กองทัพงูเห่าบุกหมู่บ้านหรูราคาครึ่งล้าน จับได้รายวันไม่ต่ำกว่า 30 ตัว

วงจรปิดภายในบ้านหลังหนึ่งของโครงการหมู่บ้านจัดสรร ย่านกระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 21.00 น. วันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา โดยในคลิปจะเห็นว่า ลูกงูเห่าตัวเล็กสีดำ เลื้อยเข้าไปในคอกเลี้ยงเด็กเล็ก เจ้าของบ้านเห็นเข้าจึงรีบแจ้ง รปภ.มาช่วยจับ เมื่อ รปภ.มาถึง ได้ช่วยกันหาอยู่นานพอสมควร ก่อนไปเจอว่าลูกงูเห่า ซ่อนตัวอยู่หลังคอกเลี้ยงเด็ก



ทีมงานไปนั่งไล่อ่านในอินบ็อกซ์ของเพจโหนกระแส พบว่า ไม่ใช่แค่หลังนี้หลังเดียวที่ถูกลูกงูเห่าบุกเข้ามาในบ้าน ยังมีลูกบ้าน หมู่บ้านเดียวกันที่เจอปัญหาในลักษณะนี้ เรียกว่าแจ้งรปภ.มาจับกันรายวันทุกวัน ที่ผ่านมาเจอ ลูกงูเห่าออกอาละวาดแบบนี้ไม่ต่ำกว่า 30 ตัว มีทั้งจับได้และจับไม่ได้ ซึ่งลูกบ้านเชื่อว่า รังของงูเห่าน่าจะอยู่ไม่ใกล้ ไม่ไกลจากหมู่บ้านแน่นอน จึงส่งเรื่องร้องเรียนมายังรายการโหนกระแส เพราะก่อนหน้านี้แจ้งทั้งเจ้าของโครงการหน่วยงานในพื้นที่ ก็ยังไม่สามารถแก้ปัญหาได้ ทำได้เพียง เจอ แจ้ง จับ แต่มันไม่จบ



ทีมข่าวลงพื้นที่ไปยังหมู่บ้านจัดสรรดังกล่าว เพื่อดูความเดือดร้อนของลูกบ้าน โดยบ้านหลังล่าสุดที่ลูกงูเห่าบุกเข้ามาในบ้านเมื่อวันที่ 10 เมษายนที่ผ่านมา และมีลูกเล็กวัย 1 ขวบ 6 เดือน โดยเธอเล่าให้ฟังว่า วันดังกล่าวเธอพาลูกขึ้นห้องนอนไวกว่าปกติ พอลูกหลับ เธอก็ลงมานั่งกินข้าว และเหลือบไปมองเห็น ตัวอะไรดำๆ ยาวๆ อยู่ตรงผ้าม่าน พอมองไปสักพักเห็นมันเลื้อยเข้ามาใกล้ๆ จึงมั่นใจแล้วว่า ลูกงูเห่าแน่นอน



ด้วยความตกใจ เธอจึงกรี๊ดลั่นและรีบวิ่งไปตามสามี พอลงมาลูกงูเห่าตัวดังกล่าวหายไป จึงเปิดกล้องวงจรปิดย้อนดูพบว่า มันเลื้อยไปมาทั่วบ้านก่อนจะเข้าไปในคอกเลี้ยงเด็ก ซึ่งนับว่าโชคดีเพราะปกติช่วงหัวค่ำ เธอจะให้ลูกนอนเล่นอยู่ในคอกเลี้ยงเด็ก จนปล่อยให้ลูกหลับไป ก่อนพาขึ้นห้องนอน



เธอบอกว่า แทบไม่อยากนึก หากลูกวัย 1 ขวบ 6 เดือน ถูกงูเห่าฉกเข้าจะเกิดอะไรขึ้น และถ้าเกิดความสูญเสีย ใครจะรับผิดชอบ ซึ่งปัญหาเรื่องลูกงูเห่าบุกบ้าน ครั้งแรกพบที่บ้านหลังอื่น ที่ซอย 4 ซึ่งเธออยู่ซอย 2 และเห็นในไลน์กลุ่มหมู่บ้าน มีการพูดคุยกัน ก็คิดว่าแก้ปัญหาแล้ว แต่ผ่านมากว่าครึ่งเดือน ยังแก้ไม่ตก และในไลน์กลุ่มหมู่บ้าน มีการแจ้งจับลูกงูเห่ากันรายวัน จนล่าสุดมาเกิดขึ้นกับที่บ้านของเธอเอง



ต่อมาทีมข่าวได้เดินสำรวจไปยัง ซอย 4 จุดแรกที่พบลูกงูเห่า ซึ่งบ้านหลังแรกที่พบลูกงูเห่า เป็นบ้านหลังริมอยู่ติดกำแพง แต่วันนี้เจ้าของบ้านไม่อยู่ไปต่างจังหวัด โดยเพื่อนบ้านเล่าให้ฟังว่า ครั้งแรกที่พบลูกงูเห่าคือวันที่ 28 มีนาคม ภายในบ้านหลังนี้ จากนั้นก็พบอีกเรื่อยๆ จึงสันนิษฐานว่า ลูกงูเห่าน่าจะขึ้นมาตามท่อระบายน้ำ หรือโพรงที่อยู่ตรงกำแพง ลูกบ้านจึงแจ้งทางเจ้าของโครงการ



ทางเจ้าของโครงการก็แก้ปัญหาด้วยการนำสก๊อตเทปมาปิดตามรอยต่อ รอยแยกของกำแพงหมู่บ้าน เพราะอีกฝั่งเป็นสวน คาดว่าอาจจะมุดมาตามโพรงใต้กำแพง นอกจากนี้ได้นำแผ่นไม้กระดานมาปิดตามรู ตามโพรงไว้ แต่ลูกงูเห่าก็ยังโผล่มาได้อีก



ลูกบ้านภายในซอย 4 จึงแก้ปัญหาด้วยการนำผงสารเคมีไล่งู , น้ำมันก๊าส ราด , สมุนไพรต่างๆที่มีสรรพคุณว่า ไล่งู ไปโรยตามท่อระบายน้ำ  ปรากฏว่า เคยเจอลูกงูเห่าก็พุ่งสวนขึ้นมา และเลื้อยผ่านสารเคมีไปหน้าตาเฉย เคยร้องขอไปยังหน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นให้นำเครื่องฉีดพ่นควันอัดลงไปในท่อและตามโพรงต่างๆ ซึ่งทางหน่วยงานก็มาทำให้ แต่ลูกงูเห่าก็ยังไม่หมด เหมือนว่ารังของมันคงอยู่ใต้ดินบริเวณไหนสักแห่งในหมู่บ้าน เพราะตอนที่ฉีดพ่นควันฉีดอีกจุดหนึ่งควันไปโผล่อีกจุดหนึ่ง หมายความว่าโพรงใต้ดินมันเชื่อมถึงกันหมด



ขณะที่ข้ามรั้วกำแพงหมู่บ้านไปจะเป็นสวนดอกรักของชาวบ้าน ซึ่งทีมข่าวขออนุญาต คุณตาวัย 81 ปี คนดูแลสวน ขอเข้าไปสำรวจบริเวณที่ติดกับรั้วกำแพงหมู่บ้าน ซึ่งจุดดังกล่าวจะเป็นดงกล้วยรกทืบ โดยคุณตาบอกว่า ตัวคุณตาเอง อยู่ที่นี่มาหลายปียังไม่เคยเจองูเห่า แต่วันก่อนคนงานเข้าไปแถวดงกล้วยได้ยินเสียงขู่ "ฟ่อ ฟ่อ ฟ่อ" เหมือนกับเสียงงูเห่า จึงวิ่งหนีกันออกมา คุณตาบอกว่าถ้า เป็นตัวคุณตา ไม่หนีหรอก จะอยู่สู้กับมัน แค่ใช้ฉมวกแทงมัน หรือ ไม้ตีมันก็ตายแล้ว



จากนั้นทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจบริเวณดงกล้วย พร้อมกับ นายสัมฤทธิ์ สมสนิท ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 6 ต.สวนหลวง อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ปรากฏว่าเจอคราบงูจริงๆ แต่ดูไม่ออกว่าเป็นคราบงูชนิดไหน ลักษณะเกล็ดสีดำและตัวใหญ่มาก เจอ 2-3 คราบ