รมว.ดิจิทัล ยัน 'จ่าสิบโท' มือแฮก ไม่เกี่ยวการเมืองหรือการเลือกตั้ง เชื่อทำคนเดียว

รมว.ดิจิทัล ยืนยัน "จ่าสิบโท เขมรัตน์" แฮกเกอร์ 9 near ที่แฮกข้อมูล 55 ล้านคน ไม่เกี่ยวกับการเมือง หรือการเลือกตั้ง เชื่อเป็นการทำเพียงตัวคนเดียว


นายชัยวุฒิ คมาธมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ DES ยืนยันว่า การกระทำผิดของ จ่าสิบโท เขมรัตน์ บุญช่วย ไม่ใช่การแฮ็กข้อมูล และเบื้องต้นเป็นการกระทำโดยผู้ต้องหาเพียงคนเดียว แต่หากการสอบปากคำและพยานหลักฐานเชื่อมไปถึงใคร ก็จะดำเนินคดีโดยไม่มีข้อยกเว้น พร้อมยืนยันว่า การกระทำของผู้ต้องหานั้นไม่มีความเกี่ยวข้องกับเรื่องการเมือง หรือ การเลือกตั้งที่จะถึงนี้ เนื่องจากการเลือกตั้งไม่ได้ใช้ระบบดิจิทัล แต่จะเป็นการดิสเครดิตหรือพยายามพูดไปในเรื่องทางการเมืองหรือไม่ ก็เป็นเรื่องของฝ่ายการเมืองที่เอามาพูดกันเอง


นายชัยวุฒิ ยังบอกอีกว่า ที่ผ่านมา หน่วยงานรัฐได้มีการสร้างระบบป้องกันข้อมูลรั่วไหลเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพิ่งประกาศใช้ในปีที่ผ่านมา แต่ ในอดีตจะมีข้อมูลรั่วไหลจากหน่วยงานรัฐหรือไม่นั้น ตนเองไม่ทราบรายละเอียด


ยังไม่เจอตัว ดาบตำรวจอรรถพร ผู้ต้องหาพาพวกยิงถล่มบ้านพ่อตา หลังตำรวจสุราษฎร์ธานี ระดมกำลังกว่า 200 นาย ปิดล้อมตรวจค้น 3 จุด เพื่อล็อกตัว จากการตรวจค้นพบเพียงร่องรอยว่า เคยหลบซ่อนอยู่ / ล่าสุดญาติดาบตำรวจเผย เจ้าตัวติดต่อหาพระพี่ชาย อยากมอบตัว แต่ขอรอหลังสงกรานต์


เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คีรีรัฐนิคม นำตัวนายมานพ หนึ่งในผู้ต้องหาใช้ปืนอาวุธสงคราม บุกยิงถล่มบ้านนายธรรมรงค์ หรือ ผู้ใหญ่รงค์ ที่ตำบลกะเปา อำเภอคีรีรัฐนิคม จังหวัดสุราษฎร์ธานี จนมีผู้เสียชีวิตในบ้าน 4 คน ส่งฝากขังที่ศาลจังหวัดสุราษฎร์ธานีแล้ว ในข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา / ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน / และพกพาอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืนไปในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต พร้อมคัดค้านการประกันตัว


ขณะเดียวกันตำรวจยังได้เรียกสอบนางวัชรี เมียคนที่ 2 ของดาบตำรวจอรรถพร มาสอบปากคำเพิ่มเติม เกี่ยวกับทรัพย์สิน ที่นางวัชรีให้สัมภาษณ์สื่อว่า ผู้ใหญ่รงค์เคยมาขอดาบตำรวจอรรถพร ไปเป็นลูกเขย เพื่อให้ช่วยดูแลที่ดินและสวนปาล์มน้ำมัน ในพื้นที่ตำบลกะเปา จากนั้นดาบตำรวจอรรถพร ก็ขายที่ดิน ซึ่งตัดแบ่งจากส่วนที่นางวัชรีสร้างที่อยู่อาศัยในปัจจุบัน ได้เงินมา 2 ล้านกว่าบาท ขายที่ดินซึ่งเป็นสมบัติของตัวเอง ได้เงินประมาณ 2 ล้านบาท และไปกู้เงินสหกรณ์ตำรวจ อีก 3 ล้านบาท รวมเป็นเงินกว่า 7 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปลงทุนสร้างสวนปาล์มน้ำมัน และซื้อที่ดินร่วมกับผู้ใหญ่รงค์ ก่อนจะมีปัญหากัน ซึ่งตำรวจเชื่อว่าอาจจะเป็นสาเหตุจูงใจ ที่ทำให้ดาบตำรวจอรรถพรก่อเหตุ


ล่าสุด พลตำรวจตรีศรัญญู ชำนาญราษ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี มาที่ สภ.บ้านตาขุน เพื่อติดตามความคืบหน้าการล่าตัวดาบตำรวจอรรถพร พร้อมเผยว่า ตั้งแต่ช่วงเช้า ตำรวจชุดสืบสวนจังหวัด ระดมกำลังกว่า 200 นาย ปิดล้อมตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัย 3 จุด ในพื้นที่อำเภอบ้านตาขุน เตรียมล็อกตัวดาบตำรวจอรรถพรที่อยู่ระหว่างหลบหนี จนถึงขณะนี้พบเพียงร่องรอย ว่าเคยมาหลบซ่อน แต่ยังไม่เจอตัว คาดว่า ตัวดาบตำรวจอรรถพร ยังคงหลบหนีอยู่ในพื้นที่รอยต่อระหว่างอำเภอคีรีรัฐนิคม กับอำเภอบ้านตาขุน เพราะบริเวณนี้เป็นพื้นที่ป่า เหมาะแก่การหลบซ่อนตัว อีกทั้งดาบตำรวจเป็นคนในพื้นที่ ทำให้มีญาติพี่น้องหลายคน พอจะอาศัยหลบหนีได้ / โดยช่วงเย็นวันนี้ ตำรวจจะปูพรมตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยอีก 4 จุด


ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยถึงตัวละครใหม่ ที่ชื่อนายอู๊ด ที่ตอนนี้บวชเป็นพระ ซึ่งเป็นคนของผู้ใหญ่รงค์ แต่เข้ามาอยู่ที่บ้านของนางวัชรี และเป็นคนให้พาดาบตำรวจอรรถพรไปรู้จักกบผู้ใหญ่รงค์นั้น ตำรวจตรวจสอบแล้วทราบว่า พระอู๊ดมีชื่อจริงว่า นายกัมปนาท ปัจจุบันบวชเป็นพระ แต่ไม่รู้ว่าอยู่ที่วัดไหน โดยเพิ่งบวชเป็นพระได้ 1 สัปดาห์ ก่อนเกิดเหตุยิงถล่ม แล้วออกไปอยู่นอกพื้นที่ ก่อนกลับเข้ามาในพื้นที่ก่อนเกิดเหตุเพียง 1 ชั่วโมง และยังเป็นคนโทรแจ้งเหตุกับตำรวจ เรื่องนี้พนักงานสอบสวนได้เรียกพระอู๊ดมาสอบปากคำแล้ว


พระอู๊ดบอกว่า ที่กลับมาในพื้นที่ ตั้งใจมาทวงถามเล่มทะเบียนรถกระบะ ที่ซื้อไปจากผู้ใหญ่รงค์ ซึ่งได้รถไปขับแล้ว แต่ยังไม่ได้สมุดทะเบียนรถ แต่เมื่อมาถึงกลับมาเจอคนตาย จึงแจ้งตำรวจตามขั้นตอน ทั้งนี้หลังสอบเสร็จก็ได้ปล่อยตัวพระอู๊ดกลับไปแล้ว กระทั่งมีคนมาตั้งสังเกตในเรื่องนี้

ล่าสุด ผู้สื่อข่าวได้รับการติดต่อจากลูกพี่ลูกน้องของดาบตำรวจอรรถพร ว่า ดาบตำรวจอรรถพร ติดต่อไปยังพระสมชาย ซึ่งเป็นพี่ชายของดาบ บอกว่า ตอนนี้อยากมอบตัวกับตำรวจแล้ว แต่ขอเป็นหลังสงกรานต์ เพราะเกรงว่า ถ้ามอบตัววันนี้ แล้วติดช่วงหยุดยาวหลายวัน จะไม่ได้รับความสะดวกในการติดต่อขอประกันตัว

https://youtu.be/JpwvnSYfeCI