วินาทีรถแท็กซี่ถูกน้ำปูนกระฉอกใส่เปื้อนรอยคัน

จากกรณีที่รถสิบล้อบรรทุกน้ำปูนเสียเกิดกระเด็นออกมาใส่รถ taxi และการจราจรบนถนนเมื่อคืนวานนี้ (25 เมษายน) บริเวณถนนพหลโยธินขาออก ใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS สายหยุด จนทำให้การจราจรติดขัดยาวหลายกิโลเมตร

ช่วงเช้าวันนี้ ทีมข่าวช่อง 3 ได้ลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่า ยังปรากฏคราบของปูนที่แห้งจับตัวเป็นก้อน อยู่บนฟุตบาทและขอบทางถนน อยู่บริเวณทางขึ้นสถานีรถไฟฟ้า BTS สายหยุด

ได้พูดคุยกับเจ้าของร้าน ซึ่งอยู่บริเวณจุดเกิดเหตุพอดี เล่าทีมข่าวฟังว่า ช่วงประมาณ 2 ทุ่มกว่า ๆ ตนได้ยินเสียงเบรกรถและคนโวยวาย เลยเดินออกมาดูนอกร้าน เห็นว่ารถแท็กซี่เปียกเปื้อนไปด้วยน้ำปูนที่กระฉอกจากรถสิบล้อคันดังกล่าว ส่วนผู้โดยสารบนรถแท็กซี่นั้น ตอนแรกยังไม่เห็นว่าลงจากรถ แต่พอลงจากรถก็เปียกไปด้วยน้ำปูนที่ไหลจากหลังคารถ

ส่วนฝั่งคนขับรถสิบล้อ เห็นว่านั่งอยู่บนรถตลอดเวลาจนตำรวจเดินทางมาถึง แต่ไม่ได้สังเกตว่ามีอาการท่าทีเมาสุราหรือไม่ แล้วหลังจากนั้นก็มีเจ้าหน้าที่จากบริษัท ที่ทำหน้าที่รับขนปูน และเจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร มาช่วยกันทำความสะอาดกวาดเช็ดล้างคราบปูนบนท้องถนน กินเวลาประมาณกว่า 2 ชั่วโมงได้

ส่วนร้านอาหารและลูกค้าที่มานั่งกินข้าวในร้าน ไม่ได้รับอันตรายหรือเปื้อนน้ำปูนแต่อย่างใด มีเพียงแค่เก้าอี้นั่งรอหน้าร้านที่ถูกน้ำปูนกระเด็นใส่ แต่ได้ล้างทำความสะอาดเรียบร้อยแล้ว

อย่างไรก็ตามตนไม่เห็นเหตุการณ์ต้นเรื่องว่าเกิดอะไรขึ้น เลยไม่แน่ใจว่าเกิดจากรถแท็กซี่ขับตัดหน้าหรือกำลังจอดส่งผู้โดยสาร แล้วรถบรรทุกที่ขับตามหลังเกิดเบรคกะทันหัน แต่ก็ตั้งข้อสงสัยเช่นกันว่ารถบรรทุกแบบนี้สามารถขนน้ำปูนเช่นนี้ได้อย่างไร

โดยทางร้านยังได้มอบกล้องวงจรปิดให้แก่ทีมข่าว ซึ่งจะเห็นว่า ช่วงเวลาประมาณ 20:17 รถ taxi สีส้มได้ชะลอเพื่อจอดส่งผู้โดยสารบริเวณบันไดเลื่อนทางขึ้น BTS สายหยุด ปรากฏว่ารถสิบล้อที่ขับมาตามหลังเกิดเบรกขึ้นมา แล้วน้ำปูนที่บรรทุกอยู่ข้างหลังรถก็กระฉอกใส่รถแท็กซี่และบริเวณพื้นที่โดยรอบ ก่อนที่รถแท็กซี่จะค่อย ๆ ขับเดินหน้าออกมา