ที่หน้าบ้าน ใน ต.จอมประทัด อ.วัดเพลง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2566 เวลาประมาณ 20.20 น. พร้อม​ตรวจยึดของกลางจำนวน 10 รายการ ดังนี้

1. รถยนต์ ยี่ห้อ Toyota รุ่น Yaris

2. รถยนต์ยี่ห้อ Mitsubishi รุ่น Mirage

3. รถยนต์ยี่ห้อ Toyota รุ่น Fortuner

4. รถยนต์ยี่ห้อ Honda รุ่น City

5 รถยนต์ยี่ห้อ mazda 3

6. รถยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่น ซิตี้ สีดำ

7. รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น ยาริส สีเทา

8.รถยนต์ยี่ห้อ นิสสัน รุ่น อัลเมร่า สีขาว

9. รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีดำ

10. รถยนต์ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่น วีออส สีเทา

สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 27 เม.ย. 66 พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ได้นำกำลังเจ้าหน้าที่จับกุมตัว นายภีรพัฒน์ อายุ 26 ปี หรือ อุ้ม หรือ อั้ม หรือ พอช หรือ พัด หรือ แซ็ค หรือ แร็ค ผู้ต้องหาตามหมายจับ จำนวน 7 หมายจับ ซึ่งคนร้ายรายนี้ได้แฝงตัวอยู่ในแอปฯหาคู่ สร้างโปรไฟล์เป็น “เซเลบเก๊” ทำการ “นัดยิ้ม” กับเหยื่อที่เป็นหญิงสาวและจะอาศัยจังหวะที่เหยื่อนอนหลับ ไปขโมยรถของเหยื่อไปขายให้กับกลุ่มผู้ค้ารถเถื่อน


ซึ่งหลังการจับกุม พล.ต.ต.ธีรเดช ได้ขยายผลการจับกุมจนสืบทราบเบาะแสว่า รถยนต์ของเหล่าหญิงสาวผู้เสียหายได้ถูกเซเลบเก๊รายนี้ขโมยไปนั้น ได้ถูกนำไปขายให้กับ “มาม่าซัง” ย่านบางบัวทอง ซึ่งยังไม่ทราบชื่อสกุลจริง รู้เพียงว่ามาม่าซังรายนี้เป็น “สายมู” และชื่นชอบดูดวง พล.ต.ต.ธีรเดช จึงได้นำกำลังเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จนกระทั่งสืบทราบว่า มาม่าซัง ดังกล่าวคือ นางสมนึก อายุ 65 ปี ซึ่งจากการสืบสวนพบว่า มาม่าซัง หรือ นางสมนึก ไม่ได้ทำเพียงคนเดียว แต่ยังมีผู้ร่วมขบวนการ ซึ่งเป็นลักษณะ “ธุรกิจครอบครัว”


จากการสืบสวนแผนประทุษกรรมของแก๊งนี้ จะเปิดกิจการร้านนวดบังหน้า และจะใช้พื้นที่ด้านหลังร้านเป็นสถานที่ซุกซ่อนรถที่ไปรับซื้อจากเหล่ามิจฉาชีพ หรือรถที่หลุดจำนำ ก่อนจะเข้าสู่กระบวนการชำแหละแยกอะไหล่ชิ้นส่วนรถยนต์ ซึ่งภายในโรงชำแหละนี้ มีเครื่องไม้เครื่องมือในการแยกชิ้นส่วนรถยนต์ เรียกได้ว่าครบวงจร ก่อนจะนำชิ้นส่วนรถขายทอดตลาด โดยระยะเวลาในการย่อยสลายรถ เมื่อแก๊งมาม่าซังได้รับรถมาแล้ว ใช้เวลาทั้งกระบวนการไม่เกิน 2 วัน ซึ่งข้อมูลจากการสืบสวนทำให้ทราบว่าแก๊งมาม่าซังนี้ จะรับรถเข้ามาโดยเฉลี่ยแล้วสัปดาห์ละไม่น้อยกว่า 5 คัน และจากการลงพื้นที่ของเจ้าหน้าที่ยังได้รับเบาะแสจากชาวบ้านในละแวก ซึ่งพูดเป็นเสียงเดียวกันว่ามาม่าซังรายนี้คือเจ้าใหญ่ ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกับการสืบสวนของเจ้าหน้าที่


​ในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาทั้ง 4 คน ให้การรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 4 คน นำส่งพนักงานสอบสวน สน.โคกคราม เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป