อาชญากรรม

"บิ๊กโจ๊ก" เผย นางสาว อ.ยังให้การปฏิเสธ พบวัตถุพยานขวดยาพิษ - สภ.บ้านโป่งสั่งย้ายอดีตสามี นางสาว อ.

โดย kanyapak_w

25 เม.ย. 2566

829 views

เมื่อเวลา 14.40 น. ตำรวจกองปราบปรามคุมตัว นางสาว อ. ผู้ต้องหา “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” กรณีเชื่อว่า วางยานางสาว "ก้อย" วัย 32 ปี มาทำการสอบปากคำที่สโมสรตำรวจ หลังจับกุมตัว



ซึ่งทันทีที่มาถึง ได้พาตัวหลบสื่อมวลชนเข้าทางด้านข้างของสโมสร ทำให้สื่อที่ปักหลักนั่งรออยู่บริเวณบันไดหน้าอาคาร ไม่ทันบันทึกภาพ ซึ่งขณะนั้นมีตำรวจกองปราบปราม 5 นาย ควบคุมตัวมาเข้าห้องสอบสวนทันที ซึ่งนางสาว อ. อ้างว่า ขอใช้สิทธิ์ความเป็นส่วนตัวไม่ขอพบนักข่าว ก่อนที่จะเข้าไปให้ปากคำกับ รอง ผบ.ตร.



หลังจากสอบสวนนานกว่า 40 นาที ตำรวจได้คุมตัวนางสาว อ. ออกจากห้องสอบสวน เพื่อนำตัวไปที่กองปราบปราม โดยระหว่างนำตัวออกมา ทีมข่าวพยามสอบถามว่าเป็นตามที่ผู้เสียหายตั้งข้อสังเกตหรือไม่ แต่นางสาว อ. ไม่ตอบคำถามใดๆ ก้มหน้าก้มตาและคล้องแขนเจ้าหน้าที่ตำรวจออกมา โดยมีทนายความเดินนำ และขอความร่วมมือสื่อให้เปิดทางให้ และระมัดระวังเนื่องจากนางสาว อ. ตั้งครรภ์อยู่ ทำให้สื่อพยายามถามว่าสมัครใจที่จะตอบคำถามหรือไม่ เจ้าตัวขอไม่ตอบคำถามใดๆ ก่อนทื่จะพยามฝ่าวงล้อมของสื่อมวลชนขึ้นรถไปยังกองปราบปราม



เวลา 16.20 น. ภายหลังประชุมนาน 2 ชั่วโมง ล่าสุดพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ออกมาระบุว่า ผู้ต้องหายังให้การปฏิเสธ และไม่พูดไม่ชี้แจงอะไร  ซึ่งขณะนี้ตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำญาติ เบื้องต้นพบว่ามีผู้เสียชีวิตทั้งหมด 9 รายแล้ว และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติมอีก 1 ราย (รวมเป็น 10 ) โดยเจ้าตัวได้ไปทานข้าวกับนางสาว อ. และปรากฏว่ามีอาการอาเจียน ก่อนที่จะสลบไป แต่โชคดีที่ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นบุคคลที่เป็นพยานสำคัญในคดีนี้ที่จะต้องเรียกมาสอบปากคำด้วย



เบื้องต้นผู้ต้องหา ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และความยากของคดีนี้ เนื่องจากตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ทางครอบครัวของผู้เสียชีวิต ไม่ได้ติดใจสาเหตุตั้งแต่แรก จึงไม่ได้ไปแจ้งความและไม่ได้มีการตรวจหาสารพิษในร่างกายเอาไว้ แต่ก็ยังมีบางส่วนที่ยังมีการผ่าพิสูจน์ศพว่าพบยา “ไซยาไนด์” ในร่างกายอยู่ ประกอบกับหลักฐานในที่เกิดเหตุ โดยเฉพาะขวดยา “ไซยาไนด์” ที่มีพยานนำมาให้กับทางตำรวจ หลังพบที่หลังบ้านหลังหนึ่ง ซึ่งหลักฐานที่สำคัญในคดีจะต้องเน้นหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์เป็นหลัก



ทั้งนี้ตัวผู้ต้องหามีเจตนาประสงค์ต่อทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต และจะมุ่งเป้าไปที่เหยื่อคนใกล้ชิด โดยเฉพาะในแวดวงตำรวจ และต้องมีเงิน แต่ในส่วน จะเข้าข่ายเป็นการฆาตกรรมต่อเนื่องหรือไม่ ต้องตรวจสอบและวิเคราะห์ถึงพฤติกรรมของผู้ต้องหาก่อน รวมถึงหลังจากนี้จะต้องสอบปากคำและพูดคุยกับเหยื่อรายอื่นๆ ที่พบเพิ่ม ซึ่งตอนนี้ทราบว่ามีทั้งหมด 9 ศพแล้ว ในพื้นที่ของจังหวัดราชบุรี นครปฐมและกาญจนบุรี



ทั้งนี้ในเรื่องของภาวะป่วยทางจิตของผู้ต้องหาจะมีหรือไม่นั้น อยู่ระหว่างตรวจสอบ รวมถึงที่สำคัญที่สังคมสงสัยคือยา “ไซยาไนด์” ผู้ต้องหานำมาจากที่ใด ต้องขอไปดูประวัติการซื้อขายและไล่ต้นตอแหล่งที่มาก่อน



ส่วนหลักฐานที่จะเชื่อมโยงได้นั่นก็คือศพที่มีการผ่าพิสูจน์แล้ว โดยมีแพทย์ยืนยัน ซึ่งจะสามารถขอศาลอนุมัติออกหมายจับเพิ่มเติม และอายัดตัวนางสาว อ. ได้ เบื้องต้นมี 3 ศพ อยู่ในพื้นที่จังหวัดนครปฐม ส่วนข้อมูลของชุดสืบสวนอีกชุดหนึ่ง อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางการใช้โทรศัพท์และเส้นทางการเงิน รวมถึงความเชื่อมโยงของอดีตสามีที่เป็นตำรวจด้วย



ส่วนคดีส่วนใหญ่ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นมานานแล้ว มีอุปสรรคหรือไม่นั้น รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังบอกว่า ยังคงยึดพฤติกรรมแวดล้อม เพราะพฤติกรรมมีลักษณะแบบเดียวกัน คือ ไปกินข้าวกินน้ำแล้วปรากฏว่าเสียชีวิต อีกทั้งบุคคลที่เสียชีวิตทั้งหมด เป็นบุคคลที่อยู่ในแวดวงใกล้ชิดและอยู่ในแวดวงของตำรวจ



ทั้งนี้สาเหตุของการฆาตกรรมยังคงมุ่งไปที่ประเด็นต้องการล้างหนี้ และประสงค์เอาทรัพย์ โดยเจ้าตัวพูดคุยได้เหมือนคนปกติทั่วไป เบื้องต้นยังไม่พบอาการทางจิต เพราะยังรู้การกระทำของตัวเอง ซึ่งตำรวจได้คัดค้านการประกันตัว และเชื่อว่าศาลจะอนุญาติตามคำร้องขอของพนักงานสอบสวน เพราะพฤติการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องปกติ โดย


ด้านนายรพี ชำนาญเรือ ผู้ประสานงานประชาชนที่ไม่ได้รับ ความเป็นธรรม ก็ออกมาให้ข้อมูลว่า ล่าสุดมีครอบครัวของผู้เสียชีวิตอีกราย ที่อาจจะเชื่อมโยงกับกรณีของนางสาว อ. ช่วงวันที่ 15 สิงหาคม 65 ที่โรงพยาบาลชะอำ เพชรบุรี เกี่ยวข้องกับนางสาว อ. โดยในวันพรุ่งนี้ทางครอบครัว จะเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มเติมที่สโมสรตำรวจ



ทั้งนี้กลุ่มผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่จะถูกจำแนกเป็นกลุ่มๆ คือ 1 การยืมเงิน 2 การเล่นแชร์ 3 หญิงที่มีปัญหาชีวิต และ 4 กลุ่มในแวดวงตำรวจ



ซึ่งมักจะเป็นบุคคลที่อยู่ในพื้นที่ จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม และ เพชรบุรี และส่วนใหญ่จะเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลว



ล่าสุด ได้มีคำสั่งตำรวจภูธรจังหวัดราชบุรี เรื่อง ให้ข้าราชการตำรวจปฏิบัติราชการ ด้วยเมื่อวันที่ ๑๔ เมษายน ๒๕๖๖ มีเหตุหญิงเสียชีวิตบริเวณริมแม่น้ำแม่กลองใกล้ศาลา ประชาคมเทศบาลเมืองบ้านโป้ง ตำบลบ้านโป้ง อำเภอบ้านโป้ง จังหวัดราชบุรี โดยไม่ทราบสาเหตุและมีบุคคล ในทางคดีมีความเกี่ยวพันกับ พันตำรวจโท วิฑูรย์ รังสิวุฒาภรณ์ ตำแหน่ง รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบ้านโป้ง จังหวัดราชบุรี


ตังนั้น เพื่อมิให้เกิดความเสียหายต่อทางราชการ อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติตำรวจ แห่งชาติ พ.ศ.๒๕๖๕ มาตรา ๖๘ มาตรา ๙๒ และระเบียบสำนักงานตำรวจแห่งชาติว่าด้วยการสั่งให้ข้าราชการตำรวจ ไปปฏิบัติราชการภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๓ จึงให้ พันตำรวจโท สงวนนามสกุล (อดีตสามี นางสาว อ.) ตำแหน่ง รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สถานีตำรวจภูธรบ้านโปง จังหวัดราชบุรี ปฏิบัติหน้าที่งานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรสวนผึ้ง จังหวัดราชบุรี โดยขาดจากบังคับบัญชาทางตำแหน่งเดิม









แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ