สังคม
รวบคาด่านชายแดน สาวแสบอ้างสนิทดาราสาว ต. หลอกเอฟซีลงทุนหุ้น เสียหายกว่า 40 ล.
โดย panwilai_c
8 เม.ย. 2566
57 views
ตำรวจตามรวบสาววัย 34 ปี อ้างเป็นคนสนิทดาราสาว ต. คาด่านชายแดน หลอกแฟนคลับดารา ลงทุนหุ้นสิงคโปร์ พบเหยื่อไม่ต่ำกว่า 20 ราย เสียหายกว่า 40 ล้านบาท
โดยตำรวจสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล นำกำลังเข้าจับกุมนางสาว พาฬ วัย 34 ปี ผู้ต้องหาตามหมายจับ 4 หมายจับ ในคดีฉ้อโกง และนำข้อมูลเท็จเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ได้ที่ด่านชายแดน อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนคุมตัวมาสอบสวน ที่กองบังคับการสืบสวนสอบสวน
เมื่อช่วงปี 2563-2564 ผู้เสียหายจำนวนมากเข้าแจ้งความตำรวจ สน.หัวหมาก ว่าถูกผู้ต้องหา อ้างเป็นแฟนดาราสาวคนดัง ชื่อย่อ ต.เต่า
แฝงตัวเข้ามาตีสนิทในกลุ่มแฟนคลับของดาราสาว และพยายามบอกว่าเป็นแฟนของดาราสาว โดยการโชว์ภาพถ่ายคู่กัน รวมถึงเปิดเสียงบันทึกการสนทนาระหว่างกันให้ฟัง เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือ ผู้ต้องหาจะหลอกลวงให้ร่วมลงทุนเล่นหุ้นของประเทศสิงคโปร์
โดยหว่านล้อมว่า ตนเองนั้นเล่นหุ้นนี้ให้กับดาราสาว ด้วยเงินทุน 40 ล้านบาท จนสามารถเพิ่มมูลค่าเป็น 100 ล้านบาทได้ พอผู้เสียหายหลงเชื่อนำเงินมาร่วมลงทุน แต่ผู้ต้องหากลับไม่ได้นำเงินไปลงทุน
เบื้องต้นพบว่า มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อไม่ต่ำกว่า 20 ราย ล่าสุด มีหมายจับที่ยังอยู่ในระบบกว่า 4 หมายจับ ต่อมา ชุดทำงานสืบทราบว่า ผู้ต้องหาได้หลบหนีไปกบดานที่เมืองปอยเปต ประเทศกัมพูชา จึงส่งเจ้าหน้าที่ไปพูดคุยกับแม่ของผู้ต้องหา ที่จังหวัดอุดรธานี เพื่อให้ช่วยเกลี้ยกล่อมเข้ามอบตัว โดยแม่ได้โทรศัพท์หาผู้ต้องหา ซึ่งยอมรับว่า หนีไปอยู่ที่กัมพูชา
มีคนไทยให้ความช่วยเหลือ ตำรวจจึงเกลี้ยกล่อมให้กลับบ้านมารับโทษ กระทั่งสามารถจับกุมตัวได้ที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองอรัญประเทศ
พลตำรวจตรีธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผู้บังการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล กล่าวว่า จากการสอบปากคำผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า นำเงินที่ได้ไปเล่นพนัน แต่อ้างว่าจำนวนเงินที่ไป น้อยกว่าที่ผู้เสียหายแจ้งความ ซึ่งตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ และเชื่อว่าน่าจะยังมีผู้เสียหายอีกจำนวนมาก ที่ยังไม่ได้เข้าแจ้งความ
ส่วนความเชื่อมโยงกับดาราสาวนั้น ผู้ต้องหาระบุว่า ตนเองกระทำผิดเพียงผู้เดียว โดยจะขยายผล ตรวจสอบเส้นทางการเงินของผู้ต้องหาเพื่อเชื่อมโยงกับการพนัน ส่วนตัวดาราสาวนั้น ยังไม่พบพยานหลักฐานที่เชื่อมโยงกัน หากพบก็จะต้องเรียกเข้ามาให้ปากคำ โดยดูตามพยานหลักฐานเป็นหลัก