สังคม

ฉาว! ตำรวจทะเลาะวิวาทนักเที่ยวในผับ ยิงปืนขู่ ฉุนร้องเพลงเสียงดัง

โดย nutda_t

23 มี.ค. 2566

214 views

กล้องวงจรปิดบันทึกภาพพฤติกรรมของตำรวจ 3 นาย แต่งกายนอกเครื่องแบบ เที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในจ.สมุทรปราการ ก่อนจะมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับนักท่องเที่ยวโต๊ะข้าง ๆ จนเกิดเหตุบานปลาย ทำให้มีตำรวจนายหนึ่ง ชักปืนขึ้นมายิงขู่ภายในร้าน จากนั้นเพื่อนของตำรวจได้เข้ามาห้ามปราบ



ล่าสุดวันนี้ นายทศพร อายุ 43 ปี หนึ่งในกลุ่มคู่กรณี ที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกับกลุ่มของตำรวจในคืนวันเกิดเหตุ ที่ได้เดินทางมาพบพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ตามหมายเรียกในข้อหาทำร้ายร่างกายผู้อื่น



โดยผู้สื่อข่าว ได้สอบถาม นายทศพร ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทราบว่า เหตุเกิดวันที่ 13 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 02.00 น. ตนเองและเพื่อนทั้งชายหญิง รวมประมาณ 8 คน ไปเที่ยวดื่มกินที่ร้านตามประสานักท่องเที่ยวปกติ จนกระทั่งร้านปิด และตนเองขอขึ้นไปร้องเพลงสุดท้าย ระหว่างนั้นปรากฏว่ามีเสียงจากโต๊ะข้างๆ ตะโกนโวยวายด่าทอใส่ ทำให้น้องในกลุ่มที่มาด้วยกัน พยายามเข้าไปเคลียร์กับโต๊ะข้างๆ ซึ่งในตอนนั้นยังไม่มีใครทราบว่ากลุ่มวัยรุ่นโต๊ะดังกล่าวที่มากันประมาณ 4 คน เป็นตำรวจถึง 3 คน ซึ่งมาทราบกันภายหลัง



หลังจากนั้น มีน้องที่รู้จักกันคนหนึ่ง เข้าไปขอโทษขอโพยที่เพื่อนในกลุ่มพูดจาไม่ดี แต่แทนที่เรื่องจะจบ กลับพบว่ามีหนึ่งในกลุ่มตำรวจยังคงโวยวายและด่าทอ ทำให้น้องในกลุ่มตนอีกคนเข้าไปเคลียร์อีกครั้ง แต่กลับถูกอีกฝ่ายให้ของลับใส่ ทำให้น้องที่เข้าไปเคลียร์โมโหตบหน้าชายคนดังกล่าว ก่อนเกิดการชกต่อยจนชุลมุน จากนั้นตนเองได้ยินเสียงยิงปืนดังขึ้นหน้าร้าน จึงหันไปมอง พบว่ามีชายคนหนึ่งที่มาในกลุ่มของคู่กรณีชักปืนขึ้นมายิงขึ้นฟ้า ตนเองจึงเข้าไปถามว่ายิงปืนทำไม และทำไมต้องพกปืนเข้ามา ตนเองและเพื่อนมากันมือเปล่า ทำให้ชายคนที่ยิงปืนถอยหลังออกไป ตนเองจึงหันมาชกต่อยกับอีกคนในกลุ่มคู่กรณี



จนกระทั่งมีรถสายตรวจของ สภ.สำโรงเหนือ มาถึงที่เกิดเหตุ และเชิญชายคนที่ยิงปืนขึ้นรถสายตรวจ โดยไม่มีการล็อกกุญแจมือแต่อย่างใด ซึ่งตอนนั้นตนเองยังโวยวายถามเจ้าหน้าที่สายตรวจว่าทำไมไม่ล็อกกุญแจมือ อีกทั้งสถานที่เกิดเหตุเป็นพื้นที่ของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ไม่ใช่ของ สภ.สำโรงเหนือ ระหว่างนั้นไม่นาน มีสายตรวจของ สภ.เมืองสมุทรปราการ เข้ามาระงับเหตุ จนกระทั่งต่างฝ่ายต่างแยกย้าย



ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้น ตนเองคิดว่าจะจบลงในคืนนั้น เพราะตนเองไม่ได้แจ้งความแต่อย่างใด จนมาทราบจากพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองสมุทรปราการ ว่ากลุ่มคู่กรณีมีการแจ้งความ จึงเดินทางมารับทราบข้อกล่าวหา และแจ้งความกลับกลุ่มคู่กรณีเช่นกัน และมาทราบภายหลังว่า กลุ่มคู่กรณีเป็นตำรวจของ สภ.สำโรงเหนือ 2 นาย และตำรวจของกองกำกับการสืบจังหวัดอีก 1 นาย ซึ่งพอทราบว่าคู่กรณีเป็นตำรวจ และมีการใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม ตนจึงร้องต่อสื่อมวลช



พ.ต.อ.นพดล ช่างเรือง ผกก.สภ.เมือง สมุทรปราการ เปิดเผยเรื่องราวดังกล่าวและความคืบหน้าทางคดี โดยกล่าวว่า สำหรับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุไม่นานทางสายตรวจได้เข้าระงับเหตุจนแยกย้ายกันกลับ จากนั้นในวันต่อมา พบว่ามีกลุ่มของตำรวจสังกัด สภ.สำโรงเหนือ เดินทางมาพบพนักงานสอบสวน เพื่อแจ้งความเอาผิดกลุ่มคู่กรณีในข้อหาทำร้ายร่างกาย หลังจากที่มีการแจ้งความ พนักงานสอบสวนได้ลงบันทึกประจำวันและสอบสวนจนทราบตัวของกลุ่มคู่กรณี จึงมีการออกหมายเรียกอีกฝ่ายมาพบ ซึ่งอีกฝ่ายก็ประสงค์แจ้งความกลับเช่นกัน และกล่าวอ้างว่าฝ่ายของกลุ่มตำรวจมีการใช้ปืนยิงข่มขู่



ตนเองจึงสั่งการให้พนักงานสอบสวนไปรวบรวมพยานหลักฐาน ทั้งภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานแวดล้อมจนพบว่าภาพจากล้องวงจรปิด จับภาพได้ชัดเจนว่ามีตำรวจหนึ่งในกลุ่มใช้อาวุธปืนยิงขึ้นฟ้าข่มขู่จริง ผู้ที่ใช้ปืนยิงคือ ส.ต.อ.ศุภกร จันทร์ขจร อายุ 27 ปี สังกัด สภ.สำโรง ส่วนตำรวจที่ถูกชกต่อยกับคู่กรณี คือ ส.ต.อ.จตุพงษ์ เสร็จกิจ อายุ 32 ปี สังกัด สภ.สำโรงเหนือ พนักงานสอบสวนจึงพิจารณาแจ้งข้อหาร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น และพกพาอาวุธปืนไปในทางเมืองสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร และยิงปืนในที่สาธารณะ

หลังจากนี้จะรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีทั้ง 2 ฝ่าย ส่วนความผิดทางวินัยได้ทำเรื่องและส่งสำนวนเบื้องต้นให้ทางผู้บังคับบัญชาต้นสังกัดพิจารณาแล้ว ส่วนผับดังกล่าว ขณะนี้สั่งปิดไม่มีกำหนด และอยู่ระหว่างสืบสวนหาข้อเท็จจริงว่ามีการปล่อยปละละเลยในการให้นำอาวุธปืนเข้าไปในร้านด้วยหรือไม่ หากพบความผิดก็จะต้องดำเนินคดีอย่างเด็ดขาดกับทางเจ้าของร้านดังกล่าว ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทั้ง 2 ฝ่าย

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ