สังคม

ศาลฎีกาฯ จำคุก 6 ปี "อนุรักษ์" อดีต ส.ส.เพื่อไทย รีดเงิน 5 ล้าน อดีตอธิบดีกรมน้ำบาดาลฯ

โดย nutda_t

25 เม.ย. 2566

1.3K views

ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษาคดีหมายเลขดำที่ อม.4/2565 กรณีอัยการสูงสุดเป็นผู้ฟ้อง นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ อดีต ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย จากการเรียกรับสินบนจำนวน 5 ล้านบาท จากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งรองประธานอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 ใน กมธ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2563 ในการพิจารณางบประมาณโครงการขุดเจาะน้ำบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์



ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานแล้วเห็นว่า นายอนุรักษ์ กระทำผิดตามฟ้องจริง ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการป้องกันและปรับปรามการทุจริตฯ พ.ศ.2561 มาตรา 173 และประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 องค์คณะผู้พิพากษามีมติเสียงข้างมากลงโทษจำคุก 6 ปี ให้พ้นจากตำแหน่ง ส.ส.ตั้งแต่วันที่ 19 เมษายน 2565 ,  เพิกถอนสิทธิเลือกตั้งตลอดไป , ไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ ตามที่ศาลฎีกาเคยมีคำพิพากษาคดีจริยธรรมร้ายแรงก่อนหน้านี้



ทั้งนี้ ศาลพิเคราะห์ว่า ด้วยนายอนุรักษ์มีอำนาจในตำแหน่ง ส.ส. และอนุ กมธ. อาจเสนอความเห็นให้คุณหรือโทษแก่งบประมาณของหน่วยราชการได้ การที่ นายอนุรักษ์ โทรศัพท์ไปเรียกเงินและของานจาก นายศักดิ์ดา ย่อมเป็นการกระทำในตำแหน่งและอยู่ในอำนาจหน้าที่ของนายอนุรักษ์ โดยตรงจึงเป็นการเรียกรับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินโดยมิชอบ และเป็นการปฏิบัติหรือละเว้น การปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงาน



องค์คณะผู้พิพากษา ยังเห็นว่ากรณีนายอนุรักษ์ ให้การโต้แย้งนายศักดิ์ดา ว่าเป็นการโทรศัพท์ไปซักถามขอเอกสารเพิ่มเติมและแบบแปลน รวมถึงประมาณราคาของโครงการนั้น ก็สามารถมอบหมายฝ่ายเลขานุการดำเนินการให้ได้ ไม่จำเป็นต้องโทรศัพท์ติดต่อด้วยตนเอง และพิจารณาระยะเวลาในการโทรศัพท์ประมาณ 15 นาที หากเพียงแค่ขอเอกสารไม่น่าใช้เวลานานเพียงนี้



ทั้งนี้ พฤติการณ์ที่เกิดขึ้นไม่อยู่ในวิสัยที่นายศักดิ์ดา จะวางแผนสร้างเรื่อง และหากนายอนุรักษ์ ไม่โทรศัพท์เรียกเงิน ของาน ก็ไม่มีเหตุที่นายศักดิ์ดา จะต้องพูดเรื่องร้ายแรงนี้ในที่ประชุม คำเบิกความของนายศักดิ์ดา มีเหตุผลสอดคล้องเชื่อมโยง กับพยานอื่นอีก 3 ปากที่เรียก ทำให้มีน้ำหนักน่าเชื่อถือ รับฟังได้ว่านายอนุรักษ์ ได้กระทำตามข้อกล่าวหาจริง



อย่างไรก็ตาม ในชั้นการไต่สวนของ ป.ป.ช. นายอนุรักษ์ คัดค้านว่า ตนได้ทำหนังสือขอเรียกพยานเอกสารจากกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และขอเรียกพยานบุคคลมาให้การ 3 คน แต่ ป.ป.ช. ไม่ได้ดำเนินการตามที่ร้องขอ จึงถือเป็นการเร่งรัดสรุปสำนวน ซึ่งศาลเห็นว่านายอนุรักษ์ ไม่ได้ร้องขอเอกสารมาเป็นพยานหลักฐานโดยตรง เพียงแต่ขอให้ติดตามเร่งรัดให้ส่งเอกสารคำชี้แจงเพื่อนำมาประกอบคำชี้แจงของเท่านั้น เมื่อขณะนั้นนายอนุรักษ์ ยังไม่ได้ยื่นคำชี้แจงมา จึงไม่จำเป็นที่คณะไต่สวนต้องเรียกเอกสาร ส่วนที่ไม่เรียกพยานบุคคลตามที่ร้องขอ คณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้บันทึกเหตุผลไว้แล้ว อีกทั้งยังมีการไต่สวนพยานบุคคลถึง 17 ปาก และอนุญาตให้นายอนุรักษ์ขยายเวลายื่นคำชี้แจงอย่างเต็มที่ จึงไม่ได้เร่งรีบสรุปสำนวนตามที่กล่าวอ้าง

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ