เลือกตั้งและการเมือง
'ทนายตั้ม' เปิดศึกถุงเงิน อัด 'ชูวิทย์' รับเงินสีเทา แฉกล่องดวงใจสนิทพนัน-กัญชา-บุหรี่ไฟฟ้า
โดย nattachat_c
24 มี.ค. 2566
31 views
วานนี้ (23 มี.ค. 66) เวลา 10.00 น. ทนายตั้ม3ษิทรา เบี้ยบังเกิด ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีโพสต์ภาพบนเฟซบุ๊ก เป็นรูปปึกเงินในถุงกระดาษ พร้อมระบุข้อความ “แฉไป ไถไป” ซึ่งใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมงครึ่ง
โดยทนายตั้ม เริ่มจั่วหัวด้วยการตั้งคำถามว่า ก่อนหน้านี้ที่นายชูวิทย์ออกมาแฉเรื่องทุนจีน เรื่องเว็บพนันออนไลน์ ทนายตั้มรู้สึกชื่นชม และเห็นด้วยกับการกระทำนั้น แต่มาวันนี้ ทำไมถึงรับเงินบาป และไปอ้างว่าทำบุญบริจาคการกุศล ซึ่งจำนวนเงินที่ทนายตั้มได้ข้อมูลมา นายชูวิทย์ได้เงินบาปมามากกว่า 6 ล้าน ที่นำไปบริจาค
โดยทนายตั้ม เปิดภาพถุงกระดาษที่เป็นถุงที่ใช้ใส่เงินในวันนั้น พร้อมจำลองลักษณะการวางเงินลงไปในถุง คำนวณความกว้าง ความยาว ความสูง เชื่อว่า ใส่เงินมากกว่า 6 ล้านบาทแน่นอน ซึ่งภาพนิ่งที่ทนายตั้มจำลองมายังไม่พอ มีการทำภาพกราฟิกแบบ 3D ด้วย แล้วข้อมูลที่ทนายตั้มได้มา เงินในถุง 2 ใบนั้น คือ 10 ล้านบาท
ทนายตั้ม ฝากคำถามถึงนายชูวิทย์ ว่า ตอนนั้นก่อนที่สารวัตรซัวเป็นข่าว มีข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่เกี่ยวกับเว็บพนันออนไลน์ , ทีมงานสารวัตรซัว , เดินทางมาที่โรงแรมเดวิสของนายชูวิทย์ นำเงิน 2 ถุงนี้มาให้ และมีคนสนิทของนายชูวิทย์ (ตำรวจที่เป็นมือขวา) รวมถึงนายชูวิทย์อยู่ด้วย
ซึ่งข้อมูลที่ทนายตั้มได้มาจำนวนเงินครั้งนั้น 10 ล้านบาท และมีจากเครือข่ายอีกอย่างน้อย 2 ครั้ง ครั้งละ 10 ล้านบาท ไม่รวมกับเงินอีก 50 ล้านบาท ที่เป็นเงินดิจิทัล ซึ่งเครือข่ายนี้มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกลุ่มกับอาบอบนวดลาลิซ่าของเสี่ยกำพล และบ่อนที่เคยเป็นข่าวว่ามีการยิงกัน จริงหรือไม่ อยากฟังคำอธิบายเพิ่มเติมจากนายชูวิทย์
และถามนายชูวิทย์อีกว่า รู้จัก นายแทนไทย (นายเปา) ใช่ไหม เพราะนายชูวิทย์ เคยโพสต์ถึง นายแทนไทย วันที่ 21 ม.ค. 66 ต่อมา 22 ม.ค. 66 วันตรุษจีน ทนายตั้มถามต่ออีกว่า กล่องดวงใจของนายชูวิทย์ได้พาแทนไทยไปหาที่โรงแรมเดวิสจริงหรือไม่ และหลังจากนั้นก็ไม่เคยพูดหรือโพสต์ถึงนายแทนไทยอีกเลย ซึ่งหลังจากนี้จะให้สอบสวนกลางตรวจสอบว่า มีการโอนเงิน บัญชี meta mass ของกล่องดวงใจนายชูวิทย์ ว่ามีการรับโอนเงินสกุลดิจิตอลกว่า 50 ล้านบาทจริงหรือไม่
ด้านชูวิทย์ได้พูดถึงนายแทนไทยว่า ทนายตั้ม นำข้อมูลจากนายเปา (นายจิราวัฒน์ โพธิสุวรรณ) เป็นหลานที่ตนเลี้ยงมาตีนเท่าฝ่าหอย เด็กคนนี้ไม่มีพ่อแม่ มีคนนำมาฝากผม ผมเลี้ยงดูดั่งลูกผม โดยส่งให้ไปเรียนโรงเรียน ภปร. จนจบ กระทั่งผมติดคุก จึงให้นายเปา ไปเก็บเงินค่าเช่าคอนโดฯ ของตน ตนติดคุก 10 เดือนกว่า นายเปาอ้างว่าเก็บเงินไม่ได้ จริงๆ ทุกคนให้หมด นายเปาหมกไว้ เมื่อตนอออกจากคุก จึงต่อว่าให้เอาเงินมาคืน ต่อมานายเปา ขอลาออกไปทำงานกับสารวัตรซัว โดยที่ตนไม่รู้เหตุผลเพราะเรียนโรงเรียนเดียวกัน
“เรื่องนี้ทนายตั้มฟังจากเปา พูดง่าย ๆ เป็นคนเนรคุณผม ประเด็นเรื่องเงินดิจิทัล 50 ล้านบาท ผมไม่เคยได้รับ ถ้า 50 ล้าน มาจากแทนไท ถามว่าผมได้พบมั้ย ผมได้พบโดยมีอดีตนายตำรวจคนหนึ่ง พามาหาที่โรงแรมแห่งนี้ ผมจำได้ว่านายแทนไท บอกว่าไปหาพี่สนธิ ผมเตือนว่าเอ็งคิดจะฟ้องพี่สนธิ คิดผิดแล้ว ถ้าคิดจะฟ้องเขาอย่าฟ้องดีกว่า คุยกันที่โรงแรมเปิดเผย มาเวลากลางวัน”
“ประเด็นเรื่องเงินในถุง 2 ถุง ผมยืนยันถุงละ 3 ล้าน มีนายตำรวจที่ไม่ได้เป็นตำรวจแล้ว 1 คน ชื่อย่อ อ. ยศ พล.ต.ต. ยังรับราชการอยู่ อีกคนชื่อย่อ ป. ยศ พล.ต.ท. เกษียณอายุแล้ว บุคคลนี้ผมรู้จักมานานกว่า 30 ปี ตั้งแต่ทำอาบอบนวด ทั้งสองมาพบผม พร้อมนำเงินมาบอกว่าเงินทั้งหมด 2 ถุง 6 ล้าน ยืนยันต่อหน้าพระผมได้รับ 6 ล้าน ผมบอกพี่ผมไม่เอานะ ผมรับเคลียร์ไม่ได้ เอาเงินกลับไป ไม่ไม่ยอมเอากลับยัดเยียดให้ผม ผมจึงบอกว่าถ้าให้มาอย่างนี้ผมคงต้องเอาไปทำอย่างอื่นแล้ว เอาไว้ไม่ได้ เขาบอกแล้วแต่ชูวิทย์” ซึ่งอ้างว่าเป็นเงินของนายซัว มาให้ตน ให้หยุดแฉ เพื่ออยากจะเปิด‘ลาลิซ่า’
ตนนำไปบริจาคให้กับโรงพยาบาลธรรมศาสตร์ฯ 3 ล้าน เมื่อวันที่ 14 ก.พ.66 /และ โรงพยาบาลศิริราช 3 ล้าน ในวันที่ 15 มี.ค. 66 ที่ไม่นำไปให้ตั้งแต่แรกเพราะนัดหมอแต่หมอไม่ว่าง / ถ้า 50 ล้าน ตนเก็บไว้เองก็ได้ ไม่จำเป็นต้องไปบริจาคก็ได้ หรือถ้าตนได้ 10 ล้าน ทำไมตนต้องเก็บ 4 ล้าน แล้วเอาไปบริจาค 6 ล้าน/ ทำไมตนไม่บริจาค 4 ล้าน เก็บไว้ 6 ล้าน
ตนเก็บไว้บางส่วนหรือไม่ก็บอกมาถ้ามีหลักฐาน เป็นประเด็นที่สังคมต้องตัดสินโรบินฮู้ดอย่างผม ผมปล้นเงินหรือไม่ได้ปล้น ตนไม่มีทางออกจึงจำเป็นต้องนำเงินไปบริจาค “ผมคิดว่าเงินเอามาให้แบบนี้กูซวยแล้ว” ถ้าตนนำเงินไปให้ ปปง. ก็จะเป็นการไปแจ้งว่ามีเงินมาให้ตน แต่คิดว่าการให้ ปปง. ไม่มีประโยชน์ จึงนำไปบริจาค
นอกจากนี้นายชูวิทย์ ระบุว่า “ในสิ่งที่ผมกระทำ ถ้าผมกระทำผิดหรือกระทำนอกเหนือผมยอมรับ ทนายตั้ม ผมเป็นลูกผู้ชายพอ เมื่อคุณพูดทุกๆ อย่าง ถ้าถูกต้องผมยอมรับ แต่ถามว่าใครทำแบบผมบ้าง ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่ผมทำถูกนะ แต่สังคมต้องตัดสินว่าผมเป็นโรบินฮู้ด เป็นนักบุญใจบาป เป็นคนนำเงินบาปไปให้ช่วยเหลือผิดหรือไม่ ผมไม่เคยบอกว่าผมเป็นคนดี ไม่เคยบอกเป็นฮีโร่ ผมสู้ในประเด็นสังคม แต่คุณเอาเรื่องส่วนตัวผมทั้งนั้น เล่นผมไม่ได้ก็เล่นลูกผม”
----------------
รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/1DjqZKJzvmA