2 เหยื่อที่รอดชีวิต โชคดีหาหมอทัน-ไม่ชอบทำบุญ

เปิดใจสามีของหญิงที่รอดชีวิตหลังจากที่ไปนัดเจอน.ส.แอมที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง ที่จังหวัดกาญจนบุรี ก่อนที่นางสาวแอมเอายาสมุนไพรที่อ้างว่าเป็นยาแก้ไอ และจึงเกิดอาการ ตอนแรกเข้าใจว่าแพ้ยา แต่ตอนนี้คาดอาจเกี่ยวข้องกับการถูกวางยา

ทีมข่าวได้พูดคุยกับสามีของคุณกานติมา หญิงที่รอดชีวิตรายนี้ เป็นภรรยาตำรวจอยู่ที่จ.กาญจนบุรี เล่าว่า ย้อนกลับไปช่วงประมาณ เดือนกันยายน 65 น.ส.แอม นัดให้ ภรรยาไปทานร้านหมูกะทะแห่งหนึ่ง ในจังหวัดกาญจนบุรี

จากนั้นน.ส.แอม ได้ให้ยาแก้ไอ เป็นแคปซูล 1 เม็ด ให้ภรรยาตนเองรับประทาน เนื่องจากว่าภรรยาเพิ่งหายจากอาการโควิด และยังมีอาการไอเรื้อรังมาเป็นเดือน น.ส.แอมอ้างว่า เป็นยาแคปซูลสมุนไพร ช่วยแก้ไอ

เมื่อรับประทานยาไปได้ประมาณ 30 นาที มีอาการหายใจไม่ออก มือชา เท้าชา ซึ่งตอนนั้นได้แยกจากน.ส.แอมแล้ว ภรรยาจึงโทรหาตน ตนจึงโทรแจ้ง 1669 ก่อนรีบนำตัวส่งโรงพยาบาล

พอไปถึงโรงพยาบาลแพทย์ได้ทำการปั๊มหัวใจขึ้นมาเนื่องจากหัวใจหยุดเต้น ช่วงก่อนเข้าห้องฉุกเฉินพอดี ซึ่งตอนนั้นอาการหนักมาก ก่อนจะช่วยเหลือไว้ได้

ในตอนนั้นแค่สงสัยอาการจึงได้สอบถามว่าทานยา อะไรเข้าไปก่อนที่จะเกิดเหตุพร้อมกับขอดูตัวยา แต่ในตอนนั้นไม่มียาอยู่ในมือ แพทย์จึงได้ทำการรักษาโดยให้น้ำเกลือ เพื่อขับสารพิษออกจากปัสสาวะ ทำให้แฟนอาการดีขึ้น โดยในช่วงที่แฟนเข้าโรงพยาบาล น.ส.แอมไม่ได้มาหา และติดต่อไม่ได้เลย ทั้งนี้ภรรยาตนรู้จักกับน.ส.แอมเนื่องจากเป็นภรรยา ของรองผู้กำกับที่รู้จักกัน ที่ผ่านมา น.ส.แอม เคยมายืมเงิน และชักชวนภรรยาตนเล่นแชร์รวมกว่าแสน ถึง 2 แสนบาท ซึ่งตอนแรกไม่ได้ติดใจสาเหตุ แต่พอมีข่าวว่ามีคนถูกวางยา ก็ตั้งข้อสันนิษฐานว่าอาจจะเป็นเช่นเดียวกัน ซึ่งวันนี้ภรรยาตน ก็จะเดินทางก็ให้ข้อมูลกับทางตำรวจ

ส่วนเหยื่อผู้รอดชีวิตอีกราย ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้พูดคุยกับผู้รอดชีวิตหนึ่งรายนี้ เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่าที่รอดชีวิตจากน.ส.แอมเพราะตนเองไม่เชื่อในสายมู

โดยแรกเริ่มรู้จักแอมในฐานะของภรรยาตำรวจที่เรียกว่าคุณนายหลังจากนั้นน.ส.แอมก็จะพยายามตีสนิทและทำดีด้วยทุกอย่างเป็นคนดีสุภาพอ่อนน้อมถ่อมตนและมักช่วยเหลือดูแลเพื่อนเพื่อนในกลุ่มจนกระทั่งช่วงหนึ่งน.ส.แอม มาขอยืมเงินจำนวน 300,000 บาทหลังและได้คืนมาครึ่งหนึ่งจากนั้นแอมก็พยายามชวนไปทำบุญปล่อยปลา ไปหาหมอดูเกี่ยวกับเรื่องสายมูต่างๆ และน.ส.แอมจะชวนไปทำกิจกรรมสายมูต่างๆโดยจะให้ตนเองไปกับน.ส.แอมสองต่อสองไม่มีบุคคลอื่น "แต่เนื่องด้วยผู้เสียหายรายนี้ไม่เชื่อในเรื่องสายมูและเป็นคนไม่ชอบตื่นเช้าจึงไม่ได้สนใจ"

จากนั้นไม่นานก่อนจะเกิดเหตุผู้กองนุ้ยเสียชีวิตพบว่าน.ส.แอมมีท่าทางเปลี่ยนไปไม่ยอมคืนเงินและพยายามรบเร้า ให้ไปทำกิจกรรมต่างๆสองต่อสอง

จนล่าสุดเมื่อเดือนเมษายนน.ส.แอมได้ส่งภาพร้องไห้มาหาแล้วบอกว่าถูกสามีไล่ออกจากบ้านไม่มีที่ไปขอไปอยู่ด้วย กับผู้เสียหายรายนี้แต่ด้วยความสงสัยและมองว่าน.ส.แอมเป็นคนแปลกจึงไม่ได้คล้อยตามไม่เชื่อกับสิ่งที่น.ส.แอมพูดและปฏิเสธที่จะอยู่ด้วยสองต่อสอง

https://youtu.be/itbEnOY5Zk0