เรื่องเล่าหน้าหนึ่ง 23 มี.ค.66 มือลั่นโพสต์ลุงตู่ ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1-วิสามัญคลั่งกราดยิงเพชรบุรี-สายบันจี้จัมพ์ขาดระทึก

-ปิดฉาก 15 ชม. วิสามัญหนุ่มคลั่ง กราดยิง 3 ศพ เจ็บ 4 ชุดปฏิบัติการอินทรีย์ 7 ปฏิบัติการกระชับพื้นที่ บุกบ้าน พบผู้ก่อเหตุใช้ม่านอำพรางตัวอยู่บนชั้น 2 ใช้ปืนยิงตอบโต้ ก่อนถูกวิสามัญเสียชีวิต ส่วนศพเหยื่อ เจ้าหน้าที่ต้องใช้รถกันกระสุน เข้าพื้นที่นำร่างออกมาได้ตอนเที่ยงคืน เผยกระสุนฝังร่างไม่ต่ำกว่า 10 นัด สาเหตุปมคลั่ง คาดเครียดขึ้นศาลหลายคดี ทั้งยาเสพติด ข่มขู่ ทำร้ายร่างกาย ซึ่งในจำนวนผู้เสียชีวิต 2 ราย เป็นคู่กรณีกับคนร้าย พบประวัติผู้ก่อเหตุเคยเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฝึกยิงปืน

-นาทีระทึก! นักท่องเที่ยวฮ่องกงกระโดดบันจี้จัมพ์ที่พัทยา สายขาดร่างร่วงกระแทกน้ำกว่า 30 เมตร ทำนักท่องเที่ยวบาดเจ็บ-ปอดติดเชื้อเยียวยา ก่อนแฉเยียวยาแค่ 1 หมื่น ต้องหยุดงานหลายวัน เสียเงินหลักแสน โชคดีที่ทำประกันการเดินทาง ชี้เป็นเรื่องตลก ด้านทัพพระยา ซาฟารี ผู้ประกอบการแจงดูแลรักษามอบค่าทำขวัญแล้วจนเป็นที่พอใจพร้อมขอโทษกับสิ่งที่เกิดขึ้น

-บิ๊กโจ๊ก แถลงปิดคดีเด็ก 8 เดือน นครปฐม หายปริศนา นานกว่า 40 วัน พร้อมยุติการค้นหาอย่างเป็นทางการ ผลนิติวิทยายืนยันเสียชีวิตแล้ว คาดโดนสัตว์กัดกินจนหมด มั่นใจพยานหลักฐานมัดตัวแม่เด็ก เผยคำให้การเอาผิดแม่เด็กที่ประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย และอำพรางซ่อนเร้นศพ จ่อสรุปสำนวนส่งอัยการ

-กล้องวงจรปิดมัดตัวแน่น แก๊งตำรวจ ตม. ขณะอุ้มรีดทรัพย์ชาวจีนพร้อมล่ามกลางกรุง เรียกเงินกว่า 10 ล้านบาท ขณะที่ ผบก.ตม.1 เซ็นคำสั่งให้ 5 ตำรวจ ออกจากราชการหลังถูกศาลอาญาคดีทุจริตฯ ออกหมายจับ พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ด้าน ผบ.ตร. ชี้ ผกก.ต้องรับผิดชอบฐานเป็นผู้บังคับบัญชา รับเคยสั่งขันน๊อตแล้ว จี้ ตรวจสอบรายบุคคล หากพบทำผิดฟันไม่เลี้ยง

ด้านตำรวจนครบาลจ่อเชิญ หญิงสาวร่วมภาพคู่ดาบตำรวจ ตม.หนึ่งในแก๊งรีดทรัพย์ โชว์แบงค์พันปึกใหญ่ อวดหราโซเชียล สอบปากคำ อาจเป็นหลักฐาน พฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์

-นอนคุก! นารา เครปกะเทย ไม่ยื่นประกัน ส่งตัวเข้าเรือนจำ ขณะที่ ผบ.คุกพิเศษกรุงเทพฯ เผย ขั้นตอนรับตัว เตรียมพิจารณาแยกขังห้องผู้ต้องขังข้ามเพศ / ด่านทนายเดชา เผยเหตุผลไม่ยื่นประกัน ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการก่อน เมื่อถึงเวลาสมควร จะยื่นประกันตัวอีกครั้ง ยืนยันยังคงเชื่อมั่นในกระบวนการยุติธรรม



เรื่องเล่าการเมือง

-ประเด็นการเมืองที่สร้างความฮือฮาเมื่อวานนี้ คือกรณีที่ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาโพสต์ว่า พล.อ.ประยุทธ์ ลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เบอร์ 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ แต่ล่าสุดเจ้าตัวออกมาขอโทษแล้ว

นี่เป็นภาพเฟซบุ๊กของ นายพูน แก้วภราดัย ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช พรรครวมไทยสร้างชาติ ลูกชายนายวิทยา แก้วภราดัย รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ โพสต์อวยพรวันเกิด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมภาพ พล.อ.ประยุทธ์ ที่มีข้อความระบุว่า "ลุงตู่ ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 รวมไทยสร้างชาติ" แต่หลังจากนั้นไม่นานได้มีการลบโพสต์ดังกล่าวออกไปจากเพจ

ล่าสุด ช่วงเย็นเมื่อวาน นายพูน ได้โพสต์ขอโทษ กรณีดังกล่าว โดยระบุว่า "ขอแสดงความขอโทษจากใจต่อพี่น้องประชาชน รวมถึงสมาชิกในพรรค และพลเอกประยุทธ์ ที่ทางเพจได้เผยแพร่ข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันจากทางพรรค ซึ่งได้โพสต์อวยพรวันคล้ายวันเกิด พลเอกประยุทธ์ ด้วยภาพที่ได้บันทึกมาจากอินเทอร์เน็ต

สำหรับข้อความในภาพว่า "ลุงตู่ ปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 พรรครวมไทยสร้างชาติ" ยังไม่ได้รับการยืนยัน และยังไม่เป็นข้อเท็จจริงที่ประจักษ์ จึงขออภัยที่ทำให้หลาย ๆ ท่านได้รับข้อมูลที่คลาดเคลื่อน"

สำหรับเรื่องการลงสมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ของ พล.อ.ประยุทธ์ ที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวพยายามสอบถาม พล.อ.ประยุทธ์ หลายครั้ง แต่ท่านยังไม่ได้ให้ความชัดเจน

ส่วนความเคลื่อนไหวของ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันนี้ มีรายงานว่าในช่วงบ่ายท่านได้ลากิจ เพื่อมาร่วมกิจกรรมที่พรรครวมไทยสร้างชาติ ซึ่งจะมีการเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ และประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ของพรรค



-ส่วนทางพรรคพลังประชารัฐ ล่าสุดทำบัญชีปาร์ตี้ลิสต์เสร็จแล้ว ซึ่ง พล.อ.ประวิตร จะเป็นผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อ ลำดับที่ 1 ของพรรค

เมื่อวาน ผู้สื่อข่าวไปถาม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ถึงประเด็น พล.อ.ประยุทธ์ เป็นปาร์ตี้ลิสต์ เบอร์ 1 ของรวมไทยสร้างชาติด้วย พล.อ.ประวิตร ยิ้มและบอกว่า ทุกคนก็ต้องลงทั้งนั้น ส่วนตัวท่านจะลง ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์อันดับ 1 ไหม พล.อ.ประวิตร บอกขอให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณาก่อน

ต่อมา นายสันติ พร้อมพัฒน์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ ถึงรายชื่อผู้สมัคร ส.ส.บัญชีรายชื่อว่า ได้ครบแล้ว 100 คน โดยลำดับที่ 1 คือ พล.อ.ประวิตร ในฐานะหัวหน้าพรรค ส่วนลำดับที่ 2 ตามธรรมเนียมน่าจะเป็นชื่อตนในฐานะเลขาธิการพรรค ส่วนแคนดิเดตนายกฯของพรรคยังเป็น พล.อ.ประวิตร คนเดียว

ทั้งนี้นายสันติ กล่าวว่า ครั้งที่แล้วพรรคพลังประชารัฐได้คะแนนรวม 8 ล้านเสียง แต่ครั้งนี้แคนดิเดตนายกฯคนเก่าไปอยู่พรรคอื่นแล้ว จึงประมาณว่าครั้งนี้พรรคน่าจะได้สัก 6 ล้านเสียง ซึ่งน่าจะได้ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ประมาณ 20 คน

มีรายงานว่าสำหรับชื่อผู้สมัคร ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อในลำดับต้น ๆ ของพรรคพลังประชารัฐ มีดังนี้

ลำดับที่ 1. คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ

ลำดับที่ 2. นายสันติ พร้อมพัฒน์

3. นายไพบูลย์ นิติตะวัน

4. นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์

5. นายอธิรัฐ รัตนเศรษฐ

6. นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ์

7. นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์

ลำดับ 8-9 ยังไม่มีชื่อออกมา

ลำดับ 10. นายอุตตม สาวนายน

11. นายสกลธี ภัททิยกุล

12. นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์

13. นายอภิชัย เตชะอุบล



-ส่วนนายอนุทิน ชาญวีรกูล ช่วงนี้คอการเมืองมีการจับตาความเคลื่อนไหว เมื่อวานมีภาพการไปพบกับทั้ง ท่านนายกฯ และ นั่งกินข้าวกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรอบที่ 2 ท่ามกลางกระแสข่าวการดีลจับขั้วการเมือง

เมื่อวานนี้ ช่วงเช้า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ได้นำพวงมาลัย ไปกราบอวยพรวันเกิดย้อนหลัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เนื่องจากในวันประชุมครม.ยังไม่มีโอกาส ยืนยันไม่มีการพูดคุยเรื่องการจับขั้วการเมือง

นายอนุทิน ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ย้ำว่าพรรคภูมิใจไทย พร้อมทำงานกับทุกพรรค ไม่เคยขัดแย้งกับใคร แต่ทุกอย่างอยู่ที่ผลการเลือกตั้ง

เสร็จจากทำเนียบ ประมาณ 11 โมง จากนั้นในช่วงเที่ยง นายอนุทิน พร้อม นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ เลขาธิการพรรค และนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รองหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เข้าพบ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และร่วมรับประทานอาหารกลางวัน ที่มูลนิธิป่ารอยต่อฯ โดยมีแกนนำพรรคพลังประชารัฐ ร่วมโต๊ะอาหารอย่างคึกคึก

ก็ถือเป็นการ นั่งกินข้าวกันระหว่าง 2 พรรคเป็นครั้งที่ 2 แล้ว หลังกินข้าวกันก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา

มีรายงานว่า ได้ใช้เวลาพูดคุยกัน ประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง เนื้อหาบทสนทนาส่วนใหญ่เป็นเรื่องของการจับมือตั้งรัฐบาล คาดการณ์ในการเลือกตั้งครั้งนี้ พลังประชารัฐจะได้ 70 ที่นั่ง ภูมิใจไทยจะได้ 70 ที่นั่ง เป็น 140 ที่นั่ง บวกกับพรรคชาติไทยพัฒนา และพรรคประชาธิปัตย์ จะได้เกิน 203 ที่นั่ง จะสามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ และไม่ใช่เสียงข้างน้อย เพราะมีเสียงของ ส.ว.ด้วยส่วนหนึ่ง

ส่วนเรื่องการเป็นนายกฯ พล.อ.ประวิตร ระบุว่า “ถ้าคะแนนใครชนะเอาไปเลย” อยู่ที่ผลการเลือกตั้ง ส่วนพรรคที่ได้ 25-30-40 เสียง จะมาเอาก็ไม่ให้ ซึ่งบรรยากาศการสนทนา เป็นไปอย่างชื่นมื่น



-มีการเปิดนโยบายและทีมเศรษฐกิจ ขณะที่เพื่อไทย น.ส.แพทองธาร และนายเศรษฐา นำทีมเปิดปราศรัยใหญ่ที่นนทบุรี ถือเป็นเวทีแรกหลังมีการยุบสภา

เมื่อวานนี้ พรรคเพื่อไทย เปิดเวทีปราศรัยใหญ่เวทีแรกหลังยุบสภา ที่ ท่าน้ำนนท์ จังหวัดนนทบุรี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ระบุว่า ในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี จังหวัดนนทบุรีเป็นหนึ่งใน 7 จังหวัดแรก ที่ได้รับการปรับค่าแรงเป็น 300 บาท และอีก 4 ปี ข้างหน้า พรรคเพื่อไทยจะทำค่าแรงให้เป็น 600 บาท วันนี้ขออุ้มท้อง 8 เดือน มาการันตี ว่า ถ้าเพื่อไทยเป็นรัฐบาล จะทำให้ประชาชนกลับมากินดีอยู่ดีอีกครั้ง

ขณะที่ นายเศรษฐา ทวีสิน ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ขึ้นปราศรัยระบุว่า รู้สึกฮึกเหิม หลังยุบสภาคืนอำนาจให้ประชาชน

นอกจากนี้ เมื่อวาน พรรคเพื่อไทย ยังแถลงเตรียมจัดปราศรัยใหญ่ในพื้นที่ กทม. วันที่ 24 มีนาคมนี้ นอกจากเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 33 เขตแล้ว จะมีการแสดงวิสัยทัศน์ใหม่ในอนาคต 4 ด้านเพื่อคนกรุงเทพฯและประเทศไทย

ส่วน น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล แถลงเปิดตัวทีมเศรษฐกิจ 7 คน ภายใต้แนวคิด พลิกโฉมประเทศไทยไม่เหมือนเดิม น.ส.สิริกัญญา ระบุว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรค แม้จะเป็นหน้าใหม่ แต่ก็มั่นใจว่าจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงได้

ส่วนพรรคประชาธิปัตย์ เมื่อวานนี้ก็แถลงเปิดนโยบายกทม. หลักๆ มีการประกาศสงครามฝุ่นพิษ PM 2.5 / ไม่เอายาเสพติด ไม่หนุนกัญชาเสรี

โดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุว่าพรรคเตรียมจัด 3 ทัพใหญ่ สู้ศึกเลือกตั้ง ก็บอกไม่จำเป็น ที่หัวหน้าพรรค และ อดีต 3 หัวหน้าพรรค ต้องขึ้นเวทีเดียวกัน เพราะการแยกกันไป จะช่วยทำให้ครอบคลุมพื้นที่ได้มากกว่า เนื่องจากมีเวลาจำกัดประมาณ 2 เดือน

รับชมผ่านยูทูปได้ที่ : https://youtu.be/C6SVuxZaHJU