ไฟป่าแม่ฮ่องสอนยังหนัก 313 จุด ฝุ่นพิษพุ่ง-ดอยตุง จ.เชียงราย คุมสถานการณ์ได้แล้ว

เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2566 ศูนย์อำนวยการแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองจังหวัดแม่ฮ่องสอน เปิดเผยข้อมูลจุดไฟป่า ของวันที่ 5 เม.ย.2566 ที่ผ่านมาดาวเทียมตรวจพบจุดไฟป่าในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอน ทั้งหมด จำนวน 313 จุด ขณะที่เช้าวันนี้ ตรวจพบจุดไฟป่าแล้วจำนวน 190 จุด สูงสุดที่ อ.ปาย 75 จุด , อ.เมืองแม่ฮ่องสอน 50 จุด , อ.ขุนยวม 24 จุด , อ.ปางมะผ้า 13 จุด , อ.แม่สะเรียง 13 จุด อ.สบเมย 8 จุด และ อ.แม่ลาน้อย 7 จุด จากสถานการณ์ไฟป่าที่ยังคงหนักอย่างต่อเนื่องส่งผลให้ค่าปริมาณฝุ่นละอองใน อ.ปาย วัดได้ 398 มคก./ลบ.ม. , อ.เมืองแม่ฮ่องสอน วัดได้ 196 มคก./ลบ.ม. และ อ.แม่สะเรียงวัดได้ 132 มคก./ลบ.ม. โดยเฉพาะที่ อ.ปาย ค่าฝุ่นพิษเกินมาตรฐาน ถึง 7 เท่า กระทบต่อสุชภาพประชาชนอย่างหนัก



นายอาคม บุญโนนแต้ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสาละวิน หัวหน้าคณะทำงานชุดที่ 7 เปิดเผยว่า เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าอมเป ร่วมกับเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าจุดสกัดขุนแม่เหลอ ลงพื้นที่ปฏิบัติงานประชาสัมพันธ์เชิงรุก ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ราษฎรบ้านโป่ง หมู่ที่ 2 ต.เสาหิน อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ขอความร่วมมือ ให้งดเว้นการเผาป่า ซึ่งมีผลกระทบต่อทรัพยากรป่าไม้ ดิน น้ำ สิ่งแวดล้อม และสุขภาพของประชาชน หากตรวจพบการกระผิด จะถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย โดยชาวบ้านได้ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี



นายสังคม คัดเชียงแสน นายอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน/ผอ.ศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็กอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้ ชุดปฏิบัติการไฟป่าบ้านแม่สะกึด ช่วยกันดับไฟป่า ที่ลุกไหม้ ด้านหลังปั๊มน้ำมัน และ ชุดปฏิบัติการ ควบคุมไฟป่า บ้านชานเมือง ม. 12 ต.ปางหมู ร่วมกับเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติถ้ำปลาน้ำตกผาเสื่อช่วยกันดับไฟป่าที่ลูกไหม้ บริเวณดอยด้านหลังโรงพยาบาลธัญลักษณ์



นายเอนก ปันทะยม ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้รับรายงานผลการปฏิบัติงาน เพื่อเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาหาไฟป่าหมอกควันและฝุ่นละอองขนาดเล็ก ในพื้นที่อำเภอปาย ดังนี้ ตามที่ได้รับรายงานมาว่าในพื้นที่อำเภอปายมีค่า pm 2.5 จากหมอกควันไฟป่า ซึ่งเกินค่ามาตรฐานอยู่ในขั้นที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ ได้สั่งการให้ปลัดอำเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอปายประสานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่อำเภอปาย และ เจ้าหน้าที่ศูนย์ ปภ.เขต 10 ที่มาประจำการอยู่ในพื้นที่อำเภอปายนำรถบรรทุกน้ำฉีดพ่นละอองน้ำเพื่อลดผลกระทบด้านสุขภาพอนามัยของประชาชนในพื้นที่ และนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอปาย

นอกจากนั้น ทางด้านเครือข่ายควบคุมและป้องกันไฟป่าบ้านสบสา ต.เมืองแปง อ.ปาย ได้เข้าพื้นที่ที่ได้รับแจ้งว่ามีไฟป่าเกิดขึ้น บริเวณเขตติดต่ออำเภอกัลยาณิวัฒนา พบจุดความร้อนเป็นบริเวณกว้าง สาเหตุน่าจะไหม้ลุกลามออกมาจากในป่า จึงเข้าดับและเป่าลมทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลาม



นายกู้ชาติ สง่าศรี หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าแม่สะเรียง สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 สาขาแม่สะเรียง เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่สถานีควบคุมไฟป่าเเม่สะเรียง ออกประชาสัมพันธ์ พร้อมกับประชุมชี้แจง ทำความรู้ความเข้าใจ ขอความร่วมมือในการงดเผาในพื้นที่โล่ง พื้นที่การเกษตร การชิงเผาแบบเชิงวิชาการ ให้กับชาวบ้าน เนื่องจากมีปัญหาเรื่องของหมอกควัน และจุดความร้อนที่ขึ้นในพื้นที่รับผิดชอบ และร่วมหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าวกับทางผู้นำชุมชนและชาวบ้าน หมู่บ้านป่ากล้วย ตำบลแม่สะเรียง อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน

กรณีเกิดไฟป่าโหมลุกไหม้เป็นบริเวณกว้างในเขตพื้นที่ดอยตุง อ.แม่ฟ้าหลวง จ.เชียงราย นั้น นายพุฒิพงศ์ ศิริมาตย์ ผู้ว่าราชการ จ.เชียงราย ในฐานะผู้บัญชาการศูนย์ป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าหมอกควัน จ.เชียงราย (ศบก.) ไฟป่า จ.เชียงราย นายชุติเดช กมนณชุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ (สบอ.) ที่ 15 (เชียงราย) โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ พร้อมหน่วยงานที่ข้องได้ระดมกำลังเข้าดับไฟตลอดทั้งคืนที่ผ่าน โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ เขาดับไฟกว่า 200 นาย และนำรถดับเพลิง 10 คันเข้าดับไฟ

นอกจากนี้ยังมี เจ้าหน้าที่ทหารจากเจ้าหน้าที่ทหารร้อย ม.2 ฉก.ทัพเจ้าตาก กองกำลังผาเมือง ได้จัดเจ้าหน้าที่เข้าร่วมดับไฟที่ลุกลามหนักพื้นที่หมู่บ้านผาบือ-บ้านลาบา ต.แม่ฟ้าหลวง อ.แม่ฟ้าหลวง โดยเจ้าหน้าที่พยายามสกัดไม่ให้ไฟลามช้ามถนนทางขึ้นดอยตุงสายเก่า เพื่อไม่ให้ลามไปยังพื้นที่ชุมชนหมู่บ้านลาบา กระทั่งเวลาประมาณ 04.00 น.จึงสามารถควบคุมเพลิงเอาไว้ได้แล้ว

นายปิยะพงษ์ ศรไชย หัวหน้าสถานีควบคุมไฟป่าดอยตุง กล่าวว่าเจ้าหน้าที่ได้ใช้วิธีแบบธรรมชาติโดยให้มีเผาไหม้ในจุดที่เจ้าหน้าที่เข้าไปไม่ถึงเพื่อลดอันตราย จากนั้นทำแนวกันไฟตามธรรมชาติ เช่น ลำห้วย สวนกาแฟ ฯลฯ เพื่อให้ไฟยุติการลุกลาม รวมทั้งชาวบ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน ก็ได้ช่วยกันทำแนวกันไฟไม่ให้ไฟลามไปสถึงหมู่บ้านด้วย ส่วนจุดที่ะอาจเกิดไฟลามข้ามถนนก็ฉีดพ่นน้ำสกัดเอาไว้ โดยเฉพาะไม่ให้ลามไปยังสถานที่สำคัญ เช่น พระธาตุดอยตุง โรงงานผลิตเมล็ดแมคคาเดเมีย ฯลฯ ทั้งนี้ผู้เฒ่าผู้แก่ในพื้นที่ต่างบอกตรงกันว่าเป็นไฟป่าที่หนักที่สุดในรอบ 20 ปี ส่วนความเสียหายจะได้ตรวจสอบทางอากาศหรือจีพีเอสอีกครั้งเบื้องต้นคาดว่าไม่น้อยกว่า 200 ไร่