แม่ใจสลาย รับศพน้องจีจี้ เผยรับรู้ลูกถูกทำร้าย เคยเตือนแล้วแต่กลับมาคบกันอีก

ความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของเน็ตไอดอลสาว น้องจีจี้ สุพิชชา ซึ่งวันนี้ครอบครัวเดินทางมาที่แผนกนิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี โดยคุณแม่ของน้องจีจี้ เปิดใจถึงเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นว่า ขณะนี้แม่ยังใจสลาย รับไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ก่อนเกิดเหตุแม่และน้องติดต่อกันไม่ได้ตั้งแต่ช่วงวันที่ 17 เมษายน ในช่วงเช้าจนถึงเช้าวันที่ 18 ก็ยังติดต่อไม่ได้ จึงมาหาน้องที่คอนโด พร้อมกับเพื่อนของน้อง และเมื่อเปิดห้องเข้าไปก็เห็นว่าลูกเสียชีวิตแล้ว



ตอนนั้นเป็นนาทีที่ช็อกและไม่ขอพูดถึง จนถึงเวลานี้แม่ก็ยังทำใจไม่ได้ แม่เชื่อว่าไม่มีบุคคลที่ 3 มาทำให้น้องจีจี้และแฟนหนุ่มเสียชีวิต แต่เป็นเพราะน้องจีจี้ถูกแฟนหนุ่มยิงเสียชีวิต ก่อนที่แฟนหนุ่มจะยิงตัวตายตาม



เรื่องราวความรักของทั้ง 2 คนนั้น แม่รับรู้มาตลอด และทางครอบครัวของฝ่ายชายก็รับ รู้เนื่องจากลูกทั้ง 2 คน ยังเป็นเด็กอยู่ พอคบกันก็มีการไปมาระหว่างสองบ้าน แต่ระยะหลังมารู้ว่าน้องจีจี้เคยถูกซ้อม ถูกทำร้ายร่างกาย ซึ่งแม่ก็ได้แจ้งกับครอบครัวของฝ่ายชายไปแล้ว และพยายามเตือนไม่ให้ทำร้ายร่างกายลูกสาวอีก อีกทั้งยังพบว่าฝ่ายชายมีอาวุธปืนและชอบเล่นปืน บางครั้งก็ชวนน้องจีจี้ไปสนามยิงปืนด้วย ส่วนภาพแชตที่เห็นว่ามีการยิงปืนข่มขู่ใส่กำแพงบ้านนั้น พบว่าเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่บ้านของฝ่ายชาย และทางบ้านของฝ่ายชายรับรู้มาตลอดว่าลูกชายทำร้ายร่างกายน้องจีจี้ ทั้งด้วยการใช้กำลังและการใช้อาวุธปืนข่มขู่



คุณแม่น้องจีจี้ ยังบอกว่า เมื่อรู้ว่าฝ่ายชายเล่นปืน อีกทั้งเป็นคนอารมณ์ร้อน ครอบครัวก็กังวลว่าสักวันจะเกิดเหตุร้าย อาจจะมาทำร้ายน้องจีจี้

จนเสียชีวิตได้ ซึ่งก็เกิดขึ้นแล้ว เมื่อวานขณะเกิดเหตุ ครอบครัวของแฟนหนุ่ม และครอบครัวน้องจีจี้ ก็เสียใจเพราะสูญเสียทั้งสองครอบครัว ส่วนเรื่องคดียังไม่ได้ให้ปากคำอย่างละเอียดกับเจ้าหน้าที่ รวมไปถึงการชดใช้เยียวยา ขอจัดงานศพลูกให้เสร็จสิ้นก่อน



คุณแม่น้องจีจี้ เล่าว่า แม่รักจีจี้มากและมีความสุขทุกครั้งที่เห็นจีจี้ได้แต่งตัวสวยและออกไปทำงาน ทุกครั้งที่จีจี้ไปทำงานก็จะโทรบอกแม่ เมื่อเลิกงานก็จะโทรบอก แต่วันเกิดเหตุกลับติดต่อไม่ได้ แม่จึงเอะใจและมาพบว่าลูกเสียชีวิตแล้ว



ส่วนครอบครัวของฝ่ายชายก็ได้ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขออโหสิกรรมตั้งแต่เมื่อวานที่ผ่านมา โดยทางครอบครัวไม่ได้ติดใจ แต่คาใจประเด็นเรื่องปืน เนื่องจากว่าฝ่ายชายอายุอย่างน้อยแต่กลับมีอาวุธปืน



ผู้สื่อข่าวสอบถามคุณแม่ว่า อาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุนั้นเป็นของคุณพ่อของฝ่ายชายหรือไม่ คุณแม่ ระบุว่าปืนที่ใช้ก่อเหตุเป็นของฝ่ายชาย ซึ่งฝ่ายชายนั้นเป็นคนอารมณ์ร้อนและมักจะทำร้ายร่างกายลูกสาวตนเองเป็นประจำ ทางครอบครัวของฝ่ายชายก็ยอมรับว่าบางครั้งก็ควบคุมลูกชายตนเองไม่อยู่เช่นกัน



ผู้สื่อข่าวจึงสอบถามคุณแม่ของน้องจีจี้ว่า เหตุใดทางครอบครัวของฝ่ายชายรู้ว่าลูกอารมณ์ร้อนแต่กลับสอนให้เล่นปืน และยังให้พกพาอาวุธปืน เมื่อสิ้นคำถามนี้ คุณแม่นิ่งไม่ขอตอบ



สำหรับการรับศพวันนี้ คุณแม่จะรับศพน้องจีจี้ไปทำพิธีทางศาสนาที่วัดใหญ่ จ.นครปฐม โดยคุณแม่ฝากบอกถึงน้องจีจี้ว่า ขอให้ลูกไปสบาย ลูกไปเป็นนางฟ้าบนสวรรค์ ไม่ต้องห่วงแม่ แม่จะทำให้ดีที่สุด



ด้านพ่อน้องจีจี้ เปิดเผยว่า สิ่งที่คาใจของครอบครัวคือ ทางครอบครัวฝ่ายชายรู้มาตลอดว่าลูกชายเป็นคนอารมณ์ร้อน และครอบครัวก็ยังควบคุมลูกชายไม่ได้ แต่ไม่รู้ว่ามีอาการป่วยหรืออะไร ซึ่งแปลกใจว่าเมื่อรู้ว่าลูกชายเป็นคนอารมณ์ร้อนแต่กลับสอนให้เล่นปืน สามารถเข้าไปยิงปืนในพื้นที่ของราชการได้ขณะที่อายุยังน้อยอยู่