ผู้รับเหมาร้องทบทวน ผอ.วิทยาลัยอาชีวะ รับสินบน แต่ผลสอบวินัยบอก ‘ผิดเล็กน้อย’ ทั้งที่มีหลักฐานชัดเจน

เรื่องร้องเรียนจากประชาชน ทั้งเรื่องลักลอบทิ้งศาลเคมีอันตราย ที่เราเกาะติดไปให้ถึงต้นตอ และล่าสุดวันนี้ มีเรื่องร้องเรียนจากผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้รับเหมาซ่อมแซมโรงอาหารของวิทยาลัยอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี เมื่อสร้างเสร็จ เธอได้ถูกผู้อำนวยการวิทยาลัย เรียกเงินค่าหัวคิด 10 เปอร์เซ็นต์ เธอได้ตัดสินใจ ร้อง ปปท. จนได้ร่วมกับตำรวจ วางแผนถ่ายคลิปหลักฐาน ขณะรับเงิน พร้อมจับกุมทันที เวลาผ่านมาเกือบ 1 ปี คดีอาญา ป.ป.ช. ส่งให้ตำรวจท้องที่ ทำคดี ยังไม่มีอะไรคืบหน้า ส่วนการสอบสวนวินัย โดยคณะกรรมการ ที่สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ตั้งขึ้น ผลออกมาว่า เป็นความผิดเล็กน้อย และให้ผู้อำนวยการ กลับเข้ารับตำแหน่งเดิม


มีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นผู้รับเหมาซ่อมแซมโรงอาหารของวิทยาลัยอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่ง ในจังหวัดปทุมธานี ได้ร้องเรียนมาที่ข่าว 3 มิติ ว่า เมื่อซ่อมแซมโรงอาหารเสร็จ เธอได้ถูกผู้อำนวยการวิทยาลัย เรียกเงินค่าหัวคิว 10 เปอร์เซ็นต์ เธอจึงตัดสินใจ ร้อง ปปท. จึงได้ร่วมกับตำรวจ วางแผนถ่ายคลิปหลักฐาน ขณะรับเงิน พร้อมจับกุมทันที เวลาผ่านมาเกือบ 1 ปี คดีอาญา ปปท. ส่งเรื่องให้ ป.ป.ช. จากนั้น ป.ป.ช.ส่งให้ตำรวจท้องที่ทำคดี จนถึงขณะนี้คดียังไม่คืบหน้าเท่าที่ควรจะเป็น ส่วนการสอบสวนทางวินัย โดยคณะกรรมการ ที่ตั้งขึ้นโดยสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ผลออกมาว่า เป็นความผิดเล็กน้อย และให้ผู้อำนวยการ กลับเข้ารับตำแหน่งเดิม


นางสาวประภัสสรณ์ ม่วงทิพย์ เจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างนำหลักฐานเข้าร้องร้องเรียนที่ศูนย์คุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม เรียกร้องให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของคณะกรรมการสอบสวนทางวินัย ที่แต่งตั้งโดยคณะกรรมการอาชีวศึกษา จากกรณีผู้อำนวยการวิทยาลัยอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งใน จังหวัดปทุมธานี เรียกรับเงินแลกกับการลงนามรับมอบงานโครงการซ่อมแซมโรงอาหารเมื่อต้นปี 2565 งบโครงการประมาณ 5 แสนบาท


แต่หลังจากผู้อำนวยการรายนี้ถูกเจ้าหน้าที่ซ้อนแผนจับกุมขณะรับเงิน จนถูกดำเนินคดีอาญาและตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัย มีความพยายามติดต่อผู้เสียหายเพื่อเสนอเงินให้ 2 แสนบาท แลกกับการกลับคำให้การเพื่อช่วยเหลือ แต่นางสาวประภัสสรณ์ปฏิเสธ และบันทึกเสียงไว้เป็นหลักฐาน


การสอบสวนวินัยภายใต้การกำกับของคณะกรรมการอาชีวศึกษากินระยะเวลาเกือบ 1 ปี จนมีข้อสรุปเบื้องต้นว่ากรณีนี้เป็นการผิดวินัยเล็กน้อย และคืนตำแหน่งให้กับผู้อำนวยการรายนี้


นางสาวประภัสสรณ์ จึงเชื่อว่าการพิจารณาอาจไม่เป็นธรรมจึงรวบรวมหลักฐานคือคลิปเสียงที่บันทึกไว้ส่งให้เลขาธิการคณะกรรมการอาชีวศึกษาตรวจสอบ แต่เอกสารร้องเรียนและคลิปเสียงหลักฐานซึ่งควรเป็นความลับกลับถูกส่งให้กับกรรมการสอบวินัยทั้ง 4 คน นำกลับมาฟ้องร้องผู้เสียหายฐานหมิ่นประมาท


กรณีที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ผู้เสียหายเกิดความกังวล เพราะตนเองในฐานะคู่กรณีกับผู้อำนวยการโดยตรง กลับไม่ได้รับทราบการแจ้งผลการสอบสวนวินัย ทั้งที่สอบถามไปแล้วหลายครั้ง อีกทั้งข้อมูลและหลักฐานที่ส่งไปร้องเรียนก็กลับถูกนำไปให้เจ้าหน้าที่ใช้กลับมาฟ้องร้องตนเอง


ข่าว 3 มิติ จะตามเรื่องนี้ต่อเนื่อง จนได้คำตอบว่า ทำไมผลสอบวินัย จึงเป็นเช่นนั้น ทำไม หลักฐานที่ร้องเรียน กลับรั่วไหลไปยังผู้ถูกร้องเรียน จนนำมาฟ้องร้อง และทำไม คดีอาญา ยังเงียบอยู่