โจรย่องเงียบลักตัดสายไฟ ถูกช็อตเสียชีวิตในซอกตึก ชาวบ้านหลอนนอนกับศพมาเกือบ 1 สัปดาห์

วันที่ 4 เม.ย. 66 พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสายตรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยจากมูลนิธิสว่างขอนแก่นสามัคคีอุทิศ แพทย์นิติเวช และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐาน นำอุปกรณ์ขุดเจาะและเครื่องตัดถ่าง มาทำการเจาะผนังและแท่นปูน อาคารพาณิชย์ของบริษัทแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ริม ถ.หลังเมือง เขตเทศบาลนครขอนแก่น ใกล้กับโรงเรียนขอนแก่นวิทยายน หลังพบศพคนเสียชีวิตติดอยู่ในซอกตึก โดยมีคนมาพบเมื่อวันที่ 3 เม.ย.ที่ผ่านมา

นายกันตนาท วัฒนศรานนท์ เจ้าของร้านน้ำผักปั่น ซึ่งตั้งอยู่ติดกับอาคารดังกล่าว กล่าวว่า ชาวบ้านและคนในชุมชน รวมไปถึงผู้ที่ดูแลตึกได้กลิ่นเหม็นเน่าโชยมา เมื่อช่วงเช้าของเมื่อวานที่ผ่านมา โดยตอนแรกนึกว่าเป็นกลิ่นซากสัตว์ เนื่องจากซอกตึกดังกล่าวนั้นมีสัตว์มาตายเป็นประจำ เพราะเป็นซอกแคบและคนไม่สามารถมุดเข้าไปได้ ผู้ดูแลตึกและคนในชุมชนจึงออกตามหากลิ่นจนพบว่ามีขาคนโผล่ออกมา จึงแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ซึ่งก็พบผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายในจริง โดยยังกำสายไฟไว้แน่น

เจ้าหน้าที่ตำรวจและกู้ภัยพยายามที่จะนำร่างคนเสียชีวิตออกมาจากซอกดังกล่าว โดยทำการตัดไฟอาคารและพื้นที่ใกล้เคียงเพื่อความปลอดภัย แต่ด้วยซอกที่มีขนาดเล็กและแคบ จึงใช้เชือกและเจ้าหน้าที่กู้ภัยที่มีรูปร่างผอมเข้าไป ก็ไม่สามารถนำร่างคนเสียชีวิตออกมาได้ ซึ่งแพทย์ระบุว่าน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 5 วัน และร่างกายเริ่มเน่า

ซึ่งจากการสอบถามเจ้าหน้าที่ล้วนยืนยันว่าไม่น่าจะเป็นการฆาตกรรม คนร้ายน่าจะพยามยามเข้ามาตัดสายไฟและกล่องควบคุมไฟไปขาย แต่ด้วยซอกตึกมีสภาพคับแคบ ผู้ตายอาจจะพยายามลอดแท่นปูนและผนังเข้าไป ก่อนที่จะพลาดท่าในจังหวะที่ใช้มือจับสายไฟแล้วเกิดหลุดในจุดต่อเชื่อมสายไฟ จึงเป็นเหตุให้ไฟฟ้าช็อตเสียชีวิตคาที่

นายกันตนาท กล่าวต่ออีกว่า เมื่อวานที่ผ่านมาจนถึงช่วงเที่ยงวันนี้ เจ้าหน้าที่ไม่สามารถนำศพคนตายออกมาได้ ทำให้ชาวบ้านในชุมชนแห่งนี้ โดยเฉพาะบ้านที่มีตัวอาคารติดกับตึกแห่งนี้ต่างพากันย้ายออก เพราะหลอน นอนกับศพมานานเกือบ 1 สัปดาห์ อีกทั้งด้วยสภาพอากาศที่ร้อนจัดจึงทำให้ศพเริ่มอืดและเน่า ส่งกลิ่นเหม็นคละคลุ้งอย่างมากเมื่อลมพัดผ่าน

ขณะที่ พ.ต.อ.ปรีชา เก่งสาริกิจ ผกก.สภ.เมืองขอนแก่น กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ได้ประสานการทำงานร่วมทุกฝ่าย กระทั่งช่วงบ่ายวันนี้ เจ้าของตึกและฝ่ายกฎหมายจึงยอมให้เจ้าหน้าที่ทำการเจาะผนังเพื่อเปิดช่องให้นำร่างคนเสียชีวิตออกมาจากจุดที่ถูกไฟช็อตเสียชีวิตได้แล้ว ซึ่งจากการตรวจสอบไม่พบเอกสารหลักฐานว่าผู้ตายเป็นใคร แต่จากการตรวจสอบไม่พบร่องรอยการต่อสู้หรือร่องรอยบาดแผล จึงสันนิษฐานว่าผู้ตายน่าจะมุดเข้ามาในซอกข้างตึกและลอดผ่านคานปูนเพื่อพยายามตัดไฟในตู้ควบคุมไฟดังกล่าวเพื่อขโมยสายไฟ หรือก่อเหตุใดๆ

แต่พลาดถูกกระแสไฟฟ้าช็อตจนเสียชีวิตคาที่และติดอยู่ภายในซอกตึก โดยไม่มีใครพบจนกระทั่งชาวบ้านได้กลิ่นเหม็นและแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจดังกล่าว อย่างไรก็ตามหลังนำร่างผู้ตายออกมาได้แล้ว จะส่งศพไปผ่าพิสูจน์ที่สถาบันนิติเวชเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิต และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดว่าผู้ตายเข้ามาในจุดเกิดเหตุได้อย่างไร