ไฟป่าดอยสุเทพเริ่มคลี่คลาย แต่เช้านี้อำเภอโซนเหนือฮอตสปอตพุ่งสูง-ค่าฝุ่นยังพุ่งสูง

สถานการณ์ไฟป่า ของอุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย คืนที่ผ่านมาพบลุกไหม้หลายจุดยังต้องเร่งดับไฟจนหลายจุดคลี่คลายลงแล้ว ขณะที่เช้านี้จุดฮอตสปอตของเชียงใหม่ยังพุ่งสูง 308 จุด โดยเฉพาะอำเอทางตอนบนของเชียงใหม่ ทั้งเชียงดาว ฝาง แม่อาย พร้าว และแม่แตง

ไฟป่าในพื้นที่ หมู่ที่ 2 ต.บ้างปง อ.หางดง จ.เชียงใหม่ ในช่วงค่ำวานนี้ ทางเจ้าหน้าที่และผู้นำชุมชนก็ต้องเร่งเข้าทำแนวกันไฟ และช่วยกันดับไฟป่า หวั่นที่จะลุกลามเข้าใกล้พื้นที่อยู่อาศัย และโรงแรม และต้องเฝ้าระวังกันต่อเนื่องทั้งคืน จนเมื่อเวลา 19:40 น.ภาพจากทีมโดรนอาสา ยังพบแนวไฟลุกไหม้เป็นแนวยาว โดยจุดที่เกิดไฟอยู่ห่างจากถนนดอยกอม-แม่เหียะใน ราว 200 เมตร ในเขตพื้นที่หมู่ที่ 2 ตำบลบ้านปง อำเภอหางดงจังหวัดเชียงใหม่ ภาคพื้น มีผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 และอาสาดับไฟ รวม 3 คน นำเครื่องเป่าลมเร่งทำแนวกันไฟไม่ให้ลุกลามขยายวงกว้าง และเฝ้าระวัง โดยห่วงว่าไฟอาจข้ามแนวที่กันไว้ และสามารถดับไฟได้ในช่วงเวลาประมาณ 23 นาฬิกา

สถานการณ์ไฟป่าของพื้นที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย มีแนวโน้มดีขึ้น หลายจุดสามารถควบคุมสถานการณ์ไว้ได้แล้ว เช้านี้นายกริชสยาม คงสตรี ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 16 รายงานสถานการณ์ไฟป่าล่าสุดในพื้นที่อุทยาแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุยว่า จุดหลักเขตรอยต่อของตำบลบ้านปง อ.หางดง กับตำบลแม่เหียะ อ.เมือง คืนที่ผ่านมาพบ 13 จุดจนถึงเช้านี้สามารถเข้าดับไฟแล้วเหลือเพียง 2 จุดที่ต้องเฝ้าระวังเป้นพิเศษคือ ที่ บริเวณน้ำตาดหมาไห้ ผาฆ้อง-ผากลอง บ้านแม่สาใหม่ ต.โป่งแยง อ.แม่ริม และดอยผาเจดีย์ ต.บ้างปง อำเภอหางดง ซึ่งยังต้องเฝ้าระวังใกล้ชิดเนื่องจากเป็นจุดที่อยู่ด้านหลังดอยปุย หากเกิดไฟป่าจุดนี้จะสามารถลุกลามขึ้นไปถึงยอดดอยปุยได้ จึงต้องวางกำลังเข้มข้นดูแลจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย

ส่วนภาพรวมพื้นที่ที่ยังมีไฟป่าหนักที่สุดของเชียงใหม่คือ อุทยานแห่งชาติศรีลานนา ยังพบไฟป่า กลุ่มใหญ่ 9 จุด ด้วยกันแต่ตอนนี้ได้แบ่งกำลังเจ้าหน้าที่เข้าควบคุม ไว้ทุกจุดแล้ว รองลงมาอุทยานแห่งชาติผาแดง อุทยานแห่งชาติแม่ตะไคร้ อุทยานแห่งชาติดอยเวียงผาง สอดคล้องกับข้อมูลจากดาวเทียมจีสด้าเช้านี้รายงานจุดความร้อน หรือจุดฮอตสปอตจากไฟป่าในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ยังคงพุ่งสูง อยู่ที่ 308 จุดด้วยกัน และพบว่าทางตอนบนของจังหวัดเชียงใหม่มีไฟป่ามากที่สุด โดยพบว่าที่อำเภอเชียงดาว 52 จุด/ฝาง 46 จุด/แม่แตง 43 จุด/พร้าว 38 จุด และ แม่อาย 28 จุดด้วยกัน

โดยภาพรวมแล้วสถานากรณ์ดีขึ้นตามลำดับ ยังไม่พบจุดที่มีไฟป่าวิกฤติ และในวันนี้เสือไฟจากจังหวัดสกลนคร และจังหวัดอุบลราชธานีจะมาเสริมอีก 30 นาย เบื้องต้นจะให้มาช่วยในพื้นที่อุทยานแห่ชาติดอยสุเทพ-ปุยก่อน

ส่วนสภาพท้องฟ้าในตัวเมืองเชียงใหม่ ยังเต็มไปด้วยหมอกควันจากไฟป่าปกคลุม ทัศนวิสัยการมองเห็นไม่ชัดเจน มองด้วยสายตาเห็นฝุ่นควันลอยในอากาศ จนขมุกขมัว ช่วงเช้าวันนี้รถยนต์ยังต้องเปิดไฟ ทำให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ ต้องเปิดม่านน้ำที่ติดตั้งไว้ทั่วเมือง 6 จุด ช่วยบรรเทาในเรื่องของการหายใจ ประชาชนส่วนใหญ่ต้องปิดประตูหน้าต่างและประตูบ้านทั้งหมด ป้องกันฝุ่นละออง และอยู่ในบ้านก็ยังต้องสวมใส่หน้ากากอนามัย หากบ้านไหนไม่มีเครื่องฟอกอากาศจะแย่หน่อย แม้แต่ในบ้านฝุ่น PM2.5 สูงเกิน 100 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร

สาเหตุยังคงมีการลักลอบจุดไฟป่า รอบเช้าวันนี้เชียงใหม่ ยังพบจุดความร้อนมากถึง 308 จุด กระจายใน 21 อำเภอ จากทั้งหมด 25 อำเภอ พื้นที่ป่าสงวนและป่าอนุรักษ์ อำเภอเชียงดาวมากที่สุด 52 จุด อำเภอฝาง 46 จุด อำเภอแม่แตง 43 จุด อำเภอพร้าว 38 จุด อำเภอหางดง ลดลงหลือ 12 จุด และอำเภอเมืองเชียงใหม่ยังเหลืออีก 1 จุด ส่งผลให้ตัวเมืองเชียงใหม่ ฝุ่นขนาดเล็กต่ำกว่า2.5 ไมครอน ยังลอยฟุ้งกระจายเต็มเมือง โดยพื้นที่ตำบลช้างเผือก ตำบลศรีภูมิ และตำบลสุเทพอยู่ ระหว่าง 207 – 216 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร สูงสุดในรอบปี และค่าPM2.5 สูงสุดเช้าวันนี้ อยู่ที่ตำบลเมืองนะ อำเภอเชียงดาว สูงถึง 328 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ย 24 ชั่วโมง

ส่วน PM2.5 แบบรายชั่วโมง ของศูนย์ข้อมูลเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ อยู่ที่บ้านปางเฟือง ตำบลปิงโค้ง อำเภอเชียงดาว สูงถึง 714 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร หรือสูงถึง 14 เท่า ขณะที่วันนี้เว๊ปไซด์ ไอคิวแอร์ ยังจัดอันดับให้เชียงใหม่มีคุณภาพอากาศแย่เป็นอันดับ 1 ของโลกต่อไปอีก