สังคม

ญาติวอนกระบะตู้ทึบคู่กรณีดูแล หลังขับรถชนชายเก็บขยะจนติดเตียง

โดย paranee_s

20 มี.ค. 2566

245 views

จากกรณีรถกระบะชนตู้ทึบชนกับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ของนายสมบุญ อายุ 56 ปี อาชีพเก็บขยะขาย ถูกนำไปร้องเรียนกับเพจบ้านเฮียชาญ เพื่อขอความช่วยเหลือให้ประสานงานกับคู่กรณี หลังจากที่เกิดอุบัติเหตุอาการสาหัสไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ผ่านมากว่า 1 เดือนคดีก็ยังไม่เดินหน้า


ล่าสุดนายชาญวิทย์ อายุ 35 ปี เจ้าของเพจบ้านเฮียชาญได้เดินทางลงไปดูข้อเท็จจริงพบว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงบ่าย วันที่ 7 ก.พ.2566 ขณะที่นายสมบุญขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง ตระเวนเก็บขยะ เก็บของเก่าตามถนนเลี่ยงเมืองขาออกมุ่งหน้าแยกวนารมย์


เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุนายสมบุญได้เปลี่ยนช่องทางเข้าเลนขวา ซึ่งเป็นจังหวะที่รถกระบะตูhทึบคู่กรณีแซงทางด้านขวาของรถ 10 ล้อ ขึ้นมาพอดีทำด้านข้างซ้ายของรถกระบะเฉี่ยวชนกับรถของนายสมบุญ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส


หลังเกิดเหตุหน่วยกู้ภัยนำตัวนายสมบุญ ส่งโรงพยาบาลแพทย์วินิจฉัยว่ามีการบาดเจ็บบริเวณกระดูกต้นคอต้องผ่าตัด นอนรักษาตัวอยู่โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์นานกว่า 1 เดือน จึงได้กลับมารักษาตัวที่บ้าน ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาที่เสียชีวิตไปแล้วมีเพียงลูกเลี้ยงที่ไม่มีรายได้ดูแล และเพื่อนบ้านคอยดูแลหาให้อาหารเช็ดตัวให้


นางนิภา อายุ 50 ปี ลูกพี่ลูกน้องของนายสมบุญ เปิดเผยว่าหลังจากที่ทราบเรื่องว่านายสมบุญประสบอุบัติเหตุตนจึงได้เข้ามาเดินเรื่องการรักษาพยาบาล ดูแลนายสมบุญ เพราะนายสมบุญไม่มีใครดูแล ญาติที่มีอยู่คือลูกเลี้ยงที่ไม่มีงานทำ มีนายสมบุญคนเดียวที่เป็นคนหารายได้เลี้ยงดูกัน 2 คน เมื่อมาเกิดอุบัติเหตุทำให้ทั้ง 2 คน อยู่อย่างลำบากอาศัยชาวบ้านใกล้เคียงนำอาหารน้ำดื่มมาให้


ส่วนเรื่องคดีตอนนี้ยังไม่คืบหน้าคู่กรณีมาเยี่ยม 2 ครั้ง ให้เงินไว้ 1,000 บาท นอกนั้นก็ยังไม่มีการเยียวยากันแต่อย่างใด ในการรักษาพยาบาลเบื้องต้นต้องไปขอยืมเงินจาก คปภ.จังหวัดอุบลราชธานี มาจ่ายค่ารักษาระหว่างรักษากินอยู่หากผลคดีออกมาว่านายสมบุญผิดก็ต้องหาเงินไปคืน ซึ่งก็ไม่รู้จะเอามาจากไหน เพราะรถของนายสมบุญเองไม่มี พ.ร.บ.คู่กรณีก็ไม่ยอมให้ใช้สิทธิ์ของรถกระบะ ปัดเรื่องให้แต่ประกันภัยเป็นคนพูดคุย ซึ่งมีแนวโน้มว่าอาจจะโดนฟ้อง


นางนิภา ยังกล่าวอีกว่า จริงแล้วตนเองและนายสมบุญไม่ได้มีความต้องการจะเรียกร้องค่าเสียหายอะไร แค่อยากให้เข้ามาดูแลตามหลักมนุษยธรรมบ้างไม่ใช่ ปัดแต่ให้คุยกับประกันอย่างเดียว ส่วนเรื่องของคดีก็ยังไม่มีความคืบหน้าแม้จะผ่านมาเป็นเดือน


ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง นายสถาพร อายุ 26 ปี คน คนขับ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนเองขับรถตามหลังรถ 10 ล้อ จากนั้นตนเองได้แซงขวาขึ้นมาพอพ้นรถ 10 ล้อ ก็มีรถจักรยานยนต์พ่วงข้างของนายสมบุญเปลี่ยนทางมาหารถของตน ซึ่งขณะนั้นรถของตนเองไม่สามารถเบรกได้ทันเพราะรถหนักจึงทำให้เฉี่ยวชนกัน


ส่วนเรื่องการเยี่ยวยาความรับผิดนั้นตนเองได้มอบหมายให้ประกันภัยชั้น 1 เป็นตัวแทนดำเนินการเพราะตนเองไม่รู้เรื่องกฎหมายที่ผ่านมาก็ไปเยี่ยมคุณตา 2 ครั้ง ที่โรงพยาบาลและที่บ้าน ส่วนการเยียวยาด้านมนุษยธรรมขอให้จบจากคดีหลักก่อนค่อยว่ากันอีกที


ส่วนเรื่องคดีเบื้องต้นพนักงานสอบสวน ได้มีการเรียกคู่กรณีทั้ง 2 ฝ่ายคุยกันนอกรอบแล้ว 2 ครั้งมีนางนิภา เป็นตัวแทนของนายสมบุญ แต่ก็ไม่สามารถพูดคุยกันได้เนื่องจากนายสมบุญ ยังคงรักษาตัวในโรงพยาบาลอาการยังไม่คงที่แม้ล่าสุดอาการของนายสมบุญจะไม่สามารถเดินได้ แต่ก็ต้องรอแพทย์สรุปผลการรักษาก่อนเพื่อจะนำมาประกอบคดีและแจ้งข้อกล่าวหากับผู้ที่ประมาท

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ