"ธนาธร" หาเสียงห้าแยกลาดพร้าว ปลุกคนรุ่นใหม่อย่าเพิ่งย้ายประเทศ มาร่วมสร้าง"ไทย"ให้ดีขึ้น

วันนี้ (26 เม.ย. 66) ที่ป้ายรถเมล์ หน้าห้างสรรพสินค้าย่านลาดพร้าว พรรคก้าวไกล นำโดย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียง, นายพิจารย์ เชาวพัฒนวงศ์ รองหัวหน้าพรรค พร้อมผู้สมัคร ส.ส. พรรคก้าวไกลในพื้นที่ ได้แก่ นายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ เขต 9 บางเขน (เฉพาะแขวงอนุสาวรีย์) , จตุจักร (เฉพาะแขวงจันทรเกษมและแขวงเสนานิคม) , หลักสี่ (เฉพาะแขวงตลาดบางเขน) , นายชยพล สะท้อนดี เขต 8 หลักสี่ (ยกเว้นแขวงตลาดบางเขน) , จตุจักร (ยกเว้นแขวงจันทรเกษมและแขวงเสนานิคม) และ นางสาวภัสริน รามวงศ์ เขต 7 บางซื่อ, ดุสิต (เฉพาะแขวงถนนนครไชยศรี)


โดยในวันนี้มีประชาชนมาร่วมฟังการปราศรัยเป็นจำนวนมาก ตั้งแต่บริเวณลานหน้าห้างสรรพสินค้า จนถึงบริเวณทางเดินบนรถไฟฟ้าสถานีห้าแยกลาดพร้าว จนล้นถนนพหลโยธินไปเลนที่ 2 รวมไปถึงชั้น 2 ของทางเชื่อมรถไฟฟ้าบีทีเอส ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นที่ตั้งใจมาฟังการปราศรัยโดยเฉพาะ


นายธนาธร ปราศรัยว่า ได้กำลังใจล้นหลามจากพ่อแม่พี่น้องประชาชนในทุกภูมิภาค ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่าคนไทยต้องการเห็นการเปลี่ยนแปลง ตนขอขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุน ไม่มีทุกท่านเรามาถึงที่นี่ไม่ได้ ตนอยากให้ทุกคนเห็นความสำคัญของวันที่ 14 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันเลือกตั้งรอบนี้


ตนขอเท้าความว่า ความขัดแย้งทางการเมืองที่พวกเราอยู่มาในรอบนี้ จุดกำเนิดคือการรัฐประหารปี 2549 หรือ 17 ปีที่แล้ว ซึ่งยาวนานมาก โดยฝ่ายหนึ่งที่ต้องการพาประเทศไทยไปข้างหน้า ความเจริญ ความเป็นประชาธิปไตย กับอีกฝ่ายที่ได้ระบบระเบียบและไม่ต้องการเห็นประเทศไทยเดินไปข้างหน้า ซึ่งหมายถึงผลประโยชน์ทางอำนาจทางเศรษฐกิจจะต้องถูกแบ่งปันกับประชาชนมากขึ้น ดังนั้นจึงมีประชาชนกลุ่มหนึ่งชุดหลังประเทศไทยไม่ให้ไปข้างหน้า


“เขาไม่เคยเกรงอกเกรงใจประชาชน 17 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีรัฐประหารถึง 2 ครั้ง มีการยุบพรรคการเมืองประชาธิปไตย 4 ครั้ง ไทยรักไทย พลังประชาชน ไทยรักษาชาติ และอนาคตใหม่ โดนกับตัวเองด้วย มีการประกาศแช่แข็งประเทศไทย 20 ปี มีการสลายการชุมนุมของประชาชน ที่ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตยอย่างร้ายแรง จับคนเห็นต่างเข้าคุกเข้าตะราง ลิดรอนสิทธิเสรีภาพ พวกเขาไม่เคยเกรงใจประชาชนเลย


นายธนาธร กล่าวถึงดรามาแบบเรียนในรอบสัปดาห์ พร้อมถามว่าใครได้เรียนบ้าง ย้ำว่าเป็นการสอนให้คนเชื่อ อย่าริอาจฝันถึงสิทธิเสรีภาพ เชื่อในบาปบุญคุณโทษ อย่าไปคิดว่าการเมืองไม่ดี เขาพยายามทำให้เชื่อแบบนั้น ซึ่งเป็นความพยายามแบบเดียวกัน


ดังนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นการพยายามพาประเทศไทยหลุดออกจากความขัดแย้ง ไม่ใช่ให้ปรองดองกัน เขาบอกพวกคุณอย่าเดินขบวน ให้ก้มหน้าก้มตายอมรับ นี่คือคำว่าปรองดองของเขา เก็บไว้ใต้พรม ดังนั้นการเลือกตั้งรอบนี้เป็นการกากบาทเพื่อพาประเทศไปข้างหน้า


“ไปหาทางออกกันในสภาผู้แทนราษฎร เอากองทัพอยู่ใต้พลเรือน สร้างแพลตฟอร์มที่ทำให้แก้ไขปัญหาความขัดแย้งได้อย่างสันติ โดยฉันทามติของประชาชน ซึ่งเป็นความสำคัญของการเลือกตั้งครั้งนี้ เป็นภารกิจของรัฐบาลใหม่ ที่ต้องฟื้นฟูประชาธิปไตยกลับขึ้นมาแล้วใช้ฐานที่ตั้งของประชาชน คือระบบรัฐสภา ในการหาทางออกให้กับประเทศไทย คนมองว่าเป็นสิ่งที่ดีที่พรรคการเมืองพยายามเสนอทางออกให้กับประเทศไทย” นายธนาธรกล่าว


“มีรัฐมนตรีตั้งหลายคน ไม่ต้องทำทีละเรื่อง ทำชีวิตความเป็นอยู่ของพ่อแม่พี่น้องกับโจทย์ที่ยากๆ การเป็นประชาธิปไตยทำพร้อมกันได้ไม่ต้องเลือกทำ” นายธนาธรกล่าว


นายธนาธร กล่าวต่อว่า ฝ่ายอนุรักษนิยมไม่ค่อยเห็นหัวประชาธิปไตย เขาไม่เคยเห็นหัวประชาชน คำถามคือ 17 ปีที่ผ่านมา นี่เป็นช่วงเวลาที่ฝ่ายอนุรักษนิยมอ่อนแอมากที่สุด ไม่ทำวันนี้จะทำวันไหน บัตรเลือกตั้งจะเป็นตัวตัดสินว่าคนไทยต้องการการเปลี่ยนแปลงมากน้อยแค่ไหน ยิ่งมีคนกาเยอะ ยิ่งทำให้มีโอกาสผลักดันวาระยากๆ


นายธนาธร กล่าวว่า บัตรจะเลือกคนคือความเป็นจริง คืออำนาจต่อรองในการทำเรื่องยาก ๆ ต้องมีของก้าวไกลเข้าไปให้มีอำนาจให้มากที่สุดให้ได้ คือจำนวนนับ ให้เขาเข้าไปยกมือให้กฎหมายที่ยากๆ ผลักดันวาระที่ยากๆ


“พรรคก้าวไกลคือคำถาม ตะโกนดัง ๆ ว่า เอาไหมก้าวหน้า อย่าเพิ่งเชื่อว่าประเทศไทยมาได้เท่านี้ อย่าเพิ่งย้ายประเทศ มาร่วมกันสร้างประเทศไทยที่ดีกว่านี้” นายธนาธรกล่าว