สังคม

โรงเรียนญี่ปุ่นปิดตัวหลัง นร. สองคนสุดท้ายสำเร็จการศึกษา

โดย onjira_n

4 เม.ย. 2566

2.8K views

บนภูเขาห่างไกลลูกหนึ่งในจังหวัดฟุกุชิมะของญี่ปุ่น มีชุมชนเล็ก ๆ ตั้งอยู่ชื่อว่า เท็น-เอ (Ten-ei) ซึ่งภายในชุมชนแห่งหนึ่ง มีโรงเรียนมัธยมต้นที่มีอายุเก่าแก่ถึง 76 ปีตั้งอยู่ ชื่อว่าโรงเรียนยูโมโตะ (Yumoto)



ปัจจุบัน โรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียนหลงเหลืออยู่เพียงแค่ 2 คนเท่านั้น คือ อาโออิ โฮชิ และ เอตะ ซาโต้ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้น อายุ 15 ปี จากเดิมที่เคยมีอยู่หลายร้อยคนแต่ลดลงเรื่อย ๆ ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา



อย่างไรก็ดี โรงเรียนแห่งนี้กำลังจะปิดตัวลงหลังจากนักเรียน 2 คนนี้ได้สำเร็จการศึกษาอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 31 มีนาคมที่ผ่านมา



โฮชิ ให้สัมภาษณ์ว่าเขารู้สึกเศร้าใจมากหลังจากได้ยินมาว่าโรงเรียนกำลังจะปิดตัวลง และเขาคิดว่าการปิดโรงเรียนที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานแบบนี้เป็นสิ่งที่เปล่าประโยชน์



ในวันจบการศึกษา โอชิและซาโตะ ยังคงถ่ายรูปและหัวเราะด้วยความสุข แม้ว่าการเรียนจบจะเป็นช่วงเวลาที่น่ายินดี แต่การปิดตัวของโรงเรียนยูโมโตะก็ทำให้หมู่บ้าน รวมถึงนักเรียนตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่มั่นคง

ข้อมูลจากรัฐบาลญี่ปุ่นระบุว่า ในทุก ๆ ปี จะมีโรงเรียนประมาณ 450 แห่งทั่วประเทศต้องปิดกิจการไป และในช่วงระหว่างปี 2545 – 2563 ที่ผ่านมา พบว่าในญี่ปุ่นมีสถานศึกษาที่ปิดตัวลงอย่างถาวรแล้วเกือบ 9,000 แห่ง ซึ่งสาเหตุเกิดจากอัตราการเกิดในญี่ปุ่นที่ลดต่ำลงกว่าที่คาดการณ์เอาไว้



ตัวอย่างเช่นที่หมู่บ้านเท็นเอแห่งนี้ ปัจจุบันมีประชากรอาศัยอยู่ 5000 คน และเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่ประสบปัญหาจำนวนประชากรลดลงอย่างหนัก รวมถึง อัตราการเกิดที่ลดลงและประชากรที่เป็นผู้สูงอายุมีจำนวนเพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบัน หมู่บ้านเท็นเ มีประชากรที่อายุต่ำกว่า 18 ปี เพียงแค่ 10% เท่านั้น หรือประมาณ 500 คน



ในช่วงทศวรรษที่ 1950 หมู่บ้านแห่งนี้มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 10,000 คน ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและการผลิต แต่เนื่องจากความไม่สะดวกสบายและความห่างไกลทำให้ผู้คนย้ายออกไปอาศัยอยู่ที่อื่นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่เกิดแผ่นดินไหวและภัยพิบัติทางนิวเคลียร์เมื่อปี 2544 หมู่บ้านแห่งนี้ถือเป็นหนึ่งจุดที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากสารกัมมันตภาพรังสีที่รั่วไหลออกมา



แม้ปัญหาเรื่องอัตราการเกิดที่ลดลงจะเป็นปัญหาในระดับภูมิภาค ที่ส่งผลกระทบในหลายประเทศ เช่น จีน และเกาหลีใต้ แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในญี่ปุ่นจะดูวิกฤตมากเป็นพิเศษ



โดยเมื่อปีที่ผ่านมา ญี่ปุ่นมีจำนวนเด็กเกิดใหม่ลดลงต่ำกว่า 800,000 คน ซึ่งต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ และยังเร็วกว่าที่คาดการณ์เอาไว้ถึง 8 ปี






คุณอาจสนใจ