สาวร้อง ตำรวจออกใบสั่งคนละข้อหากับใบเสร็จ ซ้ำให้โอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัว

วันนี้ (12 มี.ค.) ผู้สื่อข่าว ได้รับการร้องเรียนจาก ผู้เสียหาย คือ นางสาวอรนินทร์ วัย 23 ปี ได้เล่าว่าเมื่อ ช่วงสายของวันที่ 11 มีนาคมที่ผ่านมา เธอไปจอดรถริมถนน บริเวณปากซอยทองหล่อ 1 ซึ่งปกติแล้วเธอไปออกทำธุระบริเวณดังกล่าวเป็นประจำ และไม่เคยถูกตำรวจล็อกล้อมาก่อน


จนกระทั่งเมื่อวานนี้ เธอถูกล็อกล้อ ซึ่งเธอก็ยอมรับว่าผิดจริง จึงติดต่อตำรวจตามเบอร์ที่ให้ไว้ในใบสั่งที่แปะหน้ารถ เมื่อโทรฯไป เธอก็พยายามสอบถามว่า จะต้องจ่ายเท่าไหร่ เพราะเธอจะได้ไปกดเงิน เนื่องจากตอนนั้นเธอไม่มีเงินสดติดตัวเลย แต่ตำรวจปลายสายกลับไม่บอกราคากลับมา


และเมื่อไปถึง สน.ทองหล่อ เธอก็รอ ประมาณ 20 นาที เพราะก่อนหน้าเธอมีชายต่างชาติกำลังคุยกับตำรวจอยู่ และเธอบอกว่า ขณะที่นั่งรออยู่นั้น ก็มีตำรวจนายหนึ่ง เดินเข้ามาคุยกับตำรวจที่ทำหน้าที่เปรียบเทียบค่าปรับ พูดในทำนองว่า “วันนี้รับเละเลยนะ”


จากนั้นไม่นาน ตำรวจก็เรียกเธอเข้าไปคุย ซึ่งตอนนั้นตำรวจก็ได้มีการอธิบาย ข้อหาและราคารวมถึงการตัดแต้ม ซึ่งตอนนั้นตำรวจพูดเร็วและรัว จนเธอฟังไม่ทัน และพูดรวมราคามาว่า เธอต้องจ่ายค่าปรับ 1,400 บาท ก่อนจะยื่นข้อเสนอมาว่า ถ้าเอาข้อหานี้ จะไม่ถูกตัดแต้ม และจะลดราคาให้ 400 จ่ายแค่ 1,000 บาท ซึ่งตอนนั้นเธอยอมรับว่า ฟังไม่ทันและไม่ได้คิดอะไร


อีกทั้งรถคันดังกล่าวเป็นรถของแม่เธออีกด้วย ประกอบกับตอนนั้นเธอรีบมาก เพราะต้องไปทำธุระต่อ จึงถามกลับไปว่า ต้องจ่าย 1,000 บาทใช่ไหมคะ สแกนจ่ายได้ไหม เพราะไม่มีเงินสด ตำรวจก็บอกว่าได้ และ หยิบคิวอาร์โค้ด ในลิ้นชักออกมา ให้เธอสแกนจ่าย ก่อนจะยื่นใบเสร็จมาให้ จากนั้นเธอก็ออกไปทำธุระ


จนกระทั่งเมื่อเธอทำธุระเสร็จจึงหยิบใบเสร็จมาดู ก็พบว่า ข้อหาที่เธอจ่ายไปนั้น ไม่ใช่ข้อหาที่แปะหน้ารถเธอตอนแรก ในข้อหาที่ถูกล็อกล้อ แต่ในใบเสร็จกลับเขียนข้อหา ไม่มีใบอนุญาตขับรถเพื่อแสดงต่อเจ้าพนักงาน และไม่มีสำเนาคู่มือจดทะเบียนรถแสดงต่อเจ้าหน้าที่ ซึ่งเธอยืนยันว่า ตลอดเวลาที่คุยกับตำรวจทั้งในโทรศัพท์และที่ สน. ไม่มีใครขอบัตรประชาชนและใบขับขี่เธอ เพื่อไปตรวจสอบเลย อีกทั้ง เธอยังตั้งข้อสังเกตว่าบัญชีที่เธอโอนเงินไปเป็นชื่อของตำรวจไม่ใช่ชื่อของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ


นอกจากนี้ ทีมข่าว ได้สอบถามไปยัง พันตำรวจโท ศักดิ์ หมู่ธิมา รองผู้กำกับจราจร สน.ทองหล่อ ได้บอกว่า ตนจะไปตรวจสอบกรณีดังกล่าวให้ว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ในเรื่องของข้อหาที่ไม่ตรงกัน รวมถึง ราคาค่าปรับที่เปรียบเทียบไป แต่การจ่ายเงินแล้วแต่ตามปกติ จะจ่ายเป็นเงินสด หรือหากจะสแกนจ่าย จะต้องจ่ายผ่านบัญชีกรุงไทย ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือแอปพลิเคชันเป๋าตัง จะไม่มีการจ่ายไปยังบัญชีส่วนตัวของใคร