ป.ป.ท.ลงตรวจ สนง.ท่องเที่ยวสุพรรณบุรี หลังจนท.ร้องเรียนการทุจริตงบประมาณปรับปรุงอาคาร

ความคืบหน้ากรณีที่เจ้าหน้าที่กลุ่มหนึ่งที่สุพรรณบุรี ร้องเรียนให้ข่าว 3 มิติตรวจสอบการทุจริตงบประมาณปรับปรุงอาคารสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬา จังหวัดสุพรรณบุรี ที่ไม่มีการดำเนินการ ตามสัญญาแต่บังคับให้เจ้าหน้าที่เซ็นรับงานทิพย์


วันนี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ลงพื้นที่ ตรวจสอบโครงการดังกล่าว ที่ใช้งบประมาณไปกว่า 5 แสนบาท ก่อนหน้านี้ข่าว 3 มิติ เคยนำเสนอข้อพิรุธหลายอย่างเกี่ยวกับโครงการนี้ไปแล้ว เช่นรายงานส่งมอบงาน 2 ชุดที่มีรายละเอียดไม่เหมือนกัน ก่อนจะส่งมอบหลังฐานทั้งหมดให้กับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. นำไปสืบสวนต่อจนพบความผิดปกติอีกหลายอย่างที่อาจจะเข้าข่าย "โครงการทิพย์"


จากข้อพิรุธในเอกสารตรวจรับงานโครงการปรับปรุงอาคารสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสุพรรณบุรี ทำให้เจ้าหน้าที่กองอำนวยการต่อต้านการทุจริต สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. วางแผนตรวจสอบ 3 จุดสำคัญ จุดที่แรกคืองานรื้อถอนกระเบื้องหลังคากว่า 5 พันแผ่น ที่ช่างใช้เวลาทำงานเพียง 2 วัน


เจ้าหน้าที่ปีนขึ้นไปตรวจสอบใต้หลังคา พบว่าถูกพ่นทับด้วยพียูโฟมเกือบทั้งหมดแล้ว มองไม่เห็นสภาพของแผ่นกระเบื้อง แต่ช่างโยธาธิการและผังเมืองยืนยันว่าจุดนี้ตรวจสอบได้ เพราะกระเบื้องที่รื้อต้องเก็บไว้หรือขายไปต้องมีเอกสารยืนยัน


จุดที่สองงานรื้อฝ้าหลังคา 198 ตารางเมตร ซึ่งครอบคลุมทั้งตัวอาคาร แม้ด้านล่างจะพิสูจน์ไม่ได้เพราะทาสีทับไปแล้ว แต่ความแตกต่างของแผ่นฝ้าด้านบนจะบอกระยะเวลาที่ถูกใช้งานได้


จุดที่ 3 งานปรับปรุงระบบไฟฟ้า โคมไฟ 24 ชุด ยังตรวจสอบไม่ได้เพราะในรายงานไม่ได้ระบุรายละเอียดชัดเจน


ช่างโยธาธิการและผังเมืองยืนยันว่าการเปลี่ยนหลังคากระเบื้องกว่า 5 พันแผ่น หากจะทำให้เสร็จใน 5 วัน ได้ตามสัญญาจ้าง ต้องใช้เครื่องจักรและคนจำนวนมาก ซึ่งเป็นเรื่องยาก หากเปลี่ยนได้จริงก็สามารถตรวจสอบจากกระเบื้องเก่าได้


ประเด็นนี้เจ้าหน้าที่พัสดุยืนยันกับเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ว่ามีการเปลี่ยนกระเบื้องจริง ส่วนกระเบื้องเก่าให้ผู้รับเหมานำกลับไป โดยไม่ได้ทำบันทึกหลักฐานไว้


การสอบปากคำผู้เกี่ยวข้อง และพยานหลายคนทำให้เจ้าหน้าที่พบพิรุธหลายอย่าง โดยเฉพาะการไม่ปฏิบัติตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ โดยไม่สามารถชี้แจงได้ เช่นเรื่องกระเบื้องเก่าที่เปลี่ยนลงมา หรือการส่งมอบงานไม่ตรงสัญญาจ้างแต่ตรวจรับไปแล้ว


อีกจุดที่เจ้าหน้าที่ ป.ป.ท. ไปตรวจสอบคือบริษัทเอกชนที่เป็นคู่สัญญาโครงการนี้ ผู้บริหารยอมรับว่ามีชื่อไปรับงานปรับปรุงอาคารจริง แต่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เพราะช่างคนหนึ่งนำชื่อและตราประทับของบริษัท รวมทั้งหลักฐานของกรรมการ ไปอ้างรับงานตั้งแต่กลางปี 2565 ตนเองเพิ่งรู้ตัวจากข่าวเมื่อไม่กี่วันก่อน แต่ยังไม่ได้แจ้งความดำเนินคดี


หลังจากนี้ ป.ป.ท. จะตรวจสอบหลักฐานและคำให้การอย่างละเอียดอีกครั้ง ซึ่งหากพบว่ามีการทุจริตเกิดขึ้นตามที่ถูกร้องเรียนจริง จะสรุปสำนวนส่งให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิดทั้งหมด