สังคม

อดีต รปภ. เข้าชี้ตัวผู้ต้องหา รับจ้างวานจาก "ตู้ห่าว" บุกทำร้ายจนพิการ-เผาสวนงูภูเก็ต

โดย paranee_s

17 เม.ย. 2566

525 views

สืบเนื่องเมื่อกลางดึกวันที่ 23 เม.ย.2555 มีกลุ่มคนร้าย 3 คนบุกเข้าไปในสำนักงานของบริษัท สวนงูภูเก็ต ใน ซ.ตาเอียด ถ.เจ้าฟ้าตะวันออก ต.ฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต จับตัวนายอนุชิต อายุ 29 ปี พนักงานรักษาความปลอดภัยมัดมือมัดเท้าและทุบศีรษะจนสลบ ฟื้นขึ้นมาอีกครั้งจนกลายเป็นคนพิการ จากนั้นได้วางเพลิงเผาสวนงูดังกล่าว


หลังเกิดเหตุ สภ.ฉลองได้ขอศาลจังหวัดภูเก็ตอนุมัติหมายจับกลุ่มคนร้ายผู้ก่อเหตุไว้ 3 ราย ประกอบด้วย 1.นายสุวรรณ  อายุ 53 ปี 2.นายยุทธนา อายุ 48 ปี และ 3.นายสุรชัย อายุ 42 ปี


ต่อมาตำรวจกองปราบจับกุมนายสุวรรณเอาไว้ได้และเชิญนายยุทธนามาสอบปากคำ เบื้องต้นผู้ต้องหาทั้ง 2 ให้การรับสารภาพว่า รับการจ้างวานจาก "ตู้ห่าว" และภรรยา เพื่อให้เข้ามาก่อเหตุ ปมมาจากความขัดแย้งทางธุรกิจ ทำให้เหลือนายสุรชัยที่ยังหลบหนีอยู่ ก่อนส่งตัวทั้ง 2 คนให้กับพนักงานสอบสวน สภ.ฉลอง ดำเนินคดี แต่ต่อมาอัยการสรุปไม่สั่งฟ้อง ทำให้เหลือนายสุรชัยที่ยังหลบหนีอยู่อีก 1 ราย


ต่อมาเมื่อวันที่ 25 ม.ค.2566 พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก.พล.ต.ต.มนตรี เทศขัน ผบก.ป.สั่งการให้ พ.ต.อ.พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รอง ผบก.ป.พ.ต.อ.เผด็จ งามละม่อม ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ท.อัครพล มณีวรรณ รอง ผกก.1 บก.ป. พ.ต.ต.เดชวุฒิ อุตรศาสตร์ สว.กก.1 บก.ป.พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.สามเสนเข้าจับกุมนายสุรชัย อายุ 42 ปี ตามหมายจับศาลจังหวัดภูเก็ต ที่ จ.546/2555 ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2555 ข้อหาร่วมกันพยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ ได้ภายในลานจอดรถห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ


โดยนายสุรชัยได้หลบหนีมานานถึง 11 ปี โดยหนีมาอยู่ภายในชุมชนบางกระบือ 14 แขวงนครชัยศรี เขตดุสิต กรุงเทพฯ เบื้องต้นนายสุรชัยให้การปฏิเสธ จึงนำตัวส่ง สภ.ฉลอง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย


ล่าสุดเมื่อเวลา 10 เม.ย.66 ที่ สภ.เมืองภูเก็ต นายอนุชิต อายุ 29 ปี อดีตพนักงานรักษาความปลอดภัย สวนงูภูเก็ต ที่ถูกทำร้ายร่างกายจนพิการ พร้อมครอบครัวและทนายความได้เข้าชี้ตัวผู้ต้องหาและรูปผู้ต้องหาบางส่วนที่ร่วมกันทำร้ายในวันเกิดเหตุ เพื่อยืนยันรูปพรรณของคนร้าย


โดยนายอนุชิตสามารถชี้ผู้ต้องหาและรูปผู้ต้องหาได้อย่างแม่นยำ ทั้งๆที่เวลาล่วงเลยมากว่า 10 ปี โดยนายอนุชิตอยู่ในสภาพร่างกายที่เดินเหินลำบาก เนื่องจากขาขวาพิการจากการถูกทำร้ายในวันเกิดเหตุ ต้องมีพ่อและแม่คอยพยุงเดินขึ้น สภ.เมืองภูเก็ต เวลาจะลุกขึ้นก็ต้องพยุง การใช้ชีวิตประจำวันเป็นไปด้วยความยากลำบากและไม่สามารถประกอบอาชีพใด ๆ ได้


ด้านแม่นายอนุชิต กล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นคลอว่า ความยากลำบากที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์เมื่อ 10 ปีก่อน ทำให้ครอบครัวเรายากลำบากจนแทบไม่สามารถบรรยายใด ๆ ได้ ที่ผ่านมาได้ไปร้องขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานต่างๆ แต่ก็ไร้ประโยชน์และไม่สามารถช่วยเหลืออะไรได้ ซึ่งเมื่อลูกชายพิการ ทำให้ไม่สามารถทำงานใด ๆ ได้ ส่งผลให้พวกเราพิการไปด้วย เพราะต้องคอยดูแลเค้า เวลากว่า 10 ปีที่ผ่านมา พ่อแม่ลำบากมาก แต่การเป็นแม่คน รักลูกมากกว่าความลำบาก ซึ่งก็ต้องอดทน และไม่สามารถทอดทิ้งเค้าได้


"น้องต้องฟอกไตวันเว้นวัน ถ้าไม่ฟอก น้องจะตัวบวมและน้ำจะท่วมปอด หายใจไม่ค่อยออกและสามารถช็อกหมดสติได้ทุกเวลา โดยภาพรวมของร่างกายการเคลื่อนไหวไม่ปกติ ซีกซ้ายอ่อนแรง ซึ่งอาการทั้งหมดเป็นมาตั้งแต่หลังเกิดเหตุ และต้องผ่าสมองอีกด้วย" แม่และพ่อกล่าวด้วยความเสียใจ

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ