รวบ 5 วัยรุ่นต้องสงสัย บุกบ้านขืนใจหญิงวัย 63 ปี ป่วยเบาหวานขึ้นตามองไม่เห็น

เมื่อวานนี้ (19 เม.ย.) หญิงวัย 42 ปี ออกมาร้องสื่อ ระบุว่าแม่วัย 63 ปี ถูกคนร้ายรูปร่างผอมสูง ค่อนข้างมีอายุ บุกงัดหน้าต่างบ้าน เข้ามาทำร้ายร่างกาย ด้วยการชกท้อง ตบหน้า แล้วขืนใจ เหตุเกิดเมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 8 ต่อเนื่องวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนั้นแม่อยู่บ้านคนเดียว ส่วนลูกสาวและลูกเขย ไปนอนบ้านสวนเฝ้าวัวที่เลี้ยงไว้กว่า 10 ตัว


ผู้เสียหายเล่าว่า ขณะเกิดเหตุได้ปิดไฟนอน มีเพียงแสงไฟจากไฟด้านนอกบ้านส่งอเข้ามา มองเห็นชายรูปร่างผอมสูงเข้ามาในห้องนอน แล้วใช้มือจับแขนผลักตนเองให้หงายลงไปนอนบนที่นอน แล้วใช้มือชกเข้าที่ท้อง ตบหน้า แล้วลงมือข่มขืนบนเตียงนอน นานประมาณ 1 ชั่วโมง จนสำเร็จความใคร่ แล้วหลบหนีไป


ซึ่งตนป่วยเป็นเบาหวานขึ้นตา จนมองไม่เห็น ต้องแข็งใจ กระเสือกกระสนไปขอความช่วยเหลือจากลูกพี่ลูกน้อง ของสามีที่เสียชีวิตไปแล้ว ให้ช่วยโทรแจ้งลูกสาวให้พาไปแจ้งความ ที่สภ.เมืองชัยภูมิ ตั้งแต่วันที่ 9 เม.ย. ผ่านมาจน 10 วัน คดีก็ไม่มีความคืบหน้า จึงมาร้องสื่อให้ช่วยเร่งรัดตำรวจติดตามจับกุมคนก่อเหตุ ที่คาดว่าจะเป็นคนในหมู่บ้านเดียวกัน


ล่าสุดวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองชัยภูมิ ได้ติดตามจับกุมกลุ่มวัยรุ่นผู้ต้องสงสัยได้ 5 ราย โดย พ.ต.อ.สมิต นันท์นฤมิตร กล่าวว่า คนร้ายรายนี้น่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นติดยาในหมู่บ้านเดียวกันกับผู้เสียหาย เพราะผู้เสียหายให้ปากคำว่า คนร้ายเป็นชายร่างกายแข็งแรงรูปร่างสูงผอม และต้องเป็นคนที่เคยรู้จักกัน เพราะช่วงลงมือก่อเหตุคนร้ายไม่ยอมพูดอะไรให้ได้ยินเสียงแม้แต่คำเดียว และยังได้ลงมือข่มขืนจนสำเร็จความใคร่ถึง 2 ครั้งติดๆ กันในเวลา 1 ชั่วโมง และยังปีนหน้าต่างกระโดดออกไปจากบ้านพักผู้เสียหายหลบหนีไปอย่างรวดเร็ว


จากการสืบสวนพบว่ากลุ่มวัยรุ่นผู้ต้องสงสัยในคดีดังกล่าวทั้ง 5 ราย เป็นคนเคยแวะเวียนเข้าๆ ออกๆ บ้านผู้เสียหายเพื่อขอรับจ้างทำงาน และมาขอเงินผู้เสียหายอยู่ประจำ


เบื้องต้นในชั้นสอบสวนทั้งหมดต่างให้การปฏิเสธ จึงส่งตัวไปตรวจดีเอ็นเอ ที่กองพิสูจน์หลักฐานชัยภูมิ เพื่อนำไปเปรียบเทียบกับหลักฐานที่คนร้ายทิ้งไว้ในที่เกิดเหตุ หากพบว่าตรงกับน้ำอสุจิที่เก็บได้ก็จะนำตัวมาดำเนินคดีต่อไป