ชูวิทย์ เปิดโปงตระกูลชิดชอบ ตัดเค้กแบ่งที่ดินเขากระโดง-ทุจริตรถไฟฟ้าสายสีส้ม

ที่โรงแรมเดวิส สุขุมวิท 24 นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมืองดัง แถลงเปิดโปงขบวนการทุจริต ซึ่งเกี่ยวข้องกับนักการเมืองรายใหญ่ โดยนายชูวิทย์ ได้นำเค้กรูปที่ดินบ้านเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ มาตัดแบ่งต่อหน้าสื่อมวลชน พร้อมฉีดสเปรย์ดับกลิ่นใส่โมเดลรถไฟฟ้าสีส้ม ก่อนใช้ค้อนพลาสติกขนาดใหญ่ทุบทำลายทิ้ง และสวดมนต์สาปแช่งผู้ที่กระทำผิดต่อบ้านเมือง



นายชูวิทย์ กล่าวว่า ภาพรวมขบวนการงาบ แบ่งเป็นกระทรวงคมนาคม เรื่องรถไฟฟ้าสายสีส้ม , ที่ดินเขากระโดง , รฟท.ตั้งบริษัทลูกแยกทรัพย์สินและที่ดิน กระทรวงสาธารณสุข เรื่องวัคซีนกับกัญชา และกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เรื่องสนามกีฬาแข่งรถ สนามฟุตบอล โดยอันดับแรกต้องย้อนไปปี 2561 นายศักดิ์สยาม ในฐานะนายจ้างของบริษัทบุรีเจริญคอนสตรัคชั่น ได้แต่งตั้งนายศุภวัฒน์ เพื่อนร่วมรุ่นโรงเรียนมัธยม ที่เป็นพนักงานบริษัทของตนเอง มาเป็นนอมินีทำงานแทนตัวเอง พร้อมโอนหุ้นให้ กระทั่งนายศักดิ์สยาม ได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรีกระทรวงคมนาคม บริษัทดังกล่าว ได้รับงานจากกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท รวมมูลค่ากว่า 1,220 ล้านบาท ซึ่งนายศุภวัฒน์ ยังบริจาคเงินให้พรรคภูมิใจไทย กว่า 7 ล้านบาท



นายชูวิทย์ เผยว่า กรณีต่อมาคือเรื่องที่ดินบ้านเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ จำนวนกว่า 5,083 ไร่ มีชาวบ้าน 35 ราย เป็นโจทก์ฟ้องการรถไฟแห่งประเทศไทย(รฟท.) เพื่อขอออกโฉนดที่ดิน แต่ท้ายที่สุด รฟท.ชนะคดี ชาวบ้านต้องรื้อถอนบ้านออกจากพื้นที่ แต่เหตุใดตระกูลชิดชอบ กลับมีบ้านพัก บริษัท สนามแข่งรถอินเตอร์เนชั่นแนลเซอกิต สนามฟุตบอลช้างอารีนา อยู่ในพื้นที่นี้ได้ เท่ากับว่า รฟท.กระทำ 2 มาตรฐาน



ถัดมาเป็นเรื่องของนายจิตต์อรุณ พนักงานบริษัท ช.การช่าง ที่ครอบครองที่ดิน ส.ป.ก.สำหรับทำการเกษตร ร่วม 700 ไร่ ใน ต.หนองย่างเสือ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ทั้งที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสระบุรี เตรียมจัดสรรให้เกษตรกรที่ขึ้นทะเบียนคนจนไว้ แต่กลับมีฝ่ายกฎหมาย ทำหนังสือหารือภายในเพื่อเลี่ยงข้อกฎหมายแปลงที่ดินดังกล่าว โดยให้พนักงานบริษัทไปขอสินเชื่อเป็นกลุ่มกับธนาคาร และปลูกไม้ยืนต้นในที่ดินเพื่อให้ ส.ป.ก.ยึดคืนได้ยาก



นายชูวิทย์ กล่าวอีกว่า เรื่องสวนกุหลาบคอนเนคชั่น ซึ่งเกี่ยวข้องกับนายสุชาติ เจ้าหน้าที่ใน ป.ป.ช.ที่ขาดคุณสมบัติของการดำรงตำแหน่งคณะกรรมการ ที่ระบุว่าจะต้องเป็นอธิบดี หรือผู้พิพากษามาก่อนอย่างน้อย 5 ปี แต่นายสุชาติ ใช้ตำแหน่งอื่นมาเทียบเคียงกัน ซึ่งเรื่องคอนเนคชั่นนี้ยังเกี่ยวข้องไปถึงรถไฟฟ้าสายสีส้ม ทั้งเรื่องงานรับเหมาและเดินรถไฟ ซึ่งมีเพียงบริษัท 2 แห่งที่มีคุณสมบัติ รับงานได้ แต่แล้วการก่อสร้างยังล่าช้าและมีราคาสูง



นายชูวิทย์ กล่าวถึงนายสนธิ ลิ้มทองกุล ผู้ก่อตั้งและเจ้าของหนังสือพิมพ์เครือผู้จัดการ หลังประกาศเปิดศึกเป็นศัตรูกัน ว่าตอนติดคุกด้วยกัน ตนลัดคิวรักษาตาให้ แต่พอออกมาก็ลืมกัน ส่วนกรณีกล่าวหาว่าตนไม่กล่าวถึงนายทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นั้น ตนเคยพูดจนเป็นคดีความมานานมาแล้ว จึงไม่จำเป็นต้องพูดถึง ส่วนนายเศรษฐา ทวีสิน ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย นั้น ตนรู้จักกันและทราบว่ามีเบื้องหลังที่ดี ไม่จำเป็นต้องทิ่มแทงเปิดเรื่องให้ฝ่ายตรงข้ามได้โอกาส



ส่วนกรณีศาลรัฐธรรมนูญมีมติเอกฉันท์ให้นายศักดิ์สยาม พ้นจากตำแหน่งรัฐมนตรี จากการถือหุ้น หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น นั้น ขอฝากถึงนายศักดิ์สยาม ว่าเจ้าตัวมีพฤติการณ์ชัดเจน การกระทำดังกล่าวถือว่าตระบัดสัตย์ จึงต้องไปศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมือง แผ่นดินนี้จะได้สูงขึ้น และฝากอีกว่า ถ้าเรื่องถึง ป.ป.ช. อย่าส่งเรื่องให้นายสุชาติ เพราะเขาแปดเปื้อนไปแล้ว