เลือกตั้งและการเมือง
บทสรุปเวทีเลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ตอน "แม่ทัพอีสาน"
5 เม.ย. 2566
302 views
เวทีเลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ ตอนแม่ทัพอีสาน ที่ช่อง 3 จัดขึ้นเมื่อวานนี้ มีตัวแทนระดับผู้บริหารจาก 6 พรรค เข้าร่วมการดีเบต เจาะยุทธศาสตร์เลือกตั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ท่ามกลางความสนใจของประชาชนในพื้นที่ที่เข้ารับฟังที่บริเวณริมบึงแก่นนคร จังหวัดขอนเเก่น
ประเด็นสำคัญที่ถูกตั้งคำถามบนเวทีเลือกตั้ง 66 เปลี่ยนใหม่หรือไปต่อ "ตอนแม่ทัพอีสาน" คือการแก้ปัญหาปากท้องของพี่น้องชาวอีสาน ผ่านตัวแทนพรรค 6 พรรค คือ พรรคภูมิใจไทย พรรคเพื่อไทย พรรคพลังประชารัฐ พรรคไทยสร้างไทย พรรครวมไทยสร้างชาติ และพรรคก้าวไกล
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นำเสนอนโยบายเกษตรร่ำรวย มาแก้ปัญหาราคาข้าวที่เกษตรกรมักไม่รู้ราคาขายก่อนเริ่มฤดูกาลเพาะปลูก พรรคภูมิใจไทยจึงเสนอให้กำหนดราคาขาย เพื่อเป็นการประกันราคา ป้องกันการขาดทุนให้กับเกษตรกร โดยรัฐจะแบกรับค่าใช้จ่ายกรณีราคาข้าวไม่ถึงตามเกณฑ์ที่ตั้งไว้ ซึ่งวิธีนี้จะต่างจากโครงการประกันข้าวเดิมๆ เนื่องจากทางพรรคยืนยันไว้ว่ามีกรอบแนวทางร่างไว้แล้วเพื่ออุดช่องโหว่นี้
ขณะที่ นายอนุชา นาคาศัย ที่ปรึกษาทีมเศรษฐกิจพรรครวมไทยสร้างชาติ ได้อ้างถึงนโยบายเดิมๆ ที่มักขายฝันด้วยคำหวานให้ชาวไร่ชาวนาหลุดพ้นจากความจนมาในทุกรัฐบาล แต่นโยบายของพรรครวมไทยสร้างชาติในครั้งนี้จะมาเปลี่ยนทุกอย่าง ผ่านนโยบายคนไทยจะรวย ด้วยอาชีพเสริมจาก "โครงการโคล้านครอบครัว โคเงินล้าน" โดยเริ่มจากการให้เกษตรกรเลี้ยงวัวเพศเมีย 2 ตัวที่ตั้งท้อง เมื่อผ่านไป 1 ปี ก็จะมีวัวเพิ่มเป็น 4 ตัว ปีต่อไปก็เป็น 6 ตัว ซึ่งเป็นหลักการโคคณิศาสตร์ ที่จะเพิ่มจำนวนต่อเนื่อง เกิดรายได้อย่างน้อย 300,000 บาทภายใน 3 ปี ทำให้ลูกหลานเกษตรกรไม่ต้องย้ายถิ่นฐานไปทำงานที่อื่น
นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มองว่าทุกปัญหาพรรคเพื่อไทยมีทางออกไว้ทั้งหมด เมื่อเข้าใจในวิถีชีวิตของชาวอีสานที่มักประกอบอาชีพเกษตรกรและรับจ้าง นโยบายของเพื่อไทย จึงพร้อมผลักดันราคาสินค้าการเกษตร และ เพิ่มอัตราค่าแรงให้อยู่ที่ขั้นต่ำ 600 บาททั่วประเทศ จากนั้นก็สร้างเศรษฐกิจใหม่ในภูมิภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในจังหวัดขอนแก่น อุบลราธานี อุดรธานี และบุรีรัมย์ เกิดเป็นแหล่งผลิตและแปรรูปภาคอุตสาหกรรม นำระบบคมนาคม รถไฟความเร็วสูง เข้าสู่จังหวัด
ด้านนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ผู้ช่วยหาเสียงพรรคก้าวไกล ได้แสดงวิสัยทัศน์ว่า การแก้ปัญหาหนี้ในระยะยาว และความยากจนต้องแก้ด้วยการจ้างงานให้ประชาชนเกิดรายได้ ไม่ใช่แค่การลดหนี้ แต่หนี้ก็ยังคงอยู่และตกไปจนถึงรุ่นลูกหลานต่อไป
ภาคอุตสาหกรรมจะเป็นตัวช่วยสร้างงานสร้างรายได้ หากเกิดนิคมอุตสาหกรรมขึ้นจริงตามแผนของพรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกลก็พร้อมที่จะนำนโยบายสร้างงานเข้าไปในพื้นที่ทันที
เมื่อเกิดระบบคมนาคมที่เชื่อมพื้นที่และระบบต่างๆ เข้าด้วยกันก็จะลดต้นทุนการเดินทางให้กับประชาชนในพื้นที่ เช่น ไม่ต้องเสียค่าผ่อนรถ และค่าน้ำมัน เป็นต้น ขณะนี้พรรคก้าวไกลมีนโยบายสร้างรถเมล์ไฟฟ้า ที่เป็นนวัตกรรมของคนไทย ให้เกิดคมนาคมขนส่งให้อีสานเป็นศูนย์กลางสร้างงานสร้างอาชีพได้
นายต่อพงษ์ ไชยสาส์น รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย มองถึงปัญหาเชิงพื้นที่ของภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ประชาชนส่วนใหญ่มีปัญหาหนี้สิน โดยชูนโยบาย"อีสานมั่งคั่ง"ใน 4 ด้าน เริ่มจากการบริหารจัดการน้ำในลุ่มน้ำโขง เลย ชี มูล ให้สามารถกักเก็บน้ำให้ได้สูงที่สุดในช่วงหน้าแล้ง ขยายโอกาสการเพาะปลูกให้ยาวนานได้มากยิ่งขึ้น การคืนที่ดินสปก.ให้กับเกษตรกร สร้างเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม และ ศูนย์กลางของเขตเศรษฐกิจอาเซียน ที่เป็นจุดเด่นของพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
นายวิรัช รัตนเศรษฐ กรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐ เตรียมเสนอการสานต่อนโยบายของพรรคพลังประชารัฐ จากโครงการรถไฟรางเบา ที่หยุดชงักเนื่องจากอยู่ระหว่างการให้เทศบาลนครขอนเเก่น กู้เงินลงทุนมาบริหารจัดการให้โครงการเดินหน้าต่อไป
ขณะเดียวกันก็เกิดโครงการมอเตอร์เวย์เชื่อมจังหวัดนครราชสีมา-จังหวัดขอนแก่น-จังหวัดอุดรธานี-และจังหวัดหนองคาย เชื่อมเส้นทางคมนาคมไว้ด้วยกัน เกิดเส้นทางขนส่งสินค้าและบริการโครงข่ายภาคอีสาน
นอกจากนี้พรรคพลังประชารัฐและก้าวไกล ต่างมีนโยบายเปลี่ยนเอกสารการครอบครองที่ดินสปก. ให้เป็นโฉนดที่ดิน โดยพรรคพลังประชารัฐ ยืนยันจะทำทันทีเมื่อได้เป็นรัฐบาล ขณะที่ ก้าวไกล ระบุว่า ได้ร่างกฎหมายที่จะแก้ปัญหานี้เสร็จเรียบร้อยแล้ว หลังจากที่เมื่อปีที่แล้วได้รับฟังปัญหานี้จากประชาชนในจังหวัดหนองคาย และจะยื่นร่างกฎหมายฉบับนี้เข้าสภาทันทีไม่ว่าจะได้เป็นรัฐบาลหรือฝ่ายค้านก็ตาม
สำหรับเวทีเลือกตั้ง 66 ไปต่อหรือพอแค่นี้ในครั้งต่อไปสามารถติดตามได้ทุกวันอังคารในเวลาเดิม 22.30 น. ทางช่อง 3 กด 33