จนท.ทำห้องจัดเก็บฝุ่นซีเซียม อย่างเป็นระบบแล้ว มีประตูเปิด-ปิดแน่นหนา ติดเครื่องวัดรังสี ตรวจสอบตลอด 24 ชม.

ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 แจง กรณีเด็กนักเรียนชั้นประถม โรงเรียนบ้านโคกกระท้อน ใกล้โรงหลอมเหล็ก อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีอาการป่วย 30 คน ไม่เกี่ยวกับกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ส่วนใหญ่มีไข้ ไอ เจ็บคอ ซึ่งเป็นอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ เบื้องต้นไม่พบเชื้อโควิด 19 ผลตรวจเลือดเป็นปกติให้เจ้าหน้าที่จากสำนักงานป้องกันควบคุมโรคเข้าสอบสวนโรคเพื่อหาสาเหตุแล้ว



นายแพทย์สุเทพ เพชรมาก ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 6 กล่าวถึงความคืบหน้าการเฝ้าระวังและดูแลสุขภาพผู้ที่มีความเสี่ยงสัมผัสกัมมันตรังสีซีเซียม-137 ว่า ได้รับรายงานจาก นายแพทย์สุรินทร์ สืบซึ้ง นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ศูนย์ปฏิบัติการฉุกเฉินด้านการแพทย์และสาธารณสุข จังหวัดปราจีนบุรี ถึงผลการดำเนินการกรณีเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านโคกกระท้อน หมู่ 10 ตำบลลาดตะเคียน อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งเป็นโรงเรียนระดับประถมศึกษา ตั้งอยู่ห่างจาก



โรงหลอมเหล็ก ประมาณ 3 กิโลเมตร ทยอยมีอาการป่วยตั้งแต่วันที่ 21-24 มีนาคม 2566 รวม 30 คน ว่า ได้ให้ทีมแพทย์ พยาบาล โรงพยาบาลกบินทร์บุรี และประสานงานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดปราจีนบุรี จัดทีมเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจากโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลในพื้นที่ เข้าร่วมประเมินอาการและให้การรักษา โดยผลการตรวจเด็กนักเรียนทั้ง 30 คน ไม่พบการติดเชื้อโควิด 19 ในจำนวนนี้ มีอาการของโรคระบบทางเดินหายใจ 23 คน



ส่วนใหญ่มีไข้ ไอ เจ็บคอ และมีน้ำมูก บางรายมีผื่นแดง ตาแดง ที่เหลืออีก 7 คน ไม่มีอาการใดๆ จึงได้ให้ยารักษาตามอาการ และเจาะเลือดเพื่อตรวจโลหิต จำนวน 13 คน พบว่า ผลเลือดปกติ “กรณีดังกล่าวไม่ได้เกี่ยวข้องกับการได้รับผลกระทบจากซีเซียม-137 แต่อย่างใด คาดว่ามาจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อทางเดินหายใจ ซึ่งสำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ 6 (สคร.) จังหวัดชลบุรี ได้ส่งเจ้าหน้าที่ เข้าดำเนินการสอบสวนโรคเพื่อหาสาเหตุแล้ว



อย่างไรก็ตาม สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดปราจีนบุรี จะเฝ้าระวังสุขภาพและติดตามอาการอย่างใกล้ชิดต่อไป โดยอาการที่พบจากการได้รับรังสี เช่น ผิวหนังเป็นแผล คลื่นไส้ อาเจียน เวียนศีรษะ ท้องเสีย หากประชาชนที่อยู่บริเวณใกล้เคียงโรงหลอมเหล็ก มีข้อสงสัยหรือวิตกกังวล สามารถเข้ารับการปรึกษาได้ที่สถานพยาบาลใกล้บ้าน หรือติดต่อสายด่วน 1422 ของกรมควบคุมโรค” นายแพทย์สุเทพกล่าว



และจากกรณีสารซีเซียมที่หายจากโรงงานแห่งหนึ่ง ถูกนำไปอยู่ที่โรงหลอมในพื้นที่อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งพบว่าซึ่งก่อนหน้านี้พบว่ามีการจัดเก็บถุงฝุ่นอยู่ในถุงบิ๊กแบ็คถูกเก็บอยู่ในห้องเก็บของภายในโรงหลอมโดยลักษณะไม่ได้มาตรฐานและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคม รวมถึงข้อกังวลเกี่ยวกับอาจจะมีสารดังกล่าวกระจายออกมา



ล่าสุดสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติรวมไปถึงเจ้าของโรงงานได้ทำการก่อสร้างห้องเก็บสารเคมีดังกล่าวไว้แล้ว  โดยเป็นห้องเก็บฝุ่นสารซีเซียมลักษณะเป็นโรงเรือนที่มีประตูเหล็ก ปิดแน่นหนา มีป้ายระวังอันตรายจากรังสี และมีเชือกกั้นพื้นอันตราย ส่วน ด้านนอกมีเครื่องวัดรังสีคอยตรวจสอบอยู่ตลอดเวลา  



ทั้งนี้ จากการตรวจสอบตั้งแต่เกิดเหตุ จนถึงวันนี้ ไม่พบว่า มีสารซีเซียมฟุ้งกระจายออกมาภายนอก และไม่พบการส่งผลกระทบกับสภาพแวดล้อมและประชาชนที่อาศัยใกล้เคียง



ส่วนการติดตามหาใครเป็นคนนำสารซีเซียมนี้ออกจากโรงงานไฟฟ้า ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวน และยังไม่ยืนยันแน่ชัด ว่า สารซีเซียมที่พบในเตาหลอมแห่งนี้จะเป็นตัวเดียวกับที่หายไปหรือไม่

รับชมผ่านยูทูบ : https://youtu.be/nrjIBwApH54