เลือกตั้งและการเมือง

'ทนาย ภท.' จับโป๊ะ 'ชูวิทย์' ปมร้อง กกต. ผู้สมัครส.ส. โอนเงิน 3,000 ซื้อเสียง

โดย nut_p

1 พ.ค. 2566

18 views

ทนาย ภท. จับโป๊ะ ชูวิทย์ แตกละเอียด เส้นทางเอกสาร  มาจากคนขับรถของพรรคการเมืองฝ่ายตรงข้าม ไปหลอกลวงว่าจะตั้งให้เป็นเป็นที่ปรึกษา  และ ผู้ช่วยหาเสียงของผู้สมัคร สส. ฝ่ายตรงข้าม  แต่กลับนำไปให้ 'ชูวิทย์' เอาไปสวมรอยกล่าวอ้าง



นายพิชัย เอี่ยมอ่อน ทนายความผู้รับมอบอำนาจพรรคภูมิใจไทย เปิดเผยกรณีนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ยื่นเรื่องที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (ก.ก.ต.) กล่าวหานางดรุณี พูนประสิทธิ์ ผู้สมัคร ส.ส.สระแก้ว พรรคภูมิใจไทย ทุจริตการเลือกตั้ง โดยนำเรื่องการโอนเงิน 3,000 บาท เพื่อจูงใจให้ลงคะแนนเสียงเลือกตั้ง ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง พบว่า เป็นหนังคนละม้วน เนื่องจากการมีรายละเอียด ชัดเจนว่ามีการปลอมลายเซ็น เพื่อนำเรื่องไปร้องเรียน กกต.



นายพิชัย กล่าวว่า บุคคลที่นายชูวิทย์ กล่าวอ้างชื่อย่อ อ.อ่าง และมีลายเซ็น คล้ายกัน คือ นายอาทิติ งามวงษ์ โดยเจ้าตัวยืนยันว่าไม่ได้ส่งหนังสือและพยานหลักฐานให้นายชูวิทย์ โดยมีนายทวีศักดิ์ หรือ ตุ๋ย ไม่ทราบนามสกุล ได้โทรศัพท์มาสอบถาม ในวันที่เข้า รักษาตัวที่ ร.พ.สมเด็จพระยุพราช สระแก้ว



โดยมอบกระเช้าพร้อมเงินจำนวน 5,000 บาท และนางดรุณี เคยช่วยเหลือเกี่ยวกับค่ารักษาพยาบาลหรือไม่ ก็ตอบไปว่า ไม่เคยช่วย แต่เคยให้ยืมเงิน 3,000 บาท แต่นายทวีศักดิ์ ไม่เชื่อ ได้ยินว่าช่วยในหลักหมื่น และขอดูหลักฐาน จึงได้ขอดูหลักฐานการโอนเงิน จึงส่งหลักฐานให้ทางไลน์



“จากนั้นนายทวีศักดิ์ จึงบอกว่าเชื่อแล้ว และต้องการให้ไปเป็นที่ปรึกษานายกฯ และขอนำหลักฐานไปแจ้งเป็นผู้ช่วยหาเสียง แก่พรรคการเมืองคู่แข่ง จึงได้ส่งภาพบัตรประชาชน ด้านหน้าและด้านหลัง พร้อมลายมือชื่อ ไปทางไลน์ของนายทวีศักดิ์ ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นการนำหลักฐานไปประกอบการแจ้งของนายชูวิทย์ แต่อย่างใด”ทนายผู้รับมอบอำนาจจากพรรคภูมิใจไทย กล่าว



นายพิชัย กล่าวว่า เมื่อนายอาทิติ  ทราบเรื่องว่านายชูวิทย์ แถลงข่าว ในช่วงเวลาดึก ระหว่างเดินทางไปทำธุระ จึงได้ไปแจ้งความที่ สถานีตำรวจภูธร บ้านทับใหม่ จ.สระแก้ว วันที่ 28 เม.ย.66 เวลา 00.59   และได้แจ้งความดำเนินคดีกับนายชูวิทย์ อีกครั้ง ที่ สภ.กบินทร์บุรี ในวันที่ 29 เม.ย.66 เวลา 17.37 น.



“นายอาทิติ ยืนยันชัดเจนว่า นางดรุณี ไม่ได้ทำการให้เงินเพื่อจูงใจ ให้ลงคะแนนเสียงให้นางดรุณี แต่อย่างใด ก่อนหน้านี้ ก็เป็นพิธีกรในงานปราศรัยต่างๆ หลายครั้ง และคิดว่ายังมีค่าจ้างค้างอยู่ แต่ที่จริงได้รับครบถ้วนแล้ว จึงขอยืมเงิน 3,000 บาท และจะชำระคืนโดยการทำงานเป็นพิธีกร  



จากนั้นนางดรุณี ได้โอนเงินมาให้ ยืนยันว่า ไม่ได้ส่งข้อความลักษณะจูงใจให้ไปลงคะแนนเสียง  หรือพูดเกี่ยวกับการเลือกตั้งแต่อย่างใด หลังจากนั้นยังได้นำเงินสด ไปคืนให้นางดรุณี เนื่องจากไม่ได้ทำงานเป็นพิธีกรให้นางดรุณี อีกต่อไป เพราะมีพิธีกรครบแล้ว ต่อมาทีมงานนางขวัญเรือน ได้ว่าจ้างให้เป็นพิธีกร ในเวทีปราศรัยหาเสียง 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 1,000 บาท แต่หลังจากนายชูวิทย์ แถลงข่าว จนถึงปัจจุบันไม่ได้เป็นพิธีกรอีกเลย”



นายพิชัย กล่าวว่า กรณีนี้พรรคภูมิใจไทย และนางดรุณี เป็นผู้เสียหาย ดังนั้นก็จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด  และจะเห็นได้ว่า มีการวางแผนเป็นกระบวนการโดยมีเจตนาที่จะบิดเบือนข้อเท็จจริงเพื่อมุ่งหวังให้ ภท. เสียคะแนนนิยม อันมิใช่การใช้สิทธิโดยสุจริต แต่เป็นการอาฆาตมาตร้ายเพื่อที่จะทำลายความน่าเชื่อถือของ ภท. ในการเลือกตั้งครั้งนี้

คุณอาจสนใจ

Related News