เปิดภาพวงจรปิดคนร้ายยิง นศ.เทคโนฯ ย่านปทุมวันดับ ตร.คาดเป็นการแก้แค้น

จากเหตุ 2 คนร้ายตามจยย.ประกบยิงนักศึกษาชั้นปี 1 สถาบันเทคโนโลยีฯ ย่านปทุมวัน วัย 23 ปีและตามมายิงซ้ำ 6 นัดจนเสียชีวิต บนถนนจรัญสนิทวงศ์ขาเข้าเมือง ท้องที่ สน.บางกอกน้อย เมื่อคืนที่ผ่านมา



ทีมข่าวช่อง 3 ได้ภาพวงจรปิดจากบ้านเรือนของชาวบ้านก่อนถึงจุดเกิดเหตุประมาณ 200 เมตร โดยคลิปแรกซึ่งเป็นภาพสี จะเห็นว่าช่วงเวลา 22:19:31 จะเห็นรถจยย.นูโวของผู้ตายขับผ่านไป ก่อนที่ในเวลา 22:19:48 จะเห็นจยย. n max ของผู้ก่อเหตุซ้อน 2 คน ขี่ผ่านไปอย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับคลิปภาพขาวดำ จะรถของผู้ตายขี่ผ่านมาในเวลา 22:19:31 ก่อนที่จะเห็นจยย.ของผู้ก่อเหตุที่ซ้อน 2 คันขี่ผ่านไปอย่างรวดเร็วในเวลา 22:19:48




ขณะที่ภาพวงจรปิดจากคอนโดฝั่งตรงข้ามจุดเกิดเหตุ จะเห็นว่า คนร้ายได้ขี่จยย.จอดถึงบนสะพานที่ห่างจุดเกิดเหตุประมาณ 50 เมตร ก่อนจะวกกลับมาขี่ย้อนศรเพื่อประกบยิงผู้ตายซ้ำ ซึ่งจากคลิปจะเห็นว่า ชาวบ้านในพื้นที่ฝั่งตรงข้ามต่างวิ่งตกใจกับเสียงปืนที่ดังขึ้น





ขณะที่มีรายงานจากกองกำกับการสืบสวนสอบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 7(สืบ7)​พบว่าพฤติกรรมของคนร้ายขับขี่รถจักรยานยนต์ใช้อาวุธปืนยิง นศ.เทคโนโลยีฯ ย่านปทุมวัน เสียชีวิตอย่างโหดเหี้ยม ย่านบางกอกน้อย เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา การตรวจสอบพบว่าคนร้ายมีพฤติกรรมเหี้ยมโหด โดยเฉพาะการขับรถจยย.ย้อนกลับมายิงซ้ำรวม 6 นัด เชื่อว่าต้องการแก้แค้นเอาคืนระหว่างสถาบันและต้องการ ประกาศศักดาให้ฝ่ายผู้ตรงข้ามเกรงกลัว เนื่องจาก ตำรวจพบว่าช่วงวันที่ 18 มีนาคม 2566 กลางดึก มีเหตุคนร้ายขับขี่ รถ จยย.กระหน่ำยิง นศ. บริเวณป้าย รถโดยสารประจำทางหน้าเภสัชจุฬา ก่อนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน ส่วนคนร้ายขับรถหลบหนีไป ต่อมาตำรวจสามารถขอศาลอนุมัติหมายจับผู้ร่วมก่อเหตุ 3 ราย แต่จับได้ 2 ราย ข้อหา ให้การสนับสนุนในการกระทำความผิด เนื่องจากคนก่อเหตุได้ร่วมกันวางแผนส่วนอีกคนยังหลบหนี






ต่อมาในช่วงเดือนปลายเดือน เกิดเหตุยิงกันในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ แต่เป็นการยิงผิดตัว ดังนั้นการก่อเหตุยิงที่บางงกอกน้อย น่าเชื่อว่าเป็นแก้แค้นเอาคืนของคู่อริต่างสถาบัน เป็นไปตามแนวทางการสืบสวน แต่การสอบสวนยังไม่พบความเชื่อมโยงตำรวจจะต้องรวบรวมหลักฐานคดีที่เกิดขึ้นในอดีตตั้งแต่ปี 2565 ที่มีเหตุยิง นศ.บริเวณแยกกำนันแม้น ครั้งนั้นคนร้ายยิงผู้เสียชีวิตแล้วยังวนกลับมายิงซ้ำอีกรวม 8 นัด คล้ายกับเหตุที่บางกอกน้อย





ซึ่งแต่ละคดี คนร้ายที่ก่อเหตุจะมีความเชี่ยวชาญการใช้อาวุธและเรียนรู้การทำงานของตำรวจเป็นอย่างดี โดยเฉพาะวิธีการทำงานสืบสวนสอบสวนของตำรวจ ที่จะต้องต้องไปเบิกความอย่างละเอียดตามกระบวนการยุติธรรม กลุ่มคนร้ายก็จะทราบแนวทางการทำงานของตำรวจได้จึงถือว่าเป็นจุดอ่อน ในชั้นศาลจึงมีคำสั่งไม่ให้คนที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทางคดีเข้าไปนั่งฟังการพิจารณาไต่สวน เพื่อป้องกันไม่ให้คนร้ายรู้วิธีการต่างๆ เหล่านี้