ล่า ‘นางงาม’ ชวนกิ๊กหนุ่ม อุ้มแฟนคนจีนใส่กล่อง เรียกค่าไถ่

ตำรวจออกหมายจับผู้เข้าประกวดนางงามเวทีดัง ร่วมกิ๊กหนุ่มและพวกรวม 6 คน จับแฟนชาวจีนยัดใส่กล่องไปเรียกค่าไถ่ไกลถึงหัวหิน ล่าสุดจับคนร่วมก่อเหตุได้แล้ว 2 คน ขณะที่ตำรวจเปิดวงจรปิดตอนนำผู้เสียหายถูกยัดใส่กล่องเข็นออกจากห้อง

คลิปวงจรปิดของวันที่ 14 เมษายนที่ผ่านมา ช่วงประมาณ 3 ทุ่ม 6 นาที จะเห็นชายฉกรรจ์ 2 คน ใช้รถเข็นใส่กล่องพลาสติกและถุงใส่ของบางอย่าง ออกมาจากห้องพัก ที่ชั้น 17 ของคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งย่านสาทร แล้วมาลงลิฟต์ ซึ่งจะเห็นว่าตอนอยู่หน้าลิฟต์ฝากล่องมีการขยับเล็กน้อย ทำให้ 1 ในชายฉกรรจ์ ต้องเอามือมาจับ

จากนั้นชายทั้ง 2 คน ก็ลงมาถึงที่ลานจอดรถราว 3 ทุ่ม 7 นาที โดยชายทั้ง 2 คนเข็นรถไปยังรถเบนซ์ที่จอดรออยู่ จากนั้น 5 นาที ถัดมา 3 ทุ่ม 11 นาที รถเบนซ์สีฟ้า ก็ถูกขับออกมาจากคอนโดมิเนียม

นี่คือ 1 ในพยานหลักฐานที่ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล ใช้ออกหมายจับบุคคลที่เกี่ยวข้องในคดีอุ้มชายชาวจีน ไปเรียกค่าไถ่ โดยมีผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด 6 คน เป็นชาย 4 คน หญิง 2 คน เป็นคนไทยทั้งหมด และ 1 ในผู้ที่เกี่ยวข้องคือ นางสาว น้ำเพชร แฟนสาวของชายชาวจีน และเคยเป็นผู้เข้าประกวดนางงามเวทีดังด้วย

พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล เมื่อวันที่ 15 เมษายน นาย หยู ชายชาวจีน เพื่อนของนาย หวัง มาแจ้งความที่ สน.ลุมพินี ว่าเพื่อนหายตัวไปติดต่อไม่ได้ กระทั่งวันที่ 16 เมษายน นาย หวังได้วิดิโอคอลมาหาแต่อยู่ในสภาพที่ถูกทำร้ายร่างกาย และบอกว่านาย หยู ว่า "ไม่ต้องไปแจ้งความ เดี๋ยวคนร้ายจะปล่อยตัวถ้าโอนเงินมา" แต่เขาไม่ไว้ใจกลัวว่า นาย หวังจะถูกฆ่าจึงให้ข้อมูลกับตำรวจ

จากการสืบสวนของตำรวจพบว่า คนร้ายเข้ามาก่อเหตุช่วง 1 ทุ่มของวันที่ 14 เมษายน คนร้ายเป็นชาย 3 คน คือ นาย กาย กิ๊กของ นางสาวน้ำเพชร นายกบ และนายโจ ขับรถ รถเบนซ์รุ่น G-Class สีฟ้า 4 ประตู ที่นายหวังซื้อให้ นางสาว น้ำเพชร ใช้ ขับเข้ามาที่คอนโด จากนั้นขึ้นไปที่ห้องพัก โดยใช้คีย์การ์ดของ นางสาว น้ำเพชร พอเข้าไปในห้องก็ทำร้ายร่างกายนายหวังจนสลบ แล้วมัดมือมัดเท้า ก่อนจะใช้โทรศัพท์ของนายหวังคุยกับ รปภ. ข้างล่างขอยืมรถเข็นเพื่อขนของ โดยนำตัวนายหวังใส่ในกล่องพลาสติกแล้วเข็นลงมา เพื่อขึ้นรถ และพาไปขังไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งใน อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 1 คืน โดยมีนายจูน ผู้ร่วมก่อเหตุอีกราย เดินทางตามมาสมทบเพื่อเฝ้านาย หวัง

ตลอดเวลาที่ถูกจับ นาย หวัง โดนซ้อม และถูกบังคับให้โทรหา นาย หยู ในวันที่ 16 เมษายนเพื่อให้โอนเงิน ซึ่งได้โอนเงินมาทั้งหมด 3 ครั้ง ครั้งแรก 2 ล้านบาท เข้าบัญชีนาย กบ ครั้งที่ 2 อีก 9 แสนบาท เข้าบัญชีนาย กบ เช่นกัน และ ครั้งที่ 3 โอนเข้าบัญชีของ นางสาว ตา 1 ล้าน 3 หมื่นบาท รวมเป็น 3 ล้าน 9 แสน 3 หมื่นบาท ซึ่งตำรวจอายัดได้ 2 ล้าน 3 แสนบาท และอยู่ในระหว่างตรวจสอบเส้นทางการเงินเพิ่มเติม

จากนั้น เย็นวันที่ 16 เมษายน นาย หวัง ถูกปล่อยตัวที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งในอำเภอหัวหิน และประสานตำรวจจับนาย กบ 1 ในผู้ร่วมขบวนการได้ทันที

ตำรวจขอศาลอาญาออกหมายจับผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 5 คน คือ นายกบ ทำหน้าที่ขึ้นไปอุ้มและซ้อมผู้เสียหาย แล้วจับยัดลงกล่อง และรับโอนเงิน 2 ล้าน 9 แสนบาทจากผู้เสียหาย (จับได้แล้ว)

- นายโจ ทำหน้าที่ขึ้นไปอุ้มและซ้อมผู้เสียหาย แล้วจับยัดลงกล่อง (ยังจับไม่ได้)

- นายจูน ทำหน้าที่เฝ้าผู้เสียหายที่รีสอร์ทใน อ.หัวหิน (จับได้แล้ว)

- นายกาย เป็นหัวโจก ร่วมกันวางแผน และคนขับรถ (ยังจับไม่ได้)

- นางสาว ตา เป็นผู้รับโอนเงิน 1 ล้าน 3 หมื่นบาท (ยังจับไม่ได้)

- ส่วน นางสาว น้ำเพชร แฟนสาวนายหวัง ซึ่งตำรวจระบุว่าเป็นผู้ให้ข้อมูลของนาย หวัง ให้ใช้รถยนต์ และคีย์การ์ดเข้าคอนโด ร่วมถึงร่วมวางแผนลักพาตัว ตำรวจอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลออกหมายจับ (ยังจับไม่ได้)

ล่าสุดวันนี้ตำรวจเพิ่งจับ นาย จูน ได้อีก 1 คน จึงคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.ลุมพินี  เบื้องต้น นาย กบ และ นาย จูน รับสารภาพว่า ร่วมกันอุ้มเรียกค่าไถ่นาย หวัง จริง

ทำให้ช่วงบ่ายตำรวจคุมตัว นายกบ หนึ่งในผู้ต้องหามาทำแผนประกอบคำรับสารภาพที่หน้า สน.ลุมพินี โดยระหว่างที่ทำแผนทีมข่าวพยายามสอบถามว่าได้ทำร้ายร่างกายนาย หวัง หรือไม่ นาย กบ พยักหน้า และยอมรับว่าทำความผิดจริง โดยถูกนาย กาย จ้างมา แต่ไม่ยอมตอบว่าได้ค่าจ้างเท่าไหร่ และทำไมถึงตัดสินใจร่วมก่อเหตุ

จากนั้นนาย กบ สาธิตการจับ นาย หวัง ลงกล่อง โดยบอกว่า ให้นาย หวัง นอนตะแคง งอขา มัดเท้าและมัดมือไว้ด้านหลัง แล้วปิดฝากล่อง แล้วค่อยยกขึ้นรถเข็นลงมาที่ลานจอดรถ พอขึ้นรถก็เปิดฝากล่อง และแก้มัด เพื่อให้ นาย หวัง หายใจได้และสบายตัวขึ้น ซึ่งตอนที่อยู่ในรถ นาย หวังไม่ได้ขัดขืนแล้ว และตอนที่อยู่รีสอร์ทก็ไม่ได้ทำร้ายร่างกาย

ส่วนนาย หวัง ผู้เสียหายชาวจีน พบว่าตอนอยู่ที่จีนเป็นนักลงทุนเงินสกุลดิจิทัลแต่มีหมายจับคดีฉ้อโกง มูลค่า 12 ล้านหยวน หรือราว 60 ล้านบาท ก่อนจะหลบหนีเข้ามาในไทย แต่ยังไม่ได้ขึ้นเป็นหมายแดงในอินเตอร์โพลจึงสามารถเข้ามาในไทยได้ตามปกติ และ จากการตรวจสอบของตำรวจตรวจคนเข้าเมืองพบว่านาย หวัง เริ่มเข้ามาที่ไทยครั้งแรกในปี 2557 และเข้าออกอยู่หลายครั้ง แต่ครั้งสุดท้ายคือเข้ามาในประเทศไทยเมื่อวันที่ 9 เมษายนที่ผ่านมา ซึ่งตอนนี้ทางตำรวจตรวจคนเข้าเมืองได้อายัดวีซ่านักท่องเที่ยวของนาย หวัง แล้ว และกักตัวไว้เพื่อเตรียมผลักดันออกนอกประเทศ

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/_x_8yTP2tdI