อาชญากรรม

ทนายกฤษณะ คุย คุณแม๊ เผยเสียงกล้องหน้ารถแตงโม บอกไม่มีการปัสสาวะท้ายเรือ ทนายเดชา โต้กลับ ในคลิปไม่มีเสียง

โดย paranee_s

5 มี.ค. 2566

673 views

วันนี้ (05 มี.ค.) ทีมข่าวพูดคุยกับทนายกฤษณะ ศรีบุญพิมพ์สวย อดีตทนายความของคุณแม่คุณแตงโม เปิดเผยว่า หลังจากเมื่อวันที่ 2 มีนาคม ที่คุณแม่เปิดเผยว่า ได้นำเมมโมรีการ์ดของกล้องหน้ารถมาส่งมอบให้กับศาลนั้น ตนก็ได้โทรศัพท์ไปพูดคุยกับคุณแม่ในวันนั้นเลย เพราะเป็นหลักฐานที่ตนเป็นคนส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ


ซึ่งในวันนั้น มีการพูดคุยสอบถามคุณแม่ และทำให้ทราบว่า เป็นบทสนทนาของคน 2 คน ซึ่งคุณแม่ได้ฟังบางส่วนแล้ว และยืนยันกับตนว่า ไม่มีการปัสสาวะท้ายเรือ


ทนายกฤษณะ ย้ำกับทีมข่าวว่า ตนได้ส่งมอบกล้องหน้ารถ และเมมโมรีการ์ดให้กับตำรวจแล้ว พร้อมกับนำเอกสารการส่งมอบมาให้ทีมข่าวดู โดยเป็นเอกสารสำเนาบันทึกตรวจยึด และส่งมอบ พร้อมนำภาพประกอบการ ที่ระบุวันส่งมอบเมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2565 เวลา 11.40 น. ซึ่งได้ส่งมอบ กล้องวงจรปิดหน้ารถยนต์ พร้อมกับ เมมโมรีการ์ดขนาดความจุ 16 GB


ทนายกฤษณะ ระบุว่า มีผู้จัดการหมู่บ้าน รวมถึง รปภ.หมู่บ้านที่เป็นพยานในการส่งมอบ และตนได้ซีลใส่ซองพลาสติก เซ็นกำกับเรียบร้อย ส่งให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ ทันทีที่ส่งมอบหลักฐานชิ้นนี้ ตอนนั้นตนได้นัดหมายกับตำรวจว่าจะเปิดฟังข้อมูลในคลิปกล้องหน้ารถร่วมกัน ซึ่งตรงกับวันเดียวกับที่มีการส่งร่างคุณแตงโมไปชันสูตรที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์ เฉลิมพระเกียรติ และยังไม่เสร็จธุระดี จึงขอเลื่อนการเข้าฟังหลักฐานในกล้องหน้ารถออกไปเป็นวันรุ่งขึ้น


แต่ปรากฏว่าเช้าวันรุ่งขึ้น ตนก็โดนปลดจากการเป็นทนายความของคุณแม่ เลยไม่สามารถเข้าไปฟังได้ ซึ่งยืนยันว่า สาเหตุที่ตนเน้นเรื่องกล้องหน้ารถ เพราะเชื่อว่า ก่อนและหลัง มันน่ามีความจริงเกิดขึ้นและหากเป็นความจริงตามที่มีการกล่าวอ้างว่า มีการดองหลักฐานจริง หรือมีการลบข้อมูล ตนจะดำเนินการตามกฎหมาย สำหรับผู้ที่กระทำในเหตุการณ์นี้ จะไม่ปล่อย จะเอาคดีนี้กลับขึ้นมา และทวงศักดิ์ศรีตัวเองกลับคืนมาด้วย


ส่วนคลิปจากกล้องหน้ารถที่ว่าถูกลบไป และได้ให้ผู้เชี่ยวชาญกู้กลับมานั้น จากการคุยกับแม่เบื้องต้น ทราบว่า เป็นผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการรับรองและเชื่อถือได้


ขณะที่ นายเดชา กิตติวิทยานันท์ ทนายคลายทุกข์ ได้พูดถึง กรณีที่ มีการเผยแพร่คลิปเสียงสนทนาของ นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน แม่ของ นางสาว นิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ แตงโม บอกว่าตนเองได้ฟังคลิปเสียงสนทนาดังกล่าวแล้ว และตนเองยืนยันว่า คลิปกล้องหน้ารถที่คุณแม่บอกว่าเป็นหลักฐานใหม่นั้น ไม่มีเสียงอย่างแน่นอน


และตนเองยังได้สอบถามไปยัง ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในตำรวจภูธรภาค 1 และ ผู้กำกับการสภ.เมืองนนทบุรี ก็บอกตรงกันว่า มีการนำกล้องหน้ารถดังกล่าวส่ง พฐ.ไปตรวจสอบทั้งหมดแล้ว ไม่มีเสียง และตนก็มองว่า เจ้าหน้าที่ พฐ.ไม่มีความจำเป็นอะไรทั้จะต้องไปลบไฟล์ในกล้อง


ส่วนหลังจากที่แม่ไปรับกล้องคืนแล้วบอกว่าไปกู้ไฟล์มานั้น ตนเองไม่ทราบจริง ๆ ว่าแม่ไปทำอะไรบ้าง เพราะความคิดแม่นั้นเปลี่ยนแปลงได้เสมอ อยู่กับใครคนไหนก็จะเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แต่การที่แม่ยืนยันว่าได้ยินเสียงการสนทนาของคน 2 คนนั้น จะจริงเท็จยังไงผมไม่ทราบ แต่แม่ต้องรับผิดชอบในคำพูด เพราะแม่เป็นผู้ใหญ่แล้ว และได้ฝากเตือนแม่ไปว่าให้ระวังเวลาคุยกับใคร

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ