รวบชายแอบถ่ายหญิงในห้องน้ำสถานบันเทิง แพร่ลงโซเชียล ขายกลุ่มวีไอพี พบผู้เสียหาย 27 ราย

เมื่อวันที่ 9 มีค 66 ที่ กองบัญชาการการตำรวจภูธรภาค 5 พล.ต.ท ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5, พล.ต.ต วีระชน บุญทวี รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต วรพงศ์ คำลือ ผบก.สส.ภ.5 ได้ร่วมกันแถลงข่าวผลการจับกุมผู้ต้องหาก่อคดีแอบถ่ายในห้องน้ำสถานบันเทิงและร้านอาหาร นำเผยแพร่ทางโซเซียล เพื่อหารายได้ พบผู้เสียหายถึง 27 ราย แจ้งความแล้ว 14 ราย ของกลางจำนวนมาก ผู้ต้องหารับสารภาพ เคยถูกจับมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่กลับมากระทำอีกไม่หลาบจำ


พล.ต.ท ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 ได้เปิดเผยว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชุด ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.5) ได้รับแจ้งจากพนักงานสอบสวน สภ.เมืองลำพูน จว.ลำพูน ว่า ได้รับแจ้งความร้องทุกข์จากหญิงผู้เสียหายหลายรายว่าถูกบุคคลนำรูปภาพและคลิปวิดีโอมีเนื้อหาลามกอนาจารในลักษณะของการถูกแอบถ่ายจากห้องน้ำหญิงในสถานบันเทิง อ.เมืองลำพูน จ.ลำพูน ไปเผยแพร่ในสื่อสังคมออนไลน์วีเค


และพบว่ามีข้อความเชิญชวนผู้ที่สนใจดูคลิปวิดีโอแบบเต็มให้โอนเงินเพื่อสมัครเข้ากลุ่มวีไอพี จำนวน 300 บาท โดยให้โอนเงินเข้าบัญชี ของ นางสาวกัญจน์ ซึ่งการกระทำดังกล่าวทำให้ผู้เสียหายอับอาย หรือถูกดูหมิ่น


ทาง ศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยีสารสนเทศ ตำรวจภูธรภาค 5 (ศปอส.ภ.๕) ได้ทำการสืบสวน จนทราบตัวบุคคลที่เผยแพร่คลิปดังกล่าว ชื่อ นายโอฬาร เป็นคนเปิดเพจ ปล่อยคลิป ดังกล่าวแลกกับค่าเข้ากลุ่ม ซึ่งแอดมินเพจเคยมีประวัติเคยถูกจับมาแล้วเมื่อปี 65 ที่ สภ.ปากเกร็ด นนทบุรี ในคดีลักษณะเดียวกัน แต่ยังไม่เข็ดหลาบ ยังมีการกระทำความผิดอีก


เบื้องต้นที่ สภ.เมืองลำพูน มีผู้เสียหายแจ้งความแล้วประมาณ 14 คน แต่ผู้เสียหายจริง ๆ มีประมาณ 27 คน ซึ่งคดีนี้เป็นคดีที่ทำให้ประชาชนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัย เมื่อทางชุดสืบสวนได้สืบสวนจนรู้ตัวคนร้าย และทราบว่าคนร้ายพักอาศัยอยู่ที่ อ.แม่สอด จ.ตาก หากได้นำหมายจับแล้วจะดำเนินการจับกุม และนำมาขยายผลที่ ภ.5


ทางเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบ้านผู้ต้องหา ใน ม.2 ต.แม่จะเรา อ.แม่ระมาด จ.ตาก เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน ผลการตรวจค้น พบสมุดบัญชีที่คนร้ายใช้รับเงินค่าสมาชิกเข้ากลุ่มลับ,สมุดบัญชีธนาคารอื่นๆ ,บัตร ATM ,กล้องแอบถ่ายขนาดเล็ก, อุปกรณ์บันทึกข้อมูล ,โทรศัพท์มือถือ และคอมพิวเตอร์โน้ตบุ๊ก ซึ่งปรากฏพยานหลักฐานที่เชื่อได้ว่าเป็นสิ่งที่ได้ใช้หรือมีไว้เพื่อใช้ในการกระทำผิด


สอบถาม นายโอฬาร ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า เป็นผู้ดูแลเพจของแอปพลิเคชัน VK ซึ่งมีการเผยแพร่คลิปวิดีโอและภาพถ่ายที่มีผู้เสียหายแจ้งความร้องทุกข์ไว้ที่ สภ.เมืองลำพูนจริง ซึ่งมีผู้อื่นนำคลิปวิดีโอดังกล่าวมาขายให้กับผู้ต้องหาอีกที


จากนั้นผู้ต้องหาจึงนำคลิปวิดีโอดังกล่าวมาเผยแพร่ต่อแลกกับค่าสมัครสมาชิก คนละ 300 บาท โดยตัวนายโอฬาร แจ้งว่ามีรายได้จากการรับเงินค่าสมาชิกประมาณเดือนละ 100,000 บาท ในส่วนของผู้ถ่ายคลิปดังกล่าวนั้น มีอีกหลายคน ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้สืบสวนสอบสวนขยายผลตามตัวมาดำเนินคดีกันต่อ