สังคม

มูเตลูไทยเฟื่องฟูสุดๆ ดันธุรกิจความเชื่อคึกคัก รายได้รวมปลายปีเพิ่มขึ้นกว่า 113%

โดย nutda_t

28 ก.พ. 2566

292 views

นายสินิตย์ เลิศไกร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตั้งแต่ปี 2563 เข้าสู่ปี 2566 มูเตลู หรือความเชื่อในศาสตร์เร้นลับ การบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ เพื่อเสริมดวงและโชคชะตาในประเทศไทยกำลังได้รับความนิยมเพิ่มสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ผู้นับถือศาสตร์มูเตลู (สายมู) เชื่อว่าการบูชาและศรัทธาในสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ไสยศาสตร์ เครื่องรางของขลังจะช่วยส่งเสริมด้านการงาน การเงิน โชคลาภ และความรัก ซึ่งเป็นที่พึ่งทางใจและส่งพลังด้านบวกให้ชีวิต ผนวกกับเรื่องของความเชื่อเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยบรรเทาความกังวลและความไม่แน่นอน โดยเฉพาะสถานการณ์ที่เศรษฐกิจมีความผันผวน มีปัจจัยที่ไม่อาจคาดการณ์เกิดขึ้นหลายอย่าง เช่น โรคอุบัติใหม่ โรคระบาด อันตรายจากปัญหาสิ่งแวดล้อม ความเหลื่อมล้ำทางสังคม การศึกษา ความเห็นต่าง รวมทั้ง การไม่สามารถปรับตัวให้ทันเทคโนโลยีสมัยใหม่ และสถานการณ์ต่างๆ ที่ส่งผลต่อชีวิตประจำวัน ทำให้ภาคธุรกิจสบโอกาสที่จะนำความเชื่อในมูเตลูมาใช้สร้างรายได้และผลกำไรมากขึ้น




เมื่อพิจารณาถึงการบริหารจัดการ พบว่า มีการปรับตัวนำศาสตร์แห่งความเชื่อมาใช้วางแผนกลยุทธ์ทางการตลาด โดยเฉพาะการตลาดออนไลน์ และประชาสัมพันธ์สินค้า/บริการ โดยจัดแคมเปญให้เข้าถึงผู้บริโภคทุกช่วงอายุมากขึ้น รวมทั้ง ใช้ผู้ทรงอิทธิพลทางความคิด หรือ อินฟลูเอ็นเซอร์ ซึ่งก็คือผู้มีชื่อเสียงมาสร้างความน่าเชื่อถือและสร้างประสบการณ์ร่วมด้านอารมณ์/ความรู้สึกกับลูกค้า ส่งผลให้ ธุรกิจกิจกรรมด้านความเชื่อเพื่อสนับสนุนการตลาด มีอัตราการเติบโตเพิ่มสูงขึ้นตลอด 3 ปีที่ผ่านมา


ปี 2563 - 2565 ธุรกิจกิจกรรมด้านความเชื่อเพื่อสนับสนุนการตลาดมีอัตราการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจเพิ่มขึ้น ปี 2563 จดทะเบียนจัดตั้ง 11 ราย ทุนจดทะเบียน 7.59 ล้านบาท ปี 2564 จัดตั้ง 20 ราย เพิ่มขึ้น 81.8% ทุน 13.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.82 ล้านบาท หรือ 76.7% // ปี 2565 จัดตั้ง 24 ราย เพิ่มขึ้น 20% ทุน 27.45 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.04 ล้านบาท หรือ 104.7%


ผลประกอบการธุรกิจ โดยรายได้รวมของธุรกิจ ปี 2562 อยู่ที่ 24.28 ล้านบาท สินทรัพย์ 49.54 ล้านบาท กำไร 1.12 ล้านบาท ปี 2563 รายได้รวม 28.76 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.48 ล้านบาท หรือ 18.5% //สินทรัพย์ 47.31 ล้านบาท ลดลง 2.23 ล้านบาท หรือ 4.5% //กำไร 1.52 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.40 ล้านบาท หรือ 35.7% และ ปี 2564 รายได้รวม 61.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.52 ล้านบาท หรือ 113.1% //สินทรัพย์ 71.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 23.76 ล้านบาท หรือ 50.22% ขาดทุน 1.86 ล้านบาท ลดลง 3.38 ล้านบาท หรือ 222.4%




ทั้งนี้ ปี 2564 มีรายได้รวมและสินทรัพย์เพิ่มขึ้นจากปี 2563 แต่มีผลประกอบการขาดทุน แสดงถึงแนวโน้มของธุรกิจอยู่ในช่วงขยายการลงทุนรองรับการเติบโตหลังสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคโควิด-19 คลี่คลายลง


การลงทุนในธุรกิจส่วนใหญ่เป็นคนไทย มูลค่าการลงทุน 98.55 ล้านบาท คิดเป็น 96.64% ของการลงทุนในธุรกิจทั้งหมด และมีการลงทุนจากต่างชาติ 2 สัญชาติ คือ จีน มูลค่า 2.45 ล้านบาท คิดเป็น ร้อยละ 2.4% และ ฝรั่งเศส มูลค่า 0.98 ล้านบาท คิดเป็น 0.96% ของการลงทุนทั้งหมด


ปัจจุบัน ธุรกิจกิจกรรมด้านความเชื่อเพื่อสนับสนุนการตลาดที่ดำเนินกิจการอยู่ในประเทศไทย ณ วันที่ 31 มกราคม 2566 มีจำนวน 93 ราย คิดเป็น 0.01% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ 857,511 ราย และมีมูลค่าทุน 101.98 ล้านบาท คิดเป็น 0.0005% ของธุรกิจทั้งหมดที่ดำเนินการอยู่ในประเทศไทย 21.36 ล้านล้านบาท ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจขนาดเล็ก


ทั้งนี้ วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดล สำรวจพบว่าความเชื่อด้านโชคลางของคนไทย 5 อันดับแรก ได้แก่ 1) การพยากรณ์ (รายวัน รายเดือน รายสัปดาห์) โหราศาสตร์ ลายมือ ไพ่ยิบซี 2) พระเครื่องวัตถุมงคล 3) สีมงคล 4) ตัวเลขมงคล และ 5) เรื่องเหนือธรรมชาติ ส่วนช่องทางการเข้าถึงข้อมูลและเนื้อหาด้านความเชื่อโชคลาง ส่วนใหญ่ผ่านช่องทางโซเชียลมีเดียและเว็บไซต์ รองลงมา คือ บุคคลรอบข้าง และการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญในศาสตร์นั้นๆ ตามลำดับ


ขณะเดียวกันธุรกิจกิจกรรมด้านความเชื่อเพื่อส่งเสริมการตลาดในประเทศไทยมีการจดทะเบียนจัดตั้งเป็นนิติบุคคลค่อนข้างน้อย เมื่อเทียบปริมาณของผู้ประกอบธุรกิจด้านความเชื่อในตลาด ส่วนใหญ่นิยมประกอบกิจการในรูปบุคคลธรรมดา จึงขอเชิญชวนผู้ประกอบธุรกิจ หากต้องการให้ธุรกิจมีความน่าเชื่อถือหรือขยายธุรกิจสู่การให้บริการอื่นๆ การจดทะเบียนนิติบุคคลจะมีส่วนช่วยในการสร้างความน่าเชื่อถือและต่อยอดทางธุรกิจได้หลากหลายมากขึ้น



แท็กที่เกี่ยวข้อง  

คุณอาจสนใจ