เปิดไทม์ไลน์สุดช็อกดาบตำรวจยิงภรรยาตายก่อนบุกยิงบ้านพ่อตา

เปิดภาพนาทีสังหาร ดาบตำรวจพร้อมพวกรวม 3 คน ถืออาวุธปืนสงครามบุกกราดยิงใส่บ้านพ่อตา ซึ่งเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ที่สุราษฎร์ธานี มีผู้เสียชีวิต 4 ศพ ก่อนมาเจอศพลูกชาย และภรรยาดาบตำรวจ ถูกยิงเสียชีวิต เปิดไทม์ไลน์สุดช็อกยิงภรรยาตายก่อนบุกบ้านพ่อตา

กล้องวงจรปิดภายในบ้านที่เกิดเหตุ เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะคนร้าย 3 ถือปืนบุกเข้ามา ตอนบ่ายโมง 20 นาที ของวันที่ 8 เมษายน มุมแรกเป็นภาพของนายธรรมรัตน์ ถือปืนวิ่งเข้ามาในบริเวณบ้าน แล้วยิงปืนใส่ในตัวบ้าน พอมองเข้าไปในชั้นล่างของบ้านแล้วไม่เห็นคน จึงยิงปืนขึ้นไปที่ชั้น 2 ของบ้าน สลับกับการวิ่งหลบตามกำแพงบ้าน และหลังต้นไม้ เพื่อหลบกระสุนที่ยิงสวนออกมา

มุมถัดมาเป็นภาพของนายมานพ ถือปืนหลบอยู่หลังต้นไม้ดูท่าที ก่อนวิ่งมาที่ตัวบ้าน อีกมุมเห็นภาพดาบตำรวจอรรถพร ซึ่งเป็นลูกเขยของบ้าน มายืนหลบมุมเพื่อบรรจุกระสุนปืน ก่อนเดินหายออกไปจากมุมกล้อง ผ่านไป 10 นาที หลังเสียงปืนสงบลง มีเพียงดาบตำรวจอรรถพร และนายมานพ วิ่งขึ้นรถเก๋งสีบรอนซ์เทาขับหลบหนีไป

หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.กาญจนดิษฐ์ เข้าตรวจสอบในบ้านหลังดังกล่าว อยู่ที่ตำบลบางงอน อำเภอพุนพิน จังหวัดสุราษฎร์ธานี พบเสียชีวิตทั้งหมด 4 ศพ เป็นคนในบ้าน 3 ศพ คือ นายธรรมรงค์ หรือ ผู้ใหญ่รงค์ อายุ 60 ปี / นางนิลทิพย์ หรือ แตง อายุ 49 ปี ภรรยาผู้ใหญ่รงค์ / และนายพรศักดิ์ หรือ ผู้ใหญ่เกราะ อายุ 56 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านที่ตำบลท่าขนอม ซึ่งเป็นญาตินางแตง // ส่วนอีก 1 ศพ คือ นายธรรมรัตน์ เป็นพี่ชายของดาบตำรวจผู้ก่อเหตุ

โดยเมื่อคืนที่ผ่านมา ญาติ ๆ ได้นำศพนายธรรมรัตน์ 1 ในคนร้ายที่เสียชีวิต ไปตั้งบำเพ็ญกุศลวันแรก ที่วัดไกรสรเขตราราม ตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน ปรากฏว่า ประมาณ 3 ทุ่ม มีพระสงฆ์ที่วัดไปเจอรถเก๋งฮอนด้า ซิตี้สีบรอนซ์ ซึ่งเป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุจอดอยู่ที่ลานหน้าวัด ภายในรถพบศพ นายบาส อายุประมาณ 22 ปี ลูกชายดาบตำรวจอรรถพร นั่งที่เบาะข้างคนขับ ในสภาพเบาะถูกปรับนอน ศพถูกห่มด้วยผ้าขาวม้า ข้อมือทั้งสองข้างถูกมัดติดกันด้วยสายสิญจ์ คล้ายกับการมัดตราสังข์ มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับขวา

ทั้งนี้มีพยานที่อยู่ในศาลาจัดงานศพ บอกว่า ตอน 3 ทุ่ม มีชายปริศนาเดินมาที่ศาลา แล้วบอกญาติในงานว่า ฝากจัดงานศพให้หลานด้วย หลานอยู่ในรถ ชาวบ้านจึงไปดูพอเห็นศพก็แตกตื่น ชายคนดังกล่าวจึงอาศัยช่วงชุลมุนหนีไป / เชื่อว่านายบาสอยู่ร่วมในเหตุการณ์ ที่บุกไปยิงที่บ้านผู้ใหญ่รงค์ด้วย ก่อนถูกฆ่า

เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา หน่วยกู้ภัยได้รับจากรีสอร์ทแห่งหนึ่งที่อำเภอคีรีรัฐนิคม ว่าพบศพผู้หญิงในห้องพัก เมื่อเข้าไปตรวจสอบ พบว่า เป็นศพ น.ส.พนิดา หรือตั๊ก ลูกสาวผู้ใหญ่รงค์ และเป็นภรรยาของดาบตำรวจอรรถพร โดยศพมีแผลถูกยิงกรอกปาก กระสุนฝังในบริเวณคาง สภาพขึ้นอืด คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 วัน

โดยคนที่รีสอร์ทให้ข้อมูลว่า ดาบตำรวจอรรถพร เป็นคนมาเปิดห้องตั้งแต่ 6 โมงเย็นของวันที่ 7 เมษายน ซึ่งทั้งคู่มาด้วยกันบ่อย จึงไม่มีอะไรน่าสงสัย กระทั่งตอนเที่ยงของวันที่ 8 เมษายน นายธรรมรัตน์ พี่ชายดาบตำรวจ มาเปิดห้องเพิ่มอีก 1 ห้อง ก่อนพาออกกันออกจากรีสอร์ต โดยใช้รถของนายธรรมรัตน์ จากนั้นไม่กลับมาอีกเลย กระทั่งวันนี้ครบกำหนดจองห้องพักจึงเข้าไปตรวจสอบ

เมื่อมาไล่ไทม์ไลน์เหตุการณ์ พบว่า ตั้งแต่เย็นวันที่ 7 เมษายน ดาบตำรวจอรรถพร ขับรถเก๋งฮอนด้าซิตี้สีบรอนซ์เทา พา น.ส.ตั๊ก ภรรยามาเปิดห้องพัก แล้วมีการเปลี่ยนรถคันใหม่มาจอดที่รีสอร์ท เป็นซูซูกิสวิฟท์ ทะเบียนกรุงเทพฯ ที่ดาบตำรวจอรรถพรยืมเพื่อนมาตั้งแต่วันที่ 6 เมษายน ก่อนที่ดาบตำรวจจะชิง น.ส.ตั๊ก ทะลุหมอน ทำให้ไม่มีใครได้ยินเสียงปืน จากนั้นได้โทรศัพท์เรียกนายธรรมรัตน์ พี่ชาย ให้มาที่เกิดเหตุ

นายธรรมรัตน์จึงขับรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีบรอนซ์เทา มาเปิดห้องที่รีสอร์ทตอนเที่ยง ของวันที่ 8 เมษายน จากนั้นก็พากันขับรถออกไปยิงถล่มบ้านพ่อตา ยังไม่แน่ชัดว่า ไปแวะรับนายมานพ มือปืน และนายบาสไปในที่เกิดเหตุด้วยตอนไหน

เมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ญาติของ น.ส.ตั๊ก ได้นิมนต์พระสงฆ์ 2 รูป มาทำพิธีเชิญวิญญาณ น.ส.ตั๊ก กลับบ้าน / โดย น.ส.วิไลวรรณ หรือแมว ลูกพี่ลูกน้อง บอกว่า หลังจากเกิดเหตุ 4 ศพ ที่บ้านผู้ใหญ่รงค์แล้ว น.ส.ตั๊ก ได้หายตัวไป ก็ได้แต่ภาวนาให้ น.ส.ตั๊ก รอดชีวิตกลับมาบ้าน ไม่คิดว่าจะมาเกิดเรื่องแบบนี้ ส่วนปมปัญหาตนเองไม่ทราบ ทราบเพียงว่า ทั้งคู่คบหากัน ผู้ใหญ่รงค์ไม่ให้คบหา ล่าสุด ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 8 เดินทางมาตรวจที่เกิดเหตุ และกล่าวกับผู้สื่อข่าวสั้นๆ ว่า สถานการณ์กำลังจะคลี่คลาย ล่าสุดมีรายงานพบรถโตโยต้าวีออส ของนายธรรมรัตน์ที่ขับไปก่อเหตุ ถูกจอดทิ้งไว้ที่รีสอร์ทแห่งหนึ่งในตำบลเขาพัง อำเภอบ้านตาขุน เจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 8 กำลังเข้าตรวจสอบและเก็บลายนิ้วมือแฝง

ส่วนปมสังหาร ยังให้น้ำหนักเรื่องความขัดแย้งระหว่างพ่อตากับลูกเขย แต่ยังไม่ทิ้งปมเรื่องที่ดิน ที่ผู้ใหญ่รงค์มีความขัดแย้งอย่างรุนแรงกับบุคคลหนึ่ง เรื่องที่ดินบนเขาหินพัด ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอำเภอคีรีรัฐนิคม จนเคยถูกลอบสังหารมาแล้วครั้งหนึ่ง เมื่อคืนวันที่ 31 ธันวาคม 2565 โดยนายมานพ หนึ่งในผู้ก่อเหตุ เป็นมือปืนรับจ้างระดับพระกาฬคนหนึ่ง และเพิ่งออกจากคุกมา

พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่าได้จับกุมตัวพลเรือนที่ก่อเหตุร่วมกันกับดาบตำรวจได้ แล้วช่วงเวลาประมาณ 11.00 น. โดยจับกุมได้ในพื้นที่จังหวัดพังงา และได้พบอาวุธปืน M16 จำนวน 1 กระบอกที่รีสอร์ท

พบว่าทางภรรยาได้เสียชีวิตและลูกชายที่ขับรถไปให้ดาบตำรวจก็ได้เสียชีวิตแล้วเช่นกัน จากการตรวจสอบสภาพศพ และพยานหลักฐานต่างๆ น่าจะฆ่าภรรยาก่อน เพราะดูจากระยะเวลาการเสียชีวิตภรรยาน่าจะเสียชีวิตก่อน จากนั้นไปฆ่าพ่อตาแม่ยาย

ส่วนศพลูกชายที่พบในวัด ประเด็นนี้คำตอบยังไม่ชัดเจน เบื้องต้นถ้าดูจากร่องรอยกระสุนต่างๆ คาดว่าพ่อ คือ ด.ต.อรรถพร เป็นคนฆ่า

สาเหตุปมสังหาร คาดเป็นเรื่องความขัดแย้งพ่อตาลูกเขย และเมื่อถามในวันก่อเหตุผู้ก่อเหตุตั้งใจไปยิงหรือไปพูดคุยกันที่บ้าน พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับคำตอบที่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะมีปากเสียงกันพอสมควร และน่าจะเข้าไปเพื่อจะก่อเหตุยิงเพราะมีการเตรียมอาวุธไปพร้อม