สังคม

ศาลปกครองสูงสุด ยืนยกฟ้องบีทีเอส คดีแก้ไข TOR ประมูลรถไฟฟ้าสายสีส้ม

โดย nutda_t

1 มี.ค. 2566

320 views

ศาลปกครองสูงสุด อ่านคำพิพากษาในคดีที่บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอส ยื่นฟ้องคณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1 การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 2 โดยขอให้คณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงบางขุนนนท์-มีนบุรี (สุวินทวงศ์) ชดใช้ค่าเสียหาย จากกรณีมีมติแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้ชนะการประเมินของเอกสารการคัดเลือกเอกชนโครงการดังกล่าว



ซึ่งคดีดังกล่าว ศาลปกครองชั้นต้นพิพากษายกฟ้อง เนื่องจากระหว่างการพิจารณาคดีของศาล ปรากฏข้อเท็จจริงว่า คณะกรรมการคัดเลือกฯ โครงการดังกล่าว ได้มีมติเห็นชอบให้ยกเลิกการประกาศเชิญชวนฯ โครงการรถไฟฟ้าสายสีส้ม และการคัดเลือกเอกชนตามประกาศเชิญชวนที่แก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว เหตุแห่งความเดือดร้อน หรือความเสียหายจากคำสั่งที่เป็นเหตุแห่งการฟ้องคดีนี้จึงหมดสิ้นไปแล้ว จึงมีคำสั่งจำหน่ายคดีในข้อหา ฟ้องขอให้เพิกถอนหลักเกณฑ์การร่วมลงทุนฯ ที่แก้ไขเพิ่มเติม



ในส่วนค่าเสียหายที่ผู้ฟ้องคดีมีคำขอตามคำฟ้องเพิ่มเติม ได้แก่ ค่าจ้างที่ปรึกษาทางเทคนิคและที่ปรึกษาทางกฎหมาย นั้น ศาลฯ เห็นว่า ค่าใช้จ่ายดังกล่าวเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจการค้าตามปกติของผู้ฟ้องคดี เเละผู้ฟ้องคดีไม่ได้เเสดงให้ศาลเห็นว่าเป็นความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 กระทำการแก้ไขเพิ่มเติม และเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนเพิ่มเติมครั้งที่ 1 ดังกล่าว เมื่อค่าใช้จ่ายในการว่าจ้างที่ปรึกษาทางเทคนิค และที่ปรึกษาทางกฎหมายของผู้ฟ้องคดีมิใช่ค่าเสียหาย โดยตรงจากการดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมและเปลี่ยนแปลงเอกสารการคัดเลือกเอกชนฯ ของผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 กรณีจึงไม่อาจถือว่าผู้ถูกฟ้องคดีทั้งสองกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี ศาลจึงไม่อาจกำหนดค่าเสียหายดังกล่าวให้เเก่ผู้ฟ้องคดีได้



โดยศาลปกครองสูงสุดพิพากษา ยืนตามศาลปกครองชั้นต้น เนื่องจากเห็นว่าการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาผู้ชนะการประเมินของเอกสารการคัดเลือกเอกชนโครงการดังกล่าว ไม่ใช่การแก้ไขในหลักการสำคัญตามมติ ครม. จึงไม่ต้องเสนอที่ประชุม ครม.พิจารณาอีกรอบ และการดำเนินการดังกล่าวไม่จำเป็นต้องรับฟังความคิดเห็นจากเอกชนก่อนแต่อย่างใด ประกอบกับการแก้ไขเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์ดังกล่าว ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 ใช้ดุลพินิจโดยสุจริต ไม่เลือกปฏิบัติ และเป็นการกระทำที่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ถูกฟ้องคดีทั้ง 2 จึงไม่มีการกระทำละเมิดต่อผู้ฟ้องคดี และไม่จำเป็นต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดี

แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ