สังคม

หมอมุกพอใจคำพิพากษาศาลทหารกรุงเทพ เผยอยากกลับไปเป็นหมอ

โดย onjira_n

29 มี.ค. 2566

1.3K views

จากกรณี พันตรีแพทย์หญิง หทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก ถูก พักเอก ศักดิ์สิทธิ์ ภู่กลั่น ขับรถชนบริเวณย่านสามเสน อาการสาหัสและเข้ารักษาอาการจนหาย แต่สภาพร่างกายไม่สามารถกลับมาประกอบวิชาชีพได้ ต่อมา ทางครอบครัวของ หมอมุก ได้เข้าร้องขอความช่วยเหลือจากทาง สภาทนายความ ในเรื่องคดีอาญาและคดีแพ่ง โดยคดีอาญามอบให้ นายภานุวัฒน์ พิณทอง ทนายความอาสาเป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการ สอนคดีแพ่งมอบหมายให้ นายสุรชัย เดชอัศวนงค์ ทนายความอาสา ผู้รับผิดชอบดำเนินการให้ความช่วยเหลือ



โดย นายสุรชัย เดชอัศวนง ทนายความอาสาสภาทนายความ เผยว่า หมอมุก เข้าเป็นโจทก์ร่วมกับพนักงานอัยการศาลทหารกรุงเทพ ในคดีหมายเลขดำที่ 379/2554 คดีหมายเลขแดงที่ 230/2560 ของศาลทหารกรุงเทพ ระหว่างอัยการศาลทหารกรุงเทพ โจทก์ พันเอก ศักดิ์สิทธิ์ จำเลย ความผิดต่อชีวิต ซึ่งทาง ศาลทหารกรุงเทพ มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 ว่า จำเลยมีความผิดฐานทำร้ายร่างกายจนเป็นเหตุทำให้โจทก์ ร่วมรับอันตรายสาหัส ลดโทษที่ข้อนำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา รับเป็นเหตุบรรเทาโทษให้ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 78 ลง 1 ใน 4 คงให้จำคุก พันเอก ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ชัชภณ หรือ วีระวุฒิ์ หรือ ภู่กฤติวัฒน์ จำเลยไว้มีกำหนด 3 ปี 9 เดือน



ต่อมา ศาลทหารกรุงเทพ ได้นัดฟังคำพิพากษาศาลทหารกลางใหม่ ในวันที่ 7 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา โดยศาลทหารกลางพิพากษาแก้เป็นว่า จำเลยมีความผิดฐานพยายามฆ่าผู้อื่นตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 288,80 ให้ลงโทษจำคุก 10 ปี นำสืบของจำเลยเป็นประโยชน์แก่การพิจารณาอยู่บ้านในการลดโทษ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 78 ลง 1 ใน 4 คงให้จำคุก พันเอก ศักดิ์สิทธิ์ หรือ ชัชภณ หรือ วีระวุฒิ์ หรือ ภู่กฤติวัฒน์ จำเลยไว้มีกำหนด 7 ปี 6 เดือน นอกจากที่แก้คงให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลทหารกรุงเทพ



ส่วนในเรื่องคดีแพ่ง เมื่อวันที่ 4 กรกฎาคม 2560 ทางทนายได้มีการยื่นฟ้องต่อศาลแพ่งคดีหมายเลขดำที่ พ.3125/2560 เรียกค่าเสียหายกับ พันเอกวีระวุฒิ์ ภู่กฤติวัฒน์ เป็นจำนวนเงิน 50,260,000 ล้านบาท เส้นทางคู่กรณีได้ขอเลื่อนนัดพร้อมฟังผลคดีอาญาในวันที่ 15 มิถุนายน 2566 ซึ่งที่ผ่านมาทางคู่กรณีไม่เคยมีการเข้ามาพบกับทางผู้เสียหายเพื่อขอโทษกับเรื่องที่เกิดขึ้น และยังไม่มีการชดใช้ค่าเสียหายแม้แต่สักบาทเดียว



ขณะที่ พันโทหญิง แพทย์หญิง รศาดา อิ่มวิทยา แม่ของหมอมุก กล่าวว่า คดีนี้ ในส่วนของคดีอาญา ศาลทหารใช้เวลาพิจารณาถึง 12 ปี ก็หวังว่า คดีแพ่ง ศาลพลเรือน จะเมตตาใช้เวลาพิจารณาไม่ยาวนานนัก ที่ผ่านมาผู้ก่อเหตุไม่เคยมาขอโทษ หรือ พูดคุยใดๆกับครอบครัว แต่ตนในฐานะผู้เป็นแม่ก็ได้พยายามกู้ลูกของตัวเองคืนมา ทำการฟื้นฟูร่างกายจนได้ลูกกลับมาได้เท่านี้ก็ดีใจมากแล้ว เรื่องคดีก็ขอให้เป็นเรื่องของกรรม ซึ่งต้องขอบคุณทนายอาสาของสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ ทุกภาคส่วนที่มีส่วนช่วยเหลือ และขอบคุณกำลังใจจากทุกคนที่ส่งให้ครอบครัวหมอมุก



ด้าน พันตรีหญิง แพทย์หญิงหทัยพร อิ่มวิทยา หรือ หมอมุก เปิดใจว่า สู้มา 12 ปี แล้ว ถึงตอนนี้ก็ต้องสู้ต่อไป



ผู้สื่อข่าว ถามด้วยว่าหมอมุกยังอยากกลับมาเป็นหมอหรือไม่ หมอมุก กล่าวว่า ตนเองอยากกลับไปเป็นหมอ แต่ต้องรักษาตนเองและดูแลตนเองให้หายดีก่อน.

คุณอาจสนใจ