สังคม

ชายวัย 63 ปีคลั่งเผาบ้านเพื่อนบ้านเผารถยนต์ 2 คัน แถมยิงปืนเข้าไปในบ้าน

โดย onjira_n

4 พ.ค. 2566

201 views

เมื่อเวลา 07.00 น. วันที่ 4 พ.ค. 66 ที่ สภ.โพธิ์ทอง อำเภอโพธิ์ทอง จังหวัดอ่างทอง พ.ต.อ.สายชล โพธิ์ขอม ผกก.สภ.โพธิ์ทอง พ.ต.ท.ประสาท คลี่บุญ รองผกก สส.สภ.โพธิ์ทอง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.โพธิ์ทอง เข้าควบคุมตัว นาย บุญสืบ อายุ 63 ปี อยู่บ้านตำบลทางพระ อำเภอโพธิ์ทอง นำตัวมาทำการสอบสวนขยายผลที่ สภ.โพธิ์ทอง หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา นาย บุญสืบ ได้เกิดการคคลุ้มคลั่งเข้าไปยังบ้าน นาย ทองหยด อายุ 68 ปี  แล้วก่อเหตุจุดไฟเผารถยนต์ จำนวน 2 คัน รถยนต์สีดำ ได้รับความเสียหายบางส่วน และรถยนต์กระบะที่บรรทุกเครื่องมือช่างอยู่ท้ายกระบะ ได้รับความเสียหายบางส่วน ซึ่งรถยนต์ทั้ง 2 คัน จอดอยู่บริเวณหน้าบ้าน ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะพังประตูบ้านเข้าไป แล้วใช้น้ำมันราดบริเวณห้องรับแขกของบ้าน แล้วจุดไฟเผาจนได้รับความเสียหาย ทั้งทีวี ตู้ โต๊ะ โซฟา เสียหายทั้งหมด และยังใช้อาวุธปืนไม่ทราบขนาด กราดยิงเข้าไปในบ้าน ที่ฝาผนังบ้านมีร่องรอยเป็นรู

ส่วนทางด้าน นาย ทองหยด  อายุ 68 ปี เจ้าของบ้าน ขณะเกิดเหตุนั้นนอนอยู่ในห้องนอน 3 คนพ่อแม่ลูก จึงได้รีบหนีออกมาทางประตูด้านหลังบ้าน พร้อมแจ้งเจ้าหน้าที่ดับเพลิงและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าช่วยเหลือ ส่วนผู้ก่อเหตุได้หลบหนีไป เบื้องต้นทาง นาย ทองหยด และครอบครัว ไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่ขวัญเสียครอบครัวผวาอย่างหนัก ส่วนบ้านและรถยนต์ได้รับความเสียหาย จากการสอบถาม นาง รัตนา  อายุ 48 ปี ภรรยาของ นาย ทองหยด เจ้าของบ้าน ผู้เสียหาย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อตอนค่ำของวันที่ 3 พ.ค. ครอบครัวได้พักนอนอยู่ในบ้าน แต่จู่ ๆ ก็มีเสียงปืนดัง และผู้ก่อเหตุก็ได้กระทำการจุดไฟเผารถของตนเองทั้งสองคัน โดยใช้ที่พ่นกระป๋องยาฆ่าแมลงเป็นที่ใส่น้ำมัน ฉีดเข้าบ้านและจุดไฟเผา พร้อมทั้งใช้ปืนยิงข่มขู่แล้วหลบหนีไป

ทางด้าน นาย ทองหยด  อายุ 68 ปี เจ้าของบ้านผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองอยู่ภายในห้องนอนพร้อมภรรยา และลูกสาว วัย 13 ปี ได้ยินเสียงสุนัขเห่า มีไฟลุกขึ้นในบ้าน พร้อมเสียงปืนดังขึ้น ตนเองนั้นตกใจมากและรีบหลบหนีออกทางหลังบ้าน ครอบครัวของตนเองรู้สึกหวาดกลัวมาก โชคดีไม่ได้รับบาดเจ็บ แต่บ้านและรถยนต์ 2 คันเสียหาย หวาดกลัวมากคาดผู้ก่อเหตุคลั่งหวาดระแวงหวงภรรยาของผู้ก่อเหตุเอง และเคยข่มขู่ว่าจะทำร้ายครอบครัวตนเอง ซึ่งตนเองไม่ได้คุยกับผู้ก่อเหตุมาหลายปีแล้ว บ้านก็อยู่ห่างกันประมาณ 300 เมตร แต่ผู้ก่อเหตุนั้นชอบกล่าวหาว่าตนเองนั้นเป็นชู้คบหากับภรรยาของผู้ก่อเหตุ แต่ตนเองก็นิ่งเฉยไม่ได้ตอบโต้ เพราะไม่อยากมีปัญหากับผู้ก่อเหตุ จนได้เกิดเหตุการณ์ขึ้นมา ตนเองจึงคิดว่าน่าจะเป็นเพราะแรงหึงหวงของผู้ก่อเหตุ

ทางผู้สื่อข่าวสอบถาม นางสาว วาสนา  อายุ 37 ปี ที่อยู่ติดกับบ้านผู้เสียหาย เล่าให้ฟังว่า ตนเองได้ยินเสียสุนัขเห่า จึงมองดูที่บริเวณหน้าต่าง เห็น นาย บุญสืบ กำลังก่อเหตุ จึงทำการถ่ายภาพไว้ ขณะที่ยืนดูไฟลุกท่วมอยู่หน้าบ้านของ นาย ทองหยด และยิงปืนเข้าบ้านแล้วได้หลบหนีไป ตนเองจึงทำการแจ้งดับเพลิงและตำรวจเข้าทำการตรวจสอบอย่างเร่งด่วน ส่วนผู้ก่อเหตุหลบหนีไป ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจมาจับกุมตัวได้ในตอนเช้าที่บ้านของผู้ก่อเหตุ

ด้าน นาย อนุสิทธิ์ วัย 36 ปี ได้เล่าให้ฟังว่า ตนเองก็โดน นาย บุญสืบ  โดยในช่วงเกิดเหตุนั้นตนเองได้ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านบริเวณที่เกิดเหตุ ทาง นาย บุญสืบ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ไล่ตามไปถึงบริเวณหน้าวัดกาไสย์ ซึ่งห่างจากจุกที่ก่อเหตุประมาณ 300 เมตร แล้วใช้ปืนไม่ทราบขนาดยิงตนเองเข้าไป จำนวน 4 นัด แต่โชคดีที่ตนเองหนีรอดมาได้ จึงไม่ได้รับอันตรายแต่อย่างใด ทางด้านชาวบ้านในพื้นที่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า นาย บุญสืบ  อายุ 63 ปี ผู้ก่อเหตุมี พฤติกรรมชอบยิงปืนข่มขู่ในหมู่บ้านเป็นประจำ ทำให้ชาวบ้านหวาดระแวงในความปลอดภัย ซึ่งที่ผ่านมานั้น นาย บุญสืบ ผู้ก่อเหตุเคยติดคุกในคดีฆ่าคนตายมาแล้ว โดยออกมาจากเรือนจำได้หลายปีแล้ว แต่ยังชอบยิงปืนข่มขู่ชาวบ้านประจำในช่วงยามค่ำคืน ซึ่งผู้ก่อเหตุนั้นอยู่บ้านเพียงคนเดียวห่างจากบ้านผู้เสียหายประมาณ 300 เมตร




เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการควบคุมตัว นาย บุญสืบ ไปสอบสวนและตรวจปัสสาวะเบื้องต้น พบว่ามีสารเสพติด จาการสอบสวน นาย บุญสืบ ถึงสาเหตุที่คลั่งอาละวาด โดยบอกว่าที่ก่อเหตุนั้นเนื่องจากเมาสุรา และไม่ยอมพูดอะไร ยืนยันว่าตนเองนั้นเมาสุราอย่างเดียว ซึ่งหลังก่อเหตุนั้น ได้ขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีไป ส่วนอาวุธปืนนั้นหล่นหายระหว่างทาง ก่อนกลับมาบ้าน แล้วถูกเจ้าหน้าที่ควบคุมตัว นำตัวไปสอบสวนขยายผล เพื่อดำเนินคดีตามขั้นตอนของกฏหมายต่อไป



คุณอาจสนใจ