สังคม

"บิ๊กป้อม" ร้องโอ้โฮ อยากให้เปิดข้อมูลนาฬิกาหรู หลังศาลปกครอง สั่งป.ป.ช. แจงรายงานทำคดี

โดย nutda_t

22 เม.ย. 2566

317 views

พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ พร้อมแกนนำพรรค เดินทางมาที่สถานีกลางบางซื่อ เพื่อเดินสายไปหาเสียงที่ จ.นครราชสีมา โดย พลเอกประวิตร สวมใส่เสื้อโปโลสีขาว ทับด้วยเสื้อแจ็คเก็ตสีน้ำเงิน และใส่กางเกงยีนส์ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส อารมณ์ดี ขึ้นนั่งโบกี้รถไฟชั้นธรรมดา ซึ่งเป็นขบวนรถไฟที่มีประชาชนทั่วไปร่วมโดยสารด้วย คือขบวนรถเร็ว 135 กรุงเทพฯ - อุบลราชธานี จุดหมายปลายทางที่นครราชสีมา ซึ่งตลอดเส้นทางจะแวะทำกิจกรรมพบปะประชาชนตามสถานีต่างๆ อาทิ ดอนเมือง อยุธยา สระบุรี ชุมทางแก่งคอย ปากช่อง และนครราชสีมา ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่างทางที่จ.อยุธยา พลเอกประวิตร ได้แกะกล่องผัดไทยรับประทานบนรถไฟ ชมบรรยากาศสองข้างทาง



ผู้สื่อข่าวถาม พลเอกประวิตร ว่าร้อนหรือไม่ พลเอกประวิตร กล่าวว่า ไม่ร้อน



พลเอกประวิตร ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่ได้นั่งรถไฟมาตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียนโรงเรียนนายร้อย หรือ 40-50 ปี มาแล้ว พร้อมถามกลับผู้สื่อข่าวว่าเป็นอย่างไรสนุกหรือไม่ การเดินทางนั่งรถไฟไปอีสานครั้งนี้ หวังจะใช้รถไฟในการพัฒนาพื้นที่ภาคอีสาน เปิดอุตสาหกรรมยานยนต์ และอุตสาหกรรมอื่นๆ รวมถึงโรงเรียน อาชีวะให้ได้มีงานทำ จะได้ไม่ออกนอกพื้นที่ และช่วยสร้างงานให้พื้นที่ภาคอีสาน



ส่วนกรณีที่ นายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ประกาศไม่จับมือพรรคพลังประชารัฐ และรวมไทยสร้างชาติ พลเอกประวิตร ย้อนถามสื่อว่า ใคร เมื่อสื่อย้ำว่าเป็นนายเศรษฐา พลเอกประวิตร ตอบว่าไม่เป็นไร ก็ว่ากันก่อนนะ ตนก็ไม่ได้ประกาศว่าจะจับมือ ตนบอกแล้วว่าข้ามความขัดแย้ง อยากให้ประชาชนทั้งประเทศเป็นหนึ่งเดียว ทำงานร่วมกันได้ ส่วนความคิดทางการเมือง ใครจะคิดอย่างไรก็ว่ากันไป ตนยังบังคับสื่อไม่ได้เลย และย้อนถามว่าบังคับได้หรือไม่ ถ้าไม่ได้แล้วจะมาถามทำไม



สำหรับแนวทางก้าวข้ามความขัดแย้งจะเป็นอย่างไร พลเอกประวิตร กล่าวว่า แนวทางนี้ไง แนวทางที่ให้ประชาชนรู้ว่า เป็นคนไทยต้องร่วมมือกัน ต้องอยู่ร่วมรับใช้แผ่นดินเกิด ต้องทำให้แผ่นดินเกิดมีความเจริญ และยอมรับว่าบรรยากาศขนาดนี้เอื้อไปสู่บรรยากาศก้าวข้ามความขัดแย้ง ประเทศเพื่อนบ้านแตกเป็น 4-5 ฝ่าย ยังรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้ และนำความเจริญมาสู่ประเทศ แล้วเรายังไม่แตกแยกมาก ยังไม่ได้สู้รบกันมาก ไม่เห็นต้องทำอะไรเลย แต่ต้องทำให้คนมีความรู้สึกว่า เป็นคนไทยต้องตอบแทนบุญคุณของแผ่นดิน ก็โอเคแล้ว ก่อนจะย้อนถามสื่อว่า แล้วคุณไม่โอเคหรือ คุณเกิดมาโอเคหรือไม่ มาเป็นนักข่าวอย่างเดียวเลยหรือ ไม่ทำอย่างอื่นเลยหรอ



นอกจากนี้ พลเอกประวิตร ยังกล่าวถึงกรณีที่ศาลปกครอง สั่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เปิดรายละเอียดคดีนาฬิกาหรู โดย พลเอกประวิตร ตอบอย่างมั่นใจพร้อมออกท่าทาง ว่า "โอ้โฮ ผมอยากให้เปิด เพื่อจะได้รู้ความจริงเป็นอย่างไร ผมไม่มีปัญหาเลย อยากให้เปิดนานแล้ว" และยืนยันว่าไม่มีผลต่อกระแสการเลือกตั้งครั้งนี้ จะมีได้อย่างไร เพราะไม่ได้ไปเอาของใครมา ผมยืมเขามา ก็ไปคืนเขาแล้ว



ภายหลังให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน พลเอกประวิตร ได้ชี้ไปที่เลข 37 ซึ่งเป็นเลขที่นั่งถัดจากที่ตัวเอง ซึ่งเป็นหมายเลขของส.ส.พรรคพลังประชารัฐ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ