สังคม

ย้อนรอยคดีตร.ปล้นพลอย 1.3 พันล้าน ศาลสั่งสตช.ชดใช้ 2 ปีแล้ว ยังไม่เห็นเงิน

โดย panwilai_c

24 มี.ค. 2566

409 views

วันนี้ (24 มี.ค. 66) ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ผู้เสียหายในคดีปล้นพลอยมูลค่ากว่า 1,300 ล้านบาท ได้เดินทางไปทวงถามเงินชดใช้ในคดีที่เกิดขึ้นเมื่อปี 2537 และศาลฎีกาในคดีแพ่งตัดสินเมื่อเดือนสิงหาคม ปี 2564 ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ชดใช้ค่าเสียหาย 52 ล้านบาท รวมเงินดอกเบี้ยเป็น 157 ล้านบาท



ด้วยเหตุผลที่ มีตำรวจระดับนายพล และพันตำรวจโท ในยุคนั้น ใช้ตำแหน่งหน้าที่ราชการ ร่วมกับจำเลยอีก 2-3 คนสร้างสถานการณ์ บุกยึดพลอย โดยอ้างว่า เป็นพลอยที่ถูกขโมยมา ต่อมาผู้เสียหาย แจ้งตำรวจอีกพื้นที่หนึ่งไปตรวจสอบ กลับพบว่า ของกลางได้หายไป การต่อสู้คดีผ่านมาเกือบ 30 ปี จนฝ่ายผู้เสียหาย เป็นฝ่ายชนะคดีทั้งคดีอาญา และคดีแพ่ง ขณะที่ผู้ต้องหาทุกคนทั้งนายพลตำรวจ และพลเรือนต่างหนีคดีที่ศาลสั่งจำคุก



นายนที คุ้มพันธุ์ ลูกชายผู้เสียหายในคดีพลอยมูลค่า 1,300 ล้านบาท ซึ่งได้รับมอบอำนาจให้ติดตามทวงถามสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากศาลสั่งให้ชดใช้ให้กับโจทก์ในคดีนี้ 3 คน จำนวน 52 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยเป็น 157 ล้านบาท คดีสิ้นสุดตั้งแต่เดือนสิงหาคม 2564



ขณะที่คำชี้แจงสุดท้ายทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระบุได้รับการจัดสรรงบประมาณแล้ว และจะนำเงินไปชำระโดยเร็วที่สุด แต่ก็ผ่านมานานกว่า 1 ปี 7 เดือนแล้ว ทั้งที่คำสั่งศาลระบุให้ชำระภายใน 30 วัน



การเจรจาก่อนหน้านี้ ฝ่ายผู้เสียหายยอมหยุดคิดดอกเบี้ย หากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จ่ายภายในสิ้นเดือนนี้ ไม่เช่นนั้นรัฐต้องจ่ายดอกเบี้ยปีละเกือบ 4 ล้านบาท



การออกมาเรียกร้อง ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ต้องจ่ายเงิน 157 ล้านบาท ตามคำสั่งศาลฎีกาคดีแพ่ง เพราะ ข้อเท็จจริงแห่งคดีเชื่อได้ว่า มีนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ใช้อำนาจในหน้าที่ ออกเอกสารคดี จนนำไปสู่การที่ตำรวจและพวกได้ร่วมกันปล้น พลอยน้ำหนักเกือบ 30 กิโลกรัม มูลค่ากว่า 1300 ล้านบาท ก่อนที่ของกลางจะหายสาบสูญจนถึงวันนี้เกือบ 30 ปี แล้ว ไปติดตามการย้อนรอยคดีนี้ กับคุณอลงกรณ์ เหมือนดาว



ภาพถ่ายนี้ ถ่ายไว้เมื่อราวปี 2536 เวลาผ่านมา 30 ปี นับจากวันที่ผู้ชายในรูปคือนายธันยพัฒน์ ธรรมเทียนชัย หุ้นกับเพื่อน 4 คน ซื้อพลอย 2 ก้อนใหญ่ จากประเทศพม่า ก้อนใหญ่หนัก 15 กิโลกรัม ก้อนเล็ก หนัก 11.5 กิโลกรัม จากประเทศเมียนมา



จากนั้นที่ซื้อพลอยมา จนพลอยถูกตำรวจกลุ่มหนึ่ง ร่วมกับ 1 ในหุ้นส่วนชิงไป เขาพยายามสอบหาว่า พลอยทั้งสองก้อนไปอยู่ที่ไหน แต่ก็ไม่พบเบาะแส 30 ปีที่ผ่านมา จึงทำได้เพียงเก็บภาพถ่ายนี้ไว้ดูต่างหน้า



ชายคนนี้ เลือกที่จะจดจำวันดีๆ คือภาพที่เขาถ่ายที่หน้าตู้นิรภัยธนาคารกรุงไทย สำนักงานใหญ่ วันที่นักธุรกิจชาวอเมริกัน มาดูพลอย เหลือเป็นขั้นตอนการจ่ายเงิน 1,300 ล้านบาท



ชายวัย 73 ปี คนนี้ คือหุ้นส่วนที่ร่วมกันซื้อพลอย2ก้อนใหญ่ เขาหมดตัวจนกลายเป็นบุคคลลิ้มละลาย เพราะนำเงินที่เก็บไว้ทั้งชีวิตไปซื้อพลอยก่อนถูกปล้นไป และคู่กรณีที่ตำรวจ ทำให้เขาอยู่ในอันตราย จนต้องหนีไปอยู่ต่างประเทศเกือบ 30 ปี



คดีนี้ ปี 2555 ศาลฎีกาตัดสินจำคุก ตำรวจยศพันตำรวจโท 18 ปี ซึ่งเสียชีวิตก่อนถูกจองจำ ตำรวจยศนายพล จำคุก 12 ปี ปัจจุบันหลบหนี นายเอก หุ่นส่วนซื้อพลอย ที่ร่วมก่อคดี ถูกจำคุก 12 ปี ปัจจุบันหลบหนี

ส่วนพลอย 2 ก้อน ไม่ปรากฏเบาะแสในวงการค้าพลอยของเมืองไทยอีกเลย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ